เมื่ออายุมากขึ้น สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนก็คือริ้วรอยบนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นบริเวณหน้าผาก รอยตีนกา ร่องลึกต่างๆ รวมถึงผิวหย่อนคล้อย ซึ่งนอกจากอายุแล้ว สิ่งแวดล้อม และการทำงานหนักก็อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ใบหน้าแก่โทรมลงโดยที่เราไม่รู้ตัว แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป เมื่อมี Dysport Botox ตัวช่วยผิวเด็กตึงกระชับในเวลาเร่งด่วน สำหรับใครที่สงสัยว่าโบท็อกตัวนี้คืออะไร และดียังไง มาทำความรู้จักไปพร้อมกันเลย
Dysport Botox คืออะไร?
Dysport Botox ( โบท็อกดิสพอร์ต ) คือ โบท็อกอังกฤษ หรือ โบท็อก ABO ผลิตโดยบริษัท Galderma ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติอังกฤษ โดดเด่นเรื่องของการช่วยลดริ้วรอยบนหน้าผาก รอยจากการเลิกคิ้ว และลดการขยับของกล้ามเนื้อ พร้อมทั้งให้ผลลัพธ์อย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งยังมีการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกาในปี 2009 และจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของประเทศไทย
หลักการทำงาน Dysport Botox เป็นอย่างไร?
หลักการทำงานของ โบท็อก Dysport คือ การลดขนาดของกล้ามเนื้อลง โดยที่โมเลกุลส่วน Heavy chain เข้าจับกับเซลล์ประสาทที่ควบคุมกล้ามเนื้อ เพื่อยับยั้งการทำงาน ในขณะที่ส่วนของ Light chain จะเข้าไปในเซลล์เพื่อลดการปล่อยสารสื่อประสาท ( Acetylcholine ) หรือสารกระตุ้นที่ทำให้กล้ามเนื้อหดตัว เมื่อกล้ามเนื้อทำงานน้อยลง สิ่งที่ตามมาก็คือขนาดของกล้ามเนื้อจะเล็กลงตามไปด้วย

Dysport Botox โบท็อกดิสพอร์ต เหมาะกับใครบ้าง 4 ข้อ
Dysport Botox เหมาะกับใคร?
• ผู้ที่มีริ้วรอยต่างๆ บนใบหน้า เช่น ริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า ริ้วรอบบนหน้าผาก ริ้วรอยจาการเลิกคิ้ว เป็นต้น
• ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูเรียวเล็กกระชับ โดยการใช้เทคนิค Dermolift เพื่อลิฟต์กรอบหน้าให้ดูเรียวขึ้น ลดขนาดกราม และยกกระชับใบหน้า
• ผู้ที่มีปัญหาเหงื่อออกเยอะ โดยตัว Dysport สามารถลดเหงื่อออกบริเวณ รักแร้ ฝ่ามือ และฝ่าเท้าลงได้
• ผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้าเร่งด่วน เนื่องจากโบท็อกตัวนี้จะเห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็วหลังการใช้งาน
ข้อแตกต่างและข้อดีที่ควรรู้
• โบท็อกดิสพอร์ต มีโปรตีนผสมในปริมาณที่น้อย จึงทำให้การกระจายตัวมีประสิทธิภาพ สามารถกระจายไปยังตำแหน่งที่ต้องการได้ในปริมาณเท่าๆ กัน ทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาดูเป็นธรรมชาติ
• ให้ผลลัพธ์ที่ดีและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในรายที่มีปัญหาริ้วรอยร่องลึกมากๆ เช่น ริ้วรอยบริเวณหน้าผาก ซึ่งจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนมาก
• ให้ผลลัพธ์ที่เร็วและคงอยู่ได้ยาวนานกว่าโบท็อกยี่ห้ออื่น
• สามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุน้อยๆ ประมาณช่วงอายุ 20 ปีขึ้นไป เพื่อป้องกันริ้วรอยที่อาจเกิดขึ้นตามกาลเวลา
• สำหรับคนที่ฉีดโบท็อกเป็นประจำและติดต่อกันมาหลายปี แต่รู้สึกว่ามีอาการดื้อโบท็อก ฉีดเท่าไหร่ก็ไม่ค่อยเห็นผล ลองเปลี่ยนเป็น โบท็อก Dysport ที่มีโปรตีนประมาณน้อยกว่าแบบอื่นๆ ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายทำลายโบท็อกได้น้อยกว่า ส่งผลให้โบท็อกออกฤทธิ์ได้ดีกว่าแบบอื่นๆ นั่นเอง

5 สิ่งที่ควรรู้ก่อน ฉีด Dysport Botox โบท็อกดิสพอร์ต มีอะไรบ้าง
