เทคโนโลยียกกระชับผิวหน้า มีให้เลือกมากมายหลายรูปแบบ อย่าง Oligo และ Thermage ก็เป็นหนึ่งใน เทคโนโลยียกกระชับผิว ที่กำลังนิยมอย่างมากในปัจจุบัน แต่ทั้งสองอย่างนี้ก็ยังมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาเปรียบเทียบให้ดูกันชัดๆ ไปเลยว่า Oligio vs Thermage ต่างกันอย่างไร oligio ดีไหม และควรเลือกทำหัตถการ เทคโนโลยียกกระชับผิว แบบไหนดี ใครอยากรู้คำตอบมามุงกันตรงนี้เลย
ทำความรู้จัก Oligo กับ Thermage คืออะไร?
หากนึกถึงเครื่องยกกระชับผิว เชื่อว่าหลายคนต้องนึกถึง Thermage เป็นอันดับแรกๆ เพราะเป็นเครื่องยกกระชับที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน ทำให้ปัจจุบันมีการพัฒนาเครื่องยกกระชับรุ่นใหม่ๆ ออกมาอีกมากมาย อย่างตัว Oligio .ซึ่งเป็นเครื่องยกกระชับรุ่นใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีเดียวกับตัว Thermage เรียกได้ว่าเป็นเครื่องยกกระชับผิวที่มาแรงแข่งกันเลยทีเดียว แล้ว Oligio vs Thermage เลือกอะไรดีมาดูกัน
Oligio คืออะไร?
โปรแกรม Oligio ( โอลิจิโอ้ ) คือ เครื่องยกกระชับผิว ที่ช่วยปรับรูปหน้าให้ดูยกกระชับเรียวสวยขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมลดไขมันใต้ชั้นผิว กระชับรูขุมขน ทั้งยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอยต่างๆ และฟื้นฟูโครงสร้างผิวให้แข็งแรงขึ้น ทำให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์
Thermage คืออะไร?
Thermage ( เทอมาจ ) คือ เครื่องยกกระชับผิว ที่ใช้คลื่นวิทยุความถี่สูง Monopolar RF ยิงลงไปในชั้นผิวหนัง ช่วยสลายไขมันบริเวณแก้มและเหนียง ทำให้ผิวแน่นกระชับ ทั้งยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอย และปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กลงได้โดยที่ไม่ต้องผ่าตัด
Oligio vs Thermag มีความเหมือนหรือต่างกันอย่างไร?
สิ่งที่เหมือนกันของ Oligo และ Thermage
- ใช้เทคโนโลยีคลื่นวิทยุ Monopolar RF ในการส่งพลังงานแบบขั้วเดียว โดยใช้คลื่นความถี่ที่ 6.78 MHz
- ผ่านการรับรองจาก US FDA และ อย.ไทย
- พลังงานลงลึกถึง 3 ชั้นผิว คือ ชั้นหนังกำพร้า ( Epidermis ) ชั้นหนังแท้ ( Dermis ) และชั้นไขมัน ( Subcutaneous Fat )
- ช่วยยกกระชับผิวบริเวณใบหน้า แก้ม เหนียง พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน รวมถึงสลายไขมันได้ในคราวเดียวกัน
- นับจำนวนเป็นช็อต ( Shot )
- มีทั้งหัวยิงสำหรับใบหน้า และหัวยิงรอบดวงตา
- มีระบบปล่อยความเย็น ( Pre and Post Cooling ) และระบบสั่น ( Vibration ) จึงไม่รู้สึกเจ็บหรือไม่ระคายเคืองผิว
- หลังทำไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
สิ่งที่แตกต่างกันของ Oligo และ Thermage
- ผลิตคนละประเทศ โดย เครื่อง Oligio ผลิตที่เกาหลีใต้ ส่วน Thermage ผลิตที่สหรัฐอเมริกา
- Oligio ได้พัฒนาออกมาแค่รุ่นเดียว ต่างจาก Thermage ที่มีการพัฒนามาหลากหลายรุ่น
- Oligio มีหัวยิงน้อยกว่า ส่วน Thermage มีหัวยิงทั้ง ใบหน้า , ดวงตา และร่างกาย
- ผลลัพธ์ของ Oligio อยู่ได้นาน 6 – 12 เดือน ส่วน Thermage ประมาณ 1 – 2 ปี แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลของแต่ละบุคคล
- ราคาของ Oligo vs Thermage ไม่เท่ากัน โดย Olgio จะมีราคาที่ถูกกว่า Thermage
- ขณะที่ทำหัตถการโดย เครื่อง Oligio จะเจ็บน้อยกว่า ส่วนเครื่อง Thermage เจ็บมากกว่า แต่ทั้งนี้ก็อาจขึ้นอยู่กับการทนต่อความเจ็บปวด และการตั้งค่าพลังงานของทางแพทย์
หลักการทำงาน Oligio vs Thermag แตกต่างกันไหม?
