HIFU ที่ไหนดี 6 ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ
หลายๆ คนที่มีปัญหาแก้มเยอะ เหนียงยาน หน้าใหญ่ กรอบหน้าไม่ชัด และมีความกลัวที่จะร้อยไหมหรือใช้เข็มในการแก้ไขปัญหา และกลัวเจ็บ ไฮฟู(HIFU) จึงเป็นทางเลือกหนึ่งในการแก้ปัญหาต่างๆ เหล่านี้
การทำไฮฟู ( Hifu ) เหมาะกับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย ผิวหน้าไม่กระชับ หลักการทำงานของ ไฮฟู(HIFU) เป็นการส่งคลื่นพลังงานความร้อน อัลตราซาวน์ ลงลึกถึงชั้น SMAS ที่เป็นชั้นยกดึงหน้าให้ตึงกระชับ ช่วยให้ผิวเฟิร์มเด้งขึ้น ไม่ต้องพักฟื้น เห็นผลไว และปลอดภัยมากเลยทีเดียว
ใครๆก็คงอยากใบหน้ากระชับ เรียวสวย และอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้นซึ่งคงไม่แปลกที่ตอนนี้ ไฮฟู( HIFU)เป็นที่นิยมมาก เนื่องจากตอบโจทย์ ความต้องการในหลายๆด้านของผู้ที่อยากยกกระชับและลดแก้มโดยไม่ต้องผ่าตัดศัลยกรรมหรือกลัวเข็มกลัวการร้อยไหม
ต่อก่อนตัดสินใจทำ เราควรจะเลือกสถานที่ ทำ HIFU และที่ไหนดี วันนี้เรามี 6 เคล็ดลับดีๆ ก่อนตัดสินใจทำไฮฟู(HIFU) มาฝากค่ะ โดยสามารถพิจารณาตามเกณฑ์ ดังนี้
1. สถานบริการปลอดภัย
สิ่งที่ต้องพิจารณา อย่างแรก ในการทำไฮฟู HIFU คือ เราต้องพิจารณาเลือกคลินิกที่เราจะเข้าไปใช้บริการก่อน ว่าคลินิกนั้น เป็นคลินิก ได้รับบริการที่ปลอดภัย เห็นผล และได้รับมาตรฐานจากกระทรวงสาธารณสุขมีการตรวจสอบได้ ซึ่งปกติแล้วคลินิกหรือสถานพยาบาลจะมีเลขใบอนุญาติติดหน้าร้านเป็นเลข 11 ตัว
ซึ่งจะช่วยให้เรารู้สึกมั่นใจอุ่นใจ และปลอดภัยขึ้นค่ะ
2. ทำกับแพทย์หรือไม่
ไหนๆก็จะเสียเงินแล้ว ก็ต้องเลือกทำกับคุณหมอที่มีความเชี่ยวชาญ ด้านการดูแลผิวพรรณและการปรับรูปหน้าโดยเฉพาะ ซึ่งหลายที่ๆ ที่ราคาสูงต่ำ แตกต่างกันไป
ซึ่งหากราคาถูกมากไป ก็อาจมีความเสี่ยงที่จะได้ทำกับพนักงานทั่วไป ที่ไม่ใช่แพทย์ผู่เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ซึ่งอาจทำให้ได้ผลลัพธ์ไม่เต็มที่ ไม่ตรงตามความต้องการ หรือมีความเสี่ยงที่จะทำผิดจุด ใบหน้าได้รับคลื่นที่รุนแรงไป จนเกิดเป็นหน้าไหม้ได้
ซึ่งก่อนที่จะทำ ควรมีการประเมินปัญหาคนไข้จากแพทย์ก่อน เพื่อให้แก้ปัญหาได้ถูกจุด
3.เครื่องไฮฟู(hifu)ต้องผ่านอย.ไทยได้มาตฐาน
ตัวเครื่อง HIFU ที่ทำ ต้องเป็นเครื่องรุ่นใหม่ได้มาตรฐานการรับรอง มี อย. ต้องมีทั้งในประเทศไทย และประเทศผู้ผลิต ซึ่งจะได้พลังงานในการยิงออกมาเป็นคลื่น Ultrasound โดยตัวไฮฟู(hifu)จะเป็นพลังงานแบบ focus ultrasound คือจะส่งพลังงานไปยังแต่ละชั้นผิวเป็นดอท คล้ายกับการเย็บผิวหรือการผ่าตัดศัลยกรรม หากเครื่องมาตฐานต้องลงลึกถึงชั้น SMAS แต่หากเครื่องไม่ได้มาตฐานหรือราคาการทำราคาถูกมากๆ อาจจะทำให้ไม่เห็นผลหรือเกิดผลข้างเคียง เช่นหน้าไหม้ ,ตุ่มหนอง,บวม เนื่องจากพลังงานที่ปล่อยออกมานั้นไม่เสถียรพอ