ข้อควรรู้ก่อนการฉีด Dysport Botox
1. เลือกหมอและคลินิกให้ดีๆ ข้อนี้สำคัญมาก เพราะการฉีดโบท็อกจำเป็นต้องมีคุณหมอผู้ชำนาญและมากประสบการณ์ จากคลินิกที่ได้มาตรฐานและมีความน่าเชื่อถือ ซึ่งหากคุณยังไม่แน่ใจจะเลือกคลินิก ฉีด Dysport Botox ที่ไหนดี Charmer Clinic ก็เป็นอีกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษาและแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด
2. เลือกยูนิตที่ต้องการ โดย โบท็อก Dysport จะใช้หน่วยเป็น Speywood Unit ซึ่ง Dysport จำนวน 2.5 Speywood Unit จะเท่ากับโบท็อกยี่ห้ออื่นๆ ขนาด 1 Unit เท่านั้น
3. โทรเช็คกับทางคลินิกก่อนจองโปร หากเป็นคลินิกที่ดีมีมาตรฐานก็จะเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส ซึ่งที่ Charmer Clinic เป็นอีกหนึ่งทางเลือก Dysport Botox รัชดา ที่ให้ข้อมูลตรงไปตรงมา พร้อมให้คำแนะนำที่ถูกต้อง สามารถบอกได้ว่าต้องใช้กี่ยูนิต เพราะข้อมูลพื้นฐานเหล่านี้ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ลูกค้าควรรู้
4. พิจารณาดูจาก Dysport Botox รีวิว เพื่อดูผลลัพธ์จากผู้ใช้งานจริงๆ
5. เช็คให้ชัวร์ว่าเป็นของแท้หรือของปลอม หากเป็นของแท้เราสามารถทำการตรวจเช็คได้ ดังนี้
• กล่องของผลิตภัณฑ์สามารถเปิดที่ด้านหน้าได้เท่านั้น
• มีเอกสารกำกับเป็นภาษาไทยและมีเลขทะเบียน อย.
• หมายเลขเลขรุ่นที่ผลิตบริเวณข้างกล่องจะต้องตรงกับหมายเลข Lot. ข้างขวดยา
• สังเกตได้ว่าด้านในของขวดจะมีตัวยาเคลือบอยู่ที่ก้นขวด ไม่มีน้ำผสม เวลาใช้จะต้องใส่น้ำเกลือแล้วดูดตัวยาออกมา เพื่อใช้ฉีดบริเวณที่ต้องการ
• สามารถโทรเช็คเลขรุ่นการผลิต กับบริษัท Galderma Thailand ที่นำเข้าโบท็อกดิสพอร์ตอย่างถูกกฎหมาย ที่เบอร์โทร 02-023-1800 ต่อ 402

เตรียมตัว และการดูแล หลังฉีด Dysport Botox โบท็อกดิสพอร์ต มีอะไรบ้าง
การเตรียมตัวและการดูแลหลังทำ
การเตรียมตัวก่อนทำ Dysport
การเตรียมตัวและการดูแลหลังการรักษาด้วย Dysport นั้นง่ายมากๆ ซึ่งการดูแลตัวเองอย่างถูกต้องจะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจตามมาได้
• งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ช่วงหนึ่งสัปดาห์ก่อนเข้ารับการรักษา
• ผู้ที่มีแนวโน้มเกิดรอยฟกช้ำได้ง่าย อาจรับประทานอาร์นิกาหรือโบรมีเลนในช่วง 2 – 4 วันก่อนเข้ารับการรักษา เพื่อป้องกันการเกิดรอยฟกช้ำได้
• งดรับประทานยาละลายลิ่มเลือด เช่น กลุ่มยาแอสไพริน ไอบูโพรเฟน และควรงดอาหารเสริม เช่น แปะก๊วย ขมิ้น กระเทียม และวิตามินอี เพราะอาจส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือดได้
• ควรทำความสะอาดใบหน้า และงดการแต่งหน้าในวันที่เข้ารับการรักษา
การดูแลหลังทำ Dysport
• ในช่วงเวลา 4 ชั่วโมงแรกหลังการฉีด ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมและกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการกระจายตัวของโบท็อก เช่น การกด การเกาบริเวณที่ฉีด การนอนหงาย และการการออกกำลังกายอย่างหนัก พร้อมทั้งควรงดการโดนความร้อนในบริเวณที่ได้รับการรักษา เช่น การอาบแดด การอบซาวน่า และกิจกรรมอื่นๆ ที่อาจทำให้หน้าแดง
• ควรประคบเย็นในบริเวณที่ฉีดช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังการฉีด
• หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องออกแรงมากเป็นเวลา 2 วัน เพราะจะทำให้เลือดไหลเวียนบนใบหน้า ส่งผลให้เกิดรอยฟกช้ำมากขึ้น
• รับประทานอาร์นิกา หรือโบรมีเลนอีก 2 – 3 วัน
• ควรนอนในท่าตรงๆ ช่วงไม่กี่คืนแรกหลังจากที่ฉีด
• ทำความสะอาดใบหน้าวันละสองครั้ง โดยใช้แรงกดเบาๆ
Dysport กับ Botox ยี่ห้ออื่น ต่างกันอย่างไร?
