7 ยี่ห้อโบท๊อกซ์( Botox) ที่ผ่านอยไทย แตกต่างกันอย่างไร เลือกฉีดตัวไหนดี ?
ปัจจุบันได้มีการนำความสวยงามมาผสมผสานกับวิทยาศาสตร์ ทำให้การดูแลความสวยความงามมีหลายทางเลือกมากขึ้น และส่งเสริมความงามอีกแบบที่ดาราและคนกำลังให้ความสนใจกันมาก นั่นก็คือการฉีด BOTOX ซึ่งเป็นโปรตีนบริสุทธิ์ ที่เรียกกันว่า โบทูลินุ่มท็อกซิน
ซึ่งปัจจุบันก็มีหลากหลายยี่ห้อ มีทั้งโบท็อกซ์จาก อเมริกา อังกฤษ และเกาหลีซึ่งแน่นอนว่าหลายๆท่านอาจจะรู้จักกันมาบ้างแล้ว แต่วันนี้เราจะพามารู้จักมาขึ้นกับ BOTOX 7 ยี่ห้อดังที่ได้รับความนิยม รวมถึงผ่านมาตฐานอยไทยเรียบร้อยแล้ว
แต่ต้องบอกก่อนว่า Botox (โบท๊อกซ์)นั้นต่างก็ มีคุณสมบัติในการลดเลือนริ้วรอย หรือการฉีดโบท๊อกซ์เพื่อลดกรามที่กำลังเป็นที่นิยม โดยเมื่อฉีดโบท๊อกซ์(botox)เข้าไปแล้วจะไปบล็อคการทำงานของกล้ามเนื้อเล็กๆบนใบหน้า
โดยจะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดหยุดทำงานไปชั่วคราว ผลลัพธ์ คือ มีผลลดริ้วรอยบนใบหน้า หรือ การฉีดโบท๊อกซ์ลดขนาดกล้ามเนื้อกราม รอยย่นระหว่างคิ้ว หน้าผาก รอยตีนกา ลองมาดูกันดีกว่าว่ามี Botox (โบท๊อกซ์)ยี่ห้อไหนที่น่าสนใจบ้าง
1.Botox USA โบท็อกซ์อเมริกา (ยี่ห้อ ALLERGAN)
เป็นโบท็อกซ์ตัวแรกที่มีการนำมาใช้เพื่อความงาม และมีการวิจัยทางการแพทย์สูงสุด จึงมีค่าทางการแพทย์สูงสุด เหมือนกระเป๋าแบรนด์เนมชั้นนำดีดีนี้เอง รวมทั้งเกรดคุณภาพสูงสุด และมีงานวิจัยจากทั่วโลก และยังเป็นที่นิยมใช้กันทั่วโลก มาอย่างยาวนาน
โบท๊อก ราคาต่อขวด 100 unit = 1x,xxx ขึ้นไป
2.โบท็อกซ์อังกฤษ (ยี่ห้อ Dysport)
เป็นโบท็อกซ์อีก 1 ยี่ห้อที่ได้รับความนิยม เห็นผลรวดเร็ว โดยเฉพาะการใช้ โบท๊อกซ์ (botox) ลิฟติ้งหน้าหรือการทำ dermolift ทำให้หน้ากระชับแบบเร่งด่วน แต่แน่นอนต้องแลกมากับระยะเวลาการอยู่ของ botox(โบท๊อกซ์)สั้นลงตามได้วย
โบท๊อก ราคาต่อขวด = 1x,xxx ขึ้นไป
3. Botox Korea โบท็อกซ์เกาหลี (Neuronox)
โบท็อกซ์เกาหลีนั้นก็มีหลายยี่ห้อ แต่ที่นิยมอีกยี่ห้อหนึ่งก็คือยี่ห้อ Neuronox เนื่องจากมีนำสายโมเลกุลโปรตีนใกล้เคียงกับโบอเมริกามากที่สุด ผลลัพธ์ฉีดใกล้เคียงกับการฉีดของโบอเมริกา การออกฤทธิ์เร็วแต่ก็หมดฤทธิ์ไว โดยผลลัพธ์หลังฉีดอาจจะอยู่ไม่ถึง 4 เดือน เน้นเรื่องความเป็นธรรมชาติ แต่ราคาถูกกว่าโบอเมริกามาก (ปัจจุบันโดนถอดอยไทยแล้วค่ะ)
โบท๊อก ราคาต่อขวด 100 unit = 9,xxx ขึ้นไป
4. Botox Korea โบท็อกซ์เกาหลี (ยี่ห้อ botulax)
เชื่อว่าหลายๆคนคงคุ้นหูดี กับ botox ยี่ห้อ botulax ของเกาหลี และยังเป็นที่นิมยมใช้ในคลินิกชั้นนำ เห็นผลเร็วและอยู่นาน เหมาะมากกับการลดกล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น กรามซึ่งเป็นที่นิยมของคนไทยมากๆอีกด้วย แต่ปัจจุบันถอดอยจากไทยแล้วค่ะ
โบท๊อก ราคาต่อขวด 100 unit = 8,xxx ขึ้นไป
5. Botox GERMANY โบท็อกซ์เยอรมัน (ยี่ห้อ Xeomin )
โบท๊อกซ์(botox) ฝั่งยุโรปก็มาอีกแล้วคะ 1 แบรนด์ซึ่งได้นำเข้ามาใช้ในไทยได้ไม่นานมากนัก โดยจุดขายของเค้าคือ การลดอาการดื้อยาในระยะยาว เพราะมีความบริสุทธ์สูง
