ก่อนเข้ารับการ ฉีด Botox สิ่งที่คุณควรรู้ก่อนทำมีอะไรบ้าง เพราะการ ฉีดสารโบท็อกซ์ เป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงในหมู่สาวๆ ยุคสมัยนี้ แล้วสิ่งที่คุณต้องรู้ก่อนฉีดมีอะไรบ้าง บทความ Charmer Clinic วันนี้มีคำตอบค่ะ
ฉีด Botox คืออะไร?
สำหรับการ ฉีด Botox ( ฉีดสารโบท็อกซ์ ) คือการฉีดโปรตีนที่ทำการสกัดจากแบคทีเรียที่ชื่อ คลอสตริเดียม โบทูลินั่ม ( Clostridium botulinum ) ซึ่งแบคทีเรียชนิดนี้จะสร้างสารที่เป็นพิษที่เรียกว่า โบทูลิซึม ( Botulism ) ซึ่งมีพิษต่อมนุษย์ แต่ต่อมาได้มีการวิจัยและทดลองนำมาสกัด เพื่อให้ในการรักษาเรื่องของกล้ามเนื้อหดเกร็ง การชักกระตุกตา หรือตาเข และได้นำมาใช้ด้านความงาม เช่น การฉีดลดริ้วรอยตีนกา รอยขมวดคิ้ว หรือ ลดกราม ลดปีกจมูก ลิฟติ้งยกกระชับหน้า

ขั้นตอนการ ฉีด Botox
- แพทย์ตรวจสอบสภาพผิวและปัญหาที่จะทำการ ฉีดโบ และสอบถามความกังวลบริเวณจุดไหน เพื่อทำความเข้าใจร่วมกัน รวมถึงแนะนำยี่ห้อผลิตภัณฑ์ในการฉีดว่าเป็นยี่ห้อใด
- พนักงานทายาชาหรือใช้น้ำแข็งประคบบริเวณที่จะฉีดก่อน เพื่อลดความเจ็บหรือความกังวลลง
- แพทย์ทำการ ฉีดสารโบท็อกซ์ โดยจะใช้เข็มขนาดเล็กมาก ในปริมาณพอเหมาะตามจุดที่มาร์คไว้ลงไปที่กล้ามเนื้อ เวลาในการฉีดจะประมาณ 10 – 15 นาที ขึ้นอยู่กับบริเวณและปริมาณที่ฉีด
- พนักงานแนะนำการดูแลหลังทำ และนัดติดตามผล
การดูแลตัวเองหลัง ฉีด Botox
หลังจากฉีด แพทย์และพนักงานจะแนะนำวิธีการดูแลตัวเองต่างๆ ซึ่งไม่ยุ่งยาก ได้แก่
- ไม่นอนราบในช่วง 3 – 4 ชั่วโมงแรกหลังจาก ฉีดโบ เพราะโบท็อกซ์อาจไหลไปในบริเวณที่ไม่ต้องการ
- ให้นอนหงายหนุนหมอนสูง ในคืนแรกของการรักษา
- หลีกเลี่ยงความร้อนต่างๆ เช่น การเซาว์น่า, เลเซอร์ความร้อน และงดนวดหน้า สปาหน้าบริเวณเพิ่งฉีด มาเป็นเวลา 2 สัปดาห์
- ไม่นวด กด บีบ คลึง บริเวณที่เพิ่งทำการ ฉีด Botox เป็นเวลา 6 – 8 ชั่วโมง เนื่องจากการทำให้ยากระจายไปออกฤทธิ์ยังบริเวณอื่นได้
- อาจมีอาการบวมแดง หรือเขียวช้ำในช่วง 1-2 วันแรก หลังการฉีด ( ซึ่งเป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นได้เนื่องจากเข็มฉีดยา ) ให้ใช้น้ำแข็งประคบได้