Oligio : มีหลักการทำงานโดยใช้คลื่นวิทยุ Monopolar RF ความถี่ที่ 6.78 MHz ซึ่งสามารถลงผิวหนังได้ลึกถึง 3 mm. และสามารถปรับได้ถึง 3 โหมด เมื่อยิงลงถึงชั้นผิวผ่านหัวเข็ม Tips F4.0 ก็จะปรับเข้าสู่โหมดอัตโนมัติ เพื่อควบคุมการปล่อยคลื่นพลังงานที่สม่ำเสมอ จึงได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มปริมาณคอลลาเจน ช่วยยกกระชับผิวให้เต่งตึง พร้อมเก็บไขมันบริเวณแก้มและเหนียง ทำให้หน้าเรียวสวย กรอบหน้าชัดดูมีมิติมากขึ้น
Thermage : มีหลักการทำงาน คือ ใช้การส่งคลื่นความถี่วิทยุ Monopolar RF ลงไปที่ชั้นหนังแท้ เพื่อกระตุ้นการหดตัวของกล้ามเนื้อ ทำให้ผลิตคอลลาเจนได้มากขึ้น ริ้วรอยจางลง พร้อมฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง และลดการสะสมของไขมันในชั้นผิว นอกจากนี้ยังมีระบบ Cooling System เหมือนกับ Oligio ที่ลดการเบิร์นของผิวระหว่างที่ทำ พร้อมเทคโนโลยี AccuREP ที่ช่วยปรับพลังงานให้เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละคน
ข้อดีและข้อเสียระหว่าง Oligo กับ Thermage
ข้อดี Oligio
- เครื่อง Oligio สามารถส่งพลังงานลงลึกได้ครอบคลุมทุกชั้นผิว รวมถึงชั้นไขมัน
- มีระบบปล่อยความเย็นที่เรียกว่า Cooling System ที่ช่วยลดความเจ็บในระหว่างที่ทำ
- ใช้เวลาทำไม่นาน ประมาณ 20 – 30 นาที
- ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
- ให้ผลลัพธ์ยาวนาน 6 – 12 เดือน
ข้อดี Thermage
- พลังงานสูงสามารถลงลึกครอบคลุมทุกชั้นผิว รวมถึงชั้นไขมัน
- มีระบบปล่อยความเย็น Pre and Post Cooling และระบบสั่น ช่วยลดความเจ็บปวดลงได้
- ทำได้หลายตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็น ใบหน้า ลำคอ และลำตัว
- ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
- ให้ผลลัพธ์ยาวนาน ประมาณ 1 – 2 ปี
ข้อเสียของ Oligo และ Thermage
- หากทำโดยแพทย์ที่ขาดความรู้และประสบการณ์ หรือทำโดยใช้เครื่องปลอม อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงตามมาได้ เช่น มีอาการแสบเบิร์นผิว เกิดรอยดำ และมีรอยแผลเป็น เป็นต้น
ถ้าไม่ใช่ Oligo กับ Thermage หัตถการยกกระชับผิว มีแบบไหนบ้าง?
Hifu
ทำ hifu ดีไหม โดยเป็นการใช้คลื่นเสียงความถี่สูง ส่งพลังงานลงไปในผิวลึกถึงชั้น SMAS ช่วยยกกระชับ และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน กระชับรูขุมขน ทำให้ผิวเนียนนุ่ม ทั้งยังช่วยลดเลือนริ้วรอยเล็กๆ ได้ดี ซึ่ง Hifu จะมีให้เลือก 2 แบบ คือ Hifu Ultraformer III และ Ultraformer MPT โดยทั้ง 2 รุ่นนี้จะให้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกัน แต่ตัว MPT จะมีหัวยิงที่หลากหลายกว่า ใช้วลาน้อยกว่า และเจ็บน้อยกว่าด้วย
ฟิลเลอร์ยกหน้า
ฟิลเลอร์ สามารถแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย และยกกระชับผิวได้ ด้วยเทคนิค Filler Lifting หรือการฉีดฟิลเลอร์ยกหน้า ซึ่งจะเป็นการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปที่ชั้นไขมัน หรือกระดูกที่มีการยุบตัว เพื่อปรับรูปหน้าให้ยกกระชับ ทำให้ใบหน้าดูเด็กลง และดูมีมิติมากขึ้น
ร้อยไหมยกกระชับ
เป็นอีกหนึ่งหัตถการที่ช่วยแก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้ โดยการใช้เส้นไหมที่มีเงี่ยงสอดเข้าไปใต้ชั้นผิวหนัง เพื่อเกี่ยวและยกเนื้อเยื่อขึ้น ทำให้ใบหน้ายกกระชับ กรอบหน้าชัด และยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวแน่นตึง โดยไหมที่ใช้จะเป็นไหมชนิดละลาย และจะสลายไปเอง
Collagen Biostimulator
Collagen Biostimulator จะมีหลายตัว ซึ่งแต่ละตัวจะมีจุดเด่นในเรื่องกระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวกระชับ เต่งตึง และช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิว โดยจะมีความแตกต่างกันที่ส่วนประกอบหลัก กระบวนการทำงาน และควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับปัญหาของแต่ละคน เช่น Juvelook, Sculptra, Radiesse และ Gouri
สรุป Oligo vs Thermage เทคโนโลยียกกระชับผิว แบบไหนดี?
อย่างที่ทราบกันดีว่า Oligo กับ Thermage ต่างเป็น เทคโนโลยียกกระชับผิว ที่กำลังมาแรงด้วยกันทั้งคู่ แถมยังใช้เทคโนโลยีแบบเดียวกัน ยิงพลังงานได้ลึกถึงชั้นเดียวกัน ซึ่งแทบจะแยกไม่ออกว่าแบบไหนจะตอบโจทย์ได้ดีกว่ากัน ดังนั้นก็คงต้องดูเหตุผลอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ความเจ็บ ระยะเวลา และงบประมาณ
ซึ่งหากเปรียบเทียบ Oligo vs Thermage แล้วตัว Oligio จะมาพร้อมหัวทิปที่มีโหมดให้เลือกปรับได้ถึง 3 โหมด ช่วยควบคุมพลังงานที่ปล่อยลงผิวได้อย่างพอดี ทั้งยังมีระบบทำความเย็น ( Cooling System ) ที่ตอบโจทย์สำหรับคนกลัวเจ็บ จึงรู้สึกเย็น ไม่เจ็บ และไม่เกิดการไหม้ผิว
ส่วนของ Thermage ก็เป็นระบบปล่อยความเย็นเช่นกัน ช่วยลดความแสบร้อนลงได้บ้าง แต่ยังไม่สามารถบรรเทาความเจ็บปวด หรือลดการเบิร์นผิวได้เท่ากับตัว Oligio ทั้งยังมีราคาที่แพงกว่า และใช้ระยะเวลาในการทำหัตถการมากกว่าตัว Oligio อีกด้วย
สำหรับใครที่สนใจยกกระชับผิวด้วย Oligio ที่ Charmer Clinic พร้อมให้บริการ ด้วย เครื่อง Oligio แท้ ผ่านการรับรอง ซึ่งมีความทันสมัยและปลอดภัยสูง สามารถยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยให้กลับมากระชับเรียวสวย และดูอ่อนเยาว์ลงได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ด้วยการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมากประสบการณ์ จึงมั่นใจได้ว่าสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด พร้อมผลลัพธ์ตรงตามที่ต้องการ ติดต่อจองคิวได้ที่เบอร์โทร Call 085-919-2768 ติดต่อสอบถามขอคำปรึกษาได้เลยที่ช่องทาง LINE หรือต้องการ walk-in ค้นหาสาขาสะดวกใกล้คุณที่นี่ คลิกเลย! สาขา Charmer Clinic
คลิกอ่านบทความเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้อง ที่นี่!
🔷เติมมิติความสวยบนใบหน้าด้วย Harmonyca Filler คลิกอ่านบทความ! ฟิลเลอร์ HArmonyCA
🔷เลเซอร์ขนน้องสาว เจ็บไหม เตรียมตัวอย่างไร? คลิกอ่านบทความ! เลเซอร์ขนน้องสาว เจ็บไหม
🔷ผิวแห้ง ทำยังไง ปลดล็อคผิวใหม่ ด้วยโปรแกรม PLASHA Premium คลิกอ่านบทความ! ผิวแห้ง ทำยังไง
ติตตามสาระความงามทุกช่องทางมีเดียจาก Charmer Clinic ที่นี่!
กดติดตามเพจ FB คลิกเลย! FB Charmer Clinic
กดติดตาม Tiktok คลิกเลย! Tiktok Charmer Clinic
กดติตตามช่อง Youtube คลิกเลย! Youtube Charmer Clinic
กดติดตาม IG คลิกเลย! IG Charmer Clinic
กดติดตาม Twitter คลิกเลย! Twitter Charmer Clinic
กดอ่านบทความสาระความงามอัพเดทใหม่ๆ คลิกเลย! บทความ Charmer Clinic