โบท๊อก ราคาต่อขวด 100 unit = 2x,xxx ขึ้นไป
6. Botox Korea โบท็อกซ์เกาหลี (ยี่ห้อ AESTOX)
เรียกว่า โบท๊อกซ์เกาหลีตอนนี้เป็นที่นิมยมมากๆ ซึ่งก็มีหลากหลายยี่ห้อมาให้เราเลือกใช้ และยี่ห้อ AESTOX ก็เป็นตัวใหม่ล่าสุดที่เพิ่งผ่านการรับรองจาก อยไทยได้เพียงไม่นาน อาจจะยังไม่ค่อยคุ้นหูเท่าไหร่ แต่เค้าเคลมเรื่องของการฉีดแล้วมีความเป็นธรรมชาติสูง หน้าดูไม่แข็ง ตัวนี้เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น เป็นอีกหนึ่งตัวที่ปัจจุบันหลายคลินิกเลือกใช้ คลินิกอ่านข้อมูล AESTOX Botox แท้ที่นี่
โบท๊อก ราคาต่อขวด 100 unit = 8,xxx ขึ้นไป
7. Botox Korea โบท็อกซ์เกาหลี (ยี่ห้อ NABOTA)
นาโบตะ โบท๊อกซ์จากฝั่งเกาหลี ซึ่งเข้ามาในเมืองไทยนานพอสมควร โดยจุดโดดเด่นหรือจุดขายของแบรนด์นี้คือ จุดเด่นเลยคือการเห็นผลรวดเร็วมาก และยังชูเรื่องของความบริสุทธิ์ที่สูงถึง Botulinum Toxin Type A มากถึง 98.7% และยังเป็นแบรนด์เดียวของเกาหลี ที่ได้รับ USFDA อยในอเมริกา ก็ค่อนข้างมั่นใจในความปลอดภัยและการเห็นผลที่ดี
ราคานาโบตะ โบท๊อก ราคาต่อขวด 100 unit = 8,xxx ขึ้นไป
ความแตกต่างโบท็อกซ์เกาหลีกับอเมริกา มีอะไรบ้าง
โบท๊อกซ์ (Botox) อเมริกา จะเป็นแบรนด์แรกของโลก(allergan) ซึ่งแน่นอน มีการใช้ในโรงพยาบาลที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลก รวมไปถึงงานวิจัยที่เยอะกว่า รวมทั้งมีความบริสุทธิ์ของตัวยาสูงลดการเสี่ยงดื้อยาหรือดื้อโบท๊อกซ์ในระยะยาวและสำหรับใครที่ชอบความเป็นธรรมชาติ ดูหน้าไม่แข็ง โบท๊อกซ์อเมริกาตอบโจทย์แน่นอน
โบท๊อกซ์ (Botox)เกาหลี ผู้นำเทรนด์ความงามของสาวๆไทย โดดเด่นมากก็คือราคาจับต้องได้ไม่แพง คุณภาพนั้นก็มีความไกล้เคียงกับอเมริกา ซึ่งปัจจุบันก็มีหลายยี่ห้อมากมายจากเกาหลี ซึ่งชูจุดเด่นแตกต่างกัน แต่หากสังเกตุจากการใช้งานแล้ว
โบท๊อกซ์เกาหลียังอาจจะมีฉีดแล้วหน้าดูแข็งไม่ค่อยเป็นธรรมชาติได้บ้าง แต่เห็นผลดีสำหรับกล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น กรามหรือน่องเนื่องจากโมเลกุลของโบท๊อกซ์(botox)ใหญ่กว่าอเมริกานั่นเอง
เป็นยังไงบ้างหวังว่าพอจะเข้าใจและช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายมากขึ้นนะ ส่วนใครสนใจอยากทราบข้อดี ข้อเสีย botox สามารถกดอ่านที่นี่ หากสนใจและต้องการติดต่อสอบถามเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ Charmer Clinic ทุกสาขาได้เลยนะ
รีวิวหลังฉีด โบท๊อกซ์
คลิกอ่านบทความ AESTOX BOTOX เกาหลีดียังไง ที่นี่
คลิกอ่านบทความ 10 คำถามสุดฮิตเกี่ยวกับ botox
คลิกอ่านบทความ ข้อดี ข้อเสีย โบท๊อกซ์
คลิกอ่านบทความ allergan botox vs botulax แตกต่างกันอย่างไร
คลิกอ่าน บทความ โบท๊อกซ์(botox)และฟิลเลอร์(filler)แตกต่างกันอย่างไร คลิก
คลิกอ่านบทความ ร้อยไหมกับโบท๊อกซ์ (botox)เลือกอันไหนดี
คลิกอ่าน รีวิวลูกค้าลดริ้วรอยด้วยโบท๊อกซ์ pantip
คลิกอ่านบทความ HIFU 6 ข้อควรรู้ check ก่อนทำ
คลิกอ่านบทความร้อยไหมมีกี่แบบ