ดื้อโบท็อกซ์ หรือเคยฉีดแล้วไม่เห็นผล เกิดจากอะไรได้บ้าง?
หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า ดื้อโบท็อกซ์ มาก่อน ซึ่งอาการนี้หมายถึงการ ฉีด Botox แล้วไม่เห็นผลนั่นเอง
โดยมีสาเหตุเนื่องมาจากโปรตีนในสารโบท็อกซ์นั้นมีหลายชนิด ซึ่งเมื่อฉีดเข้าร่างกายไปแล้ว ร่างกายของผู้เข้ารับบริการบางรายจะสร้างภูมิต้านทานขึ้นมาเพื่อต่อต้านสารโปรตีนดังกล่าว ทำให้การออกฤทธิ์ของสารโบท็อกซ์ไม่เห็นผล ซึ่งปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดการ ดื้อโบท็อกซ์ ได้แก่
- การใช้โบท็อกซ์ยูนิตที่สูงเกินไป มากเกินความจำเป็นก็สามารถทำให้ ดื้อโบท๊อกซ์ ได้
- การ ฉีดสารโบท็อกซ์ ที่ถี่เกินไป บางคนไปฉีดทุกเดือน ซึ่งไม่ถูกต้อง เพราะจะเป็นสาเหตุหลักๆ เลยที่ทำให้เกิดการ ดื้อโบท๊อกซ์
- การใช้โบท๊อกซ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ยาหิ้วที่อาจจะรักษาความเย็นไม่ได้ หรือผลิตจากแหล่งที่มาไม่แน่นอน ก็ทำให้เกิดการ ดื้อโบท๊อกซ์ หรือฉีดแล้วไม่เห็นผลได้
ดังนั้น ผู้เข้ารับบริการ จึงควร ฉีด Botox ในปริมาณที่เหมาะสม และควรเว้นระยะห่างอย่างน้อย 4 – 6 เดือน ตามบริษัทกำหนด เพื่อลดความเสี่ยงการดื้อยา ซึ่งหากโบท๊อกซ์ที่เราใช้ผสมยาตามมาตฐานแล้ว สามารถอยู่ได้ 4 – 6 เดือน ยกเว้นมีการเจือจาง ทำให้โบท๊อกซ์อยู่ได้ไม่นาน
การแก้ไขปัญหา เมื่อคนไข้เกิดอาการ ดื้อโบท็อกซ์
- ให้เว้นระยะเวลาการฉีดออกไปก่อน เพื่อให้ร่างกายได้สลายสารสกัดโปรตีนออกให้หมด ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 1 – 2 ปี แล้วค่อยกลับมาฉีดใหม่
- ใช้สาร โบท๊อกซ์ TYPE อื่น ( ในปัจจุบันที่ใช้ส่วนมากจะเป็น TYPE A ) อาจจะต้องเปลี่ยนเป็น type B แต่ราคาจะสูงและหาซื้อยาก
ทางที่ดีเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ โบท็อกซ์ ผ่าน อย. และผสมยาตามมาตฐาน
ข้อควรระวังและผลข้างเคียงที่อาจเกิดได้หลัง ฉีด Botox
โดยส่วนมาก การ ฉีด Botox มักไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายร้ายแรง หากฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม รวมถึงมีการเว้นระยะการฉีดไปไม่ต่ำกว่า 4 เดือน แต่ก็มียกเว้นคนที่มีโรคประจำตัวหรือภาวะบางอย่าง ไม่ควร ฉีดโบ ดังนี้
- ผู้มีความผิดปกติทางกล้ามเนื้อและระบบประสาท เช่น โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ( Myasthenia gravis ) โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงเอแอลเอส (Amyotrophic Lateral Sclerosis: ALS ) ไม่ควร ฉีด Botox เพราะอาจทำให้อาการของโรคแย่ลง
- หญิงตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร แม้จะยังไม่มีรายงานเรื่องอันตราย แต่ก็ไม่มีข้อมูลเพียงพอรับรองว่าปลอดภัยเช่นกัน อีกทั้งในระหว่างการตั้งครรภ์ คุณแม่ควรจะหลีกเลี่ยงสารเคมีที่อาจส่งผลต่อร่างกาย ไม่ว่าจะบริเวณไหนก็ตามให้มากที่สุด ดังนั้น หญิงตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตรจึงควรหลีกเลี่ยงการฉีดไปก่อนค่ะ
ส่วนใครที่ยังไม่แน่ใจหรือต้องการอยากปรึกษากับคุณหมอผู้เชี่ยวชาญ สามารถเข้ามาปรึกษาการ ฉีดสารโบท็อกซ์ ได้กับคุณหมอได้ที่ ชาเมอร์ คลินิก หรือสามารถสอบถามรายละเอียดการฉีดได้ที่ช่องทาง LINE ติดต่อเบอร์โทร Call 085-919-2768 หรือค้นหาสาขาสะดวกใกล้คุณได้ที่นี่ คลิกเลยค่ะ! สาขา Charmer Clinic




คลิกอ่านบทความเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้อง ที่นี่!
🔷ฉีดโบท็อก ห้ามกินอะไร พร้อมข้อควรปฎิบัติเพื่อคงผลลัพธ์ คลิกอ่านบทความ! ฉีดโบท็อก ห้ามกินอะไร
🔷ฉีดโบท็อกซ์แล้วปากเบี้ยว สาเหตุเกิดจากอะไร Botox อันตรายแค่ไหน? คลิกอ่านบทความ! botox ปากเบี้ยว
🔷ปัญหาโบท็อก มีอะไรบ้างที่เกิดขึ้นได้? ชามี่มีคำตอบ คลิกอ่านบทความ! ปัญหาโบท็อก
ติตตามสาระความงามทุกช่องทางมีเดียจาก Charmer Clinic ที่นี่!
กดติดตามเพจ FB คลิกเลย! FB Charmer Clinic
กดติดตาม Tiktok คลิกเลย! Tiktok Charmer Clinic
กดติตตามช่อง Youtube คลิกเลย! Youtube Charmer Clinic
กดติดตาม IG คลิกเลย! IG Charmer Clinic
กดติดตาม Twitter คลิกเลย! Twitter Charmer Clinic
กดอ่านบทความสาระความงามอัพเดทใหม่ๆ คลิกเลย! บทความ Charmer Clinic