โบท็อก Dysport ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่ายี่ห้ออื่น ทั้งยังมีประสิทธิภาพในการยกกระชับได้ดีกว่า ช่วยลดปัญหาริ้วรอยได้ดี โดยเฉพาะบริเวณที่ลึกมาก พร้อมการกระจายตัวที่ดีและสม่ำเสมอ จึงทำให้ใบหน้าดูสวยเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังเกิดโอกาสดื้อยาที่ต่ำมากๆ
Dysport Botox vs Xeomin
• Xeomin เป็นโบท็อกซ์จากประเทศเยอรมนี ผลิตโดยบริษัท MERZ PHARMA GMBH & CO. KGaA ประกอบด้วยสาร Incobotulinumtoxin A เป็นหลัก มีความบริสุทธิ์สูง และไม่มีโปรตีนส่วนเกิน จึงลดโอกาสในการแพ้และการดื้อยาได้
• Dysport สามารถยกกระชับใบหน้าได้ดีกว่า Xeomin ทั้งยังให้ผลลัพธ์ในการลดเลือนริ้วรอยและปรับรูปหน้าได้ดีกว่า พร้อมผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่า ในส่วนของจำนวนยูนิต โบท็อกอังกฤษ จะมีจำนวนยูนิตที่สูงกว่า Xeomin 20% ต่อขวด
Dysport Botox vs Nabota
• Nabota เป็นโบท็อกจากเกาหลีใต้ ผลิตโดยบริษัท Daewoong Pharmaceutical ประกอบด้วยสาร Botulinum toxin type A เป็นหลัก มีความบริสุทธิ์สูงและเป็นโมเลกุลที่มีขนาดเล็ก ทำให้กระจายตัวได้ดีและเห็นผลเร็ว
• Dysport จะมีความบริสุทธิ์สูงกว่าตัว Nabota และยังมีประสิทธิภาพในการยกกระชับได้ดีกว่า ทั้งคงผลลัพธ์ได้นานกว่า
Dysport Botox vs Allergan
• Allergan เป็นโบท็อกจากอเมริกา ที่ได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา ( FDA ) โดยมีส่วนประกอบหลักๆ คือ Onbotulinumtoxin A ซึ่งถือเป็นโบท็อกที่มีการใช้งานมายาวนานและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง
• Dysport มีความบริสุทธิ์ใกล้เคียงกับตัว Allergan จึงมีโอกาสแพ้ที่ต่ำพอๆ กัน ส่วนประสิทธิภาพในการยกกระชับใบหน้า ตัวโบท็อก Dysport ทำได้ดีกว่า Allergan แต่ทั้งสองตัวมีผลลัพธ์ที่ยาวนานพอๆ กัน
Q & A ถามตอบ
Dysport Botox ราคาเริ่มต้นเท่าไหร่?
ราคาของ Dysport Botox จะขึ้นอยู่กับปริมาณยูนิตที่ใช้ในการฉีด โดยทั่วไปแล้วราคาของ Dysport Botox 1 ขวด ปริมาณ 300 Speywood Unit ( หรือประมาณ 