4.จำนวนช็อตที่ใช้
การจะใช้ปริมาณกี่ช็อตนั้น ต้องขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคล ซึ่งต้องบอกเลยว่าปัญหาแต่ละคนไม่เหมือนกัน ในเรื่องความหย่อนคล้อย หรือริ้วรอย ดังนั้น
การใช้ปริมาณกี่ช็อตจึงต้องเป็นการประเมินจากแพทย์รายบุคคลว่าจะแต่คนต้องใช้ปริมาณเท่าไหร่ และไม่ควรใช้มากเกินไป เพราะอาจจะทำให้การสร้างคอลลาเจนกลายเป็นทำลายคอลลาเจนใต้ผิวแทนก็ได้ นอกจากไม่เห็นผลแล้ว อาจจะทำให้ผิวไหม้ได้ค่ะ แต่ก็ไม่ควรทำน้อยเกินไปเพราะอาจจะทำให้ไม่เห็นผลเช่นกัน ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องเข้าไปปรึกษาแพทย์ดูอีกที ปกติประมาณ 200-600 ค่ะ
การนับช๊อตนั้นหลายคนเคยได้ยินมาว่า ต้องยิงเป็น 1,000 ช๊อตซึ่งความเป็นจริงแล้ว หลายคนเข้าใจผิดเรื่องการนับช๊อต ของชาเมอร์ คลินิกในการหมอกด 1 ครั้งเราจะนับ = 1 ช๊อตเท่านั้น แต่บางคลินิกจะนับเป็น 5 ช๊อตเนื่องจากมีเสียงจากเครื่อง 5 ครั้งความจริงแล้วเสียงที่ได้ยิน เป็นเพียงรอยจุดที่ hifu เย็บลงไปใต้ผิว
5.หัว ไฮฟู ( HIFU )
ในการทำ ไฮฟู(HIFU) จะมีหัวในการทำ HIFU 4 หัว ซึ่งแต่ละหัวจะใช้ยิงในตำแหน่งที่แตกต่างกันไปค่ะ ดังนี้
1.หัว 1.5 มีพลังงานลึกถึง 1.5 มิลลิเมตร ช่วยลดริ้วรอยเล็กๆ ที่เกิดจากการเสื่อมของ Collagenไวใช้บริเวณใต้ตาหรือหน้าผาก
2.หัว 3 มีพลังงานลึกถึง 3 มิลลิเมตร กระตุ้นการสร้าง Collagen ใต้ผิวหนัง
3.หัว 4.5 มีพลังงานลึกถึง 4.5 มิลลิเมตร ยกกระชับ ลงลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นที่ศัลยแพทย์ใช้ในการผ่าตัดยกกระชับหน้า
4.หัว 13 มีพลังงานลึกถึง 13 มิลลิเมตร จะช่วยลดไขมันแก้ม ขนาดไขมัน ลดขนาดไขมันแขน / ขา
การยิงนั้นอาจจะต้องใช้หัวมากกว่า 1 หัวเพื่อให้ได้ผลเต็มที่ เช่นการยิงไฮฟูยกกระชับแก้ม อาจจะต้องยิงทั้ง 3หัวควบคู่กัน
6.รีวิวจากลูกค้า
เป็นธรรมดาที่ลูกค้าต้องมีการดูรีวิว ก่อนตัดสินใจทำ ซึ่งสิ่งสำคัญอย่างหนึ่ง ในการเลือกทำ ไฮฟู(HIFU) ที่ไหนดี ? ควรเลือกจาก สถานที่ที่มีการรีวิวน่าเชื่อถือ จาก Case ลูกค้าจริง ซึ่งจะทำให้เห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด ก่อนตัดสินทำ
เห็นไหมคะ ว่าหากเรามีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ก่อนตัดสินใจทำไฮฟู( HIFU)ก็ช่วยให้เราเลือกทำได้แบบปลอดภัยลดความเสี่ยงไม่เสียเงินฟรี แน่นอนค้า
หากใครที่ยังมีคำถาม และไม่มั่นใจว่าจะทำไฮฟู( HIFU) ดีไหม หรือเลือกทำที่ไหนดี หรืออยากปรึกษากับทางชาเมอร์ คลินิก ก็สามารถเข้ามาปรึกษาคุณหมอได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ หรือ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม