วิธีทำให้หน้าใสผิวฉ่ำวาวนั้นมีหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น การทาครีม การทานวิตามินซี รวมไปถึงการฉีดเมโสหน้าใสต่างๆ ซึ่งในบทความนี้เป็นการแนะนำโปรแกรมเมโสที่ช่วยให้หน้าใส ผิวฉ่ำวาวเหมือนสาวเกาหลี ซึ่งจะเห็นผลลัพธ์ได้รวดเร็วกว่าการทาบำรุงหรือการรับประทาน แต่ข้อเสียคือผลลัพธ์อาจไม่อยู่ถาวรและบางหัตถการต้องฉีดซ้ำต่อเนื่องอยู่เรื่อยๆ
การฉีดเมโส คืออะไร
การฉีดเมโส หรือ Mesotherapy (เมโซธีราปี) คือ กระบวนการทางการแพทย์อีกประเภทหนึ่งที่ใช้ในการฉีดสารวิตามินหรือสารสกัดต่างๆไปยังผิวหนังในระดับลึกถึงชั้นเซลล์ใต้ผิวของใบหน้าเรา โดยการฉีดเมโสจะเป็นการใช้เข็มเล็กๆ ที่จะถูกฉีดเข้าไปใต้ผิวหนังในจำนวนจุดต่าง ๆ ที่มีปัญหาหรือจุดที่ต้องการรักษา
การฉีดเมโส มีที่มาอย่างไร
Mesotherapy ซึ่งเป็นคำที่มาจากคำว่า “meso” ที่แปลความหมายได้ว่า ตรงกลาง และถ้าใช้ในทางการแพทย์ของความงามและคำว่า Mesotherapy จะหมายถึงการฉีดเข้าผิวหนังชั้นกลาง ในเรื่องของการลดเลือนริ้วรอย, ฟื้นฟูผิวให้มีความอิ่มน้ำ ชุ่มชื้น ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์
การฉีดMesotherapy ต้องฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะในการฉีดทุกๆครั้งต้องลงลึกเข้าสู่ใต้ชั้นผิวกลางของใบหน้าเรา เพื่อให้ใบหน้าได้รับการบำรุงได้ตรงจุดและล้ำลึกมากที่สุด หากแพทย์ไม่มีความเชี่ยวชาญมากพออาจทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ไม่ดีรวมถึงอาจเกิดอันตรายต่อตัวเราได้
ฉีดเมโส ช่วยหน้าใส ผิวฉ่ำวาว มีอะไรบ้าง
1. Rejuran (รีจูรัน)
คือการฟื้นฟูผิวด้วยพอลินิวคลีโอไทด์(Polynucleotide) ซึ่งเป็นชิ้นส่วนที่สกัดมาจาก DNA ของปลาแซลมอน ที่อยู่ในทะเลตามธรรมชาติ ซึ่งมีDNAคล้ายคลึงกับมนุษย์ที่สุด เพื่อช่วยซ่อมแซมผิวในระดับลึก แก้ปัญหาผิวที่เสื่อมสภาพ ทำให้ผิวหน้าเรียบเนียนใส ฉ่ำวาวและรูขุมขนเล็กลง
ข้อดี
-
ช่วยฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ผิวได้ลึกถึงต้นตอของปัญหา
-
ทำให้ผิวหน้ามีความฉ่ำวาว ผิวกระจก
-
ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 6-8 เดือน
ข้อเสีย
-
ตัวยาแสบ
-
มีราคาค่อนข้างสูง
-
ไม่เหมาะกับบุคคลที่แพ้อาหารทะเล
2. Skin Booster (Meso Gun)
เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่จะช่วยแก้ปัญหาผิวต่างๆ โดยไม่ต้องผ่าตัด และยังแตกต่างจากการฉีดเมโสแบบเดิมๆ ด้วย เพราะ Skin Booster (Meso Gun) จะใช้ไมโครชิพร่วมกับหัวเข็มขนาดนาโนคริสตัลที่มีจำนวนมากมาย เพื่อนำพาสารอาหารและตัวยาที่จำเป็นเข้าสู่ผิวหนังชั้นหนังแท้ (Dermis) ทำให้เห็นผลลัพธ์เร็วและมีประสิทธิภาพสูง
ข้อดี
-
ทำให้ผิวดูสุขภาพดี ผิวดูละเอียดมากขึ้น
-
ผิวมีความอ่อนุ่ม ฉ่ำวาว
-
ลดรอยดำรอยแดงจากสิว
-
ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 1-2 เดือน
ข้อเสีย
-
ไม่อยู่ถาวร ต้องทำซ้ำ
-
ไม่เหมาะกับคนที่รีบให้หน้า
-
หากไม่ได้รับการฉีดที่ถูกต้อง อาจทำให้เกิดแผลฟกช้ำได้
3. Skin Glow Up
เป็นนวัตรกรรมจากประเทศเกาหลีที่มีสารอาหารมากกว่า 50 ชนิด บำรุงได้ลึกถึง และสารในตัวยาสกัดจากDNA ของปลาแซลมอนซึ่งเป็นสารที่สามารถเข้าได้กับ DNA บนใบหน้าของเรา รวมถึงยังมีสาร HA 1.4 Million dalton weight ที่ผสมผสานกับ Polynucletide, Multivitamin ที่มีความเข้มข้น และสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จะเห็นผลภายใน 5-14 วัน จะเห็นได้ว่าผิวหน้ามีความฉ่ำวาว ผิวหน้าดูเรียบเนียน หน้าเงาใส ริ้วรอยดูตื้นขึ้น ได้รับการรับรองมาตรฐานจาก KFDA, USFDA รวมถึงได้ผ่านการรับรองจาก อย. ไทย
ข้อดี
-
ฟื้นฟูผิว ช่วยทำให้ผิวกระจ่างใสดูสุขภาพดี
-
ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น ฉ่ำวาว
-
กระชับรูขุมขน ทำให้ผิวมีความเรียบเนียน
-
ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 1-2 เดือน
ข้อเสีย
-
หลังจากการฉีดอาจจะมีรอยเข็ม 1 – 2 วัน
-
ไม่เหมาะกับบุคคลที่แพ้อาหารทะเล
-
ผลลัพธ์ไม่ถาวร
4. Belotero revive
เป็นฟิลเลอร์ที่ให้งานผิวตัวแรกของโลกจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่ให้ผลลัพธ์ในเรื่องของงานผิว ทำให้ผิวมีความเรียบเนียน มีความฉ่ำวาว ผิวกระจก เป็นฟิลเลอร์ที่มีส่วนประกอบของHyaluronic Acid ร่วมกับ Glycerol ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้นและยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้อีกด้วย
ข้อดี
-
ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว
-
ช่วยลดริ้วรอยเล็กๆ ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
-
ช่วยกระชับรูขุมขนให้มีความเรียบเนียน
-
ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 7-9 เดือน
ข้อเสีย
-
อาจจะมีรอยเขียวช้ำตรงบริเวณที่ฉีด
-
อาจจะมีรอยแดงเล็กน้อย
-
ราคาค่อนข้างสูง ผลลัพธ์ไม่ถาวร
5. EXOSOME
เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเรื่องของการฟื้นฟูผิวและบำรุงผิว เพราะมีสารโมเลกุลกว่า 1,000 ชนิด และโปรตีนอีกหลายชนิดที่สกัดมาจากStem Cellมีลักษณะเป็นถุงทรงกลมขนาดเพียง 30-100 นาโนเมตร ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าเซลล์ทั่วไปถึง1/1000 เท่า ซึ่งช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์ต่างๆให้กลับมาแข็งแรง
ข้อดี
-
ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่
-
ลดการอักเสบของผิว สร้างคอลลาเจนให้ผิว
-
ช่วยให้ผิวดูสุขภาพดี ผิวดูชุ่มชื้น มีออร่ากระจ่างใส
-
ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน
ข้อเสีย
-
อาจมีผลข้างเคียงเช่น บวม แดง ที่เกิดขึ้นในบางกรณี.
-
ราคาค่อนข้างสูง ผลลัพธ์แตกต่างกันแต่ละบุคล
-
ผลลัพธ์ไม่ถาวร ต้องกลับมาฉีดซ้ำ
6. Sculphra
เป็นคอลลาเจนในรูปแบบฉีด ซึ่งจะประกอบด้วย PLLA หรือชื่อเต็มคือ Poly-L-Lactic acid ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ให้ผิวมีความกระชับขึ้น อิ่มฟูขึ้น และยังช่วยฟื้นฟูทำให้ผิวมีความแข็งแรง แและมีความอ่อนเยาว์ดูเป็นธรรมชาติ โดยการฉีด Sculptra ควรทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ทางการแพทย์และมีความเข้าใจในกระบวนการที่มีความซับซ้อนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ซึ่งผลลัพธ์จะปรากฏเป็นช้า ๆ ตลอดช่วงเวลาประมาณหกเดือนหรือมากกว่า
ข้อดี
-
ช่วยฟื้นฟูผิวชั้นลึก ปรับโครงสร้างผิวจากภายใน
-
ช่วยเติมเต็มริ้วรอยล่องลึก สร้างคอลลาเจน
-
ช่วยให้ผิวดูชุ่มชื้น กระจ่างใส ธรรมชาติ
-
ไม่ต้องฉีดซ้ำบ่อยๆ ผลลัพธ์อยู่ได้นานเป็น 1 ปี
ข้อเสีย
-
หลังทำอาจมีอาการบวมแดง ช้ำ อาการปวดเล็กน้อย
-
ราคาสูง อาจจะต้องซื้อเป็นคอร์สเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
-
ไม่ทันใจ เนื่องจากต้องใช้เวลาในการเห็นผลลัพธ์หลายเดือน
-
ไม่เหมาะสำหรับทุกคน ควรปรึกษากับแพทย์ที่มีประสบการณ์เพื่อแน่ใจความเหมาะสม
7. ฟิลเลอร์ที่ช่วยในเรื่องของผิวหน้าใส
ฟิลเลอร์ Restylane Vital Light & Lyft
ช่วยแก้ปัญหาในเรื่องรอยคล้ำใต้ตา และยังช่วยในเรื่องของการฉีดผิวให้มีความฉ่ำโกลว์ เติมความชุ้มชื้นให้กับผิวหน้า ฟิลเลอร์ตัวนี้มีเนื้อที่ละเอียด เนื้อเจลมีอนุภาคที่เล็กและบางเบาที่สุด ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
ข้อดี
-
ช่วยรักษาหลุมสิวตื้นๆได้ ให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
-
ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว ให้ผิวมีความฉ่ำโกลว์
-
ช่วยเก็บรายละเอียดใต้ตาได้
-
ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน
ข้อเสีย
-
อาจจะรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อยบริเวณที่ฉีด
-
อาจจะมีรอยบวมแดงของเข็มแต่จะหายไปได้เอง
-
ผลลัพธ์ไม่ถาวร
ฟิลเลอร์ Juvederm Volite
เป็นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อเจลเป็นไฮยารูลอนที่มีเนื้อละเอียด และมีความอ่อนนุ่มมากๆ ทำให้ฉีดแล้วไม่เป็นก้อนและให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ช่วยกระชับผิวได้ดีและช่วยเติมให้ผิวดูชุ่มชื้น กระจ่างใสเป็นธรรมชาติ
ข้อดี
-
ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว อุ้มน้ำได้ดี
-
ช่วยแก้ปัญหาผิวที่มีความหย่อนล้อย ลดริ้วรอยเล็กๆบนใบหน้า
-
ช่วยแก้ปัญหาเรื่องรอยคล้ำใต้ตาได้
-
ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 8-12 เดือน
ข้อเสีย
-
อาจจะรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อยบริเวณที่ฉีด
-
อาจจะมีรอยบวมแดงของเข็มแต่จะหายไปได้เอง
-
ผลลัพธ์ไม่ถาวร
วิธีทำให้หน้าใสฉ่ำวาวนั้นมีหลากหลายวิธีแต่วิธีที่เห็นผลได้ไวที่สุดคือการฉีดเมโสหน้าใส เพราะให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและยังใช้เวลาไม่นาน แต่ข้อเสียคือผลลัพธ์เหล่านี้จะไม่ถาวร ต้องกลับมาฉีดซ้ำเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น และต้องฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะอาจจะทำให้เกิดอันตรายได้ และหากในการฉีดฟิลเลอร์ถ้าทำโดยบุคคลที่ไม่มีความเชี่ยวชาญอาจส่งผลให้ฟิลเลอร์ฉีดแล้วเป็นก้อนหรือไหลย้อนผิดรูปได้ ทั้งนี้แนะนำให้คุณหมอเประเมินผิวหน้าแต่ละบุคคลที่ได้ผลลัพธ์ที่ดี และตอบโจทย์ที่สุด
Review โปรแกรมฉีดเมโสหน้าใส
คลิกอ่านเกี่ยวข้องเพิ่มเติมได้ที่
-
โปรแกรม Skin Booster ลดรอยสิว ช่วยผิวใส https://bit.ly/4aszeYU
-
โปรแกรม ฉีดวิตามินผิว อวดผิวกระจ่างใส https://bit.ly/4djYJNY
-
โปรแกรม Skin Glow Up ฉีดหน้าใส ผิวฉ่ำวาว https://bit.ly/3KLNEIM
-
Filler (ฟิลเลอร์) เติมเต็มร่องแก้ม หรือ คาง ใต้ตา https://bit.ly/3xlRmoT
-
ฟิลเลอร์ (Filler) ใต้ตา บอกลาใต้ตาคล้ำ ร่องลึก แก้ปัญหาใต้ตาได้ตรงจุด https://bit.ly/3TD0wF0
-
10 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา https://citly.me/W1Zyq
ฝากกดติดตามสาระดีๆเกี่ยวกับความงาม
กดติดตามเพจ FB https://www.facebook.com/charmerclinic2you/
กดติดตาม Tiktok https://www.tiktok.com/@charmerclinic
กดติตตามช่อง Youtube https://bit.ly/2PZiVeR
กดติดตาม IG https://bit.ly/2PYXTwY
กดติดตาม Twitter https://twitter.com/CharmerClinic
กดอ่านบทความดีๆอัพเดท https://charmerclinic2you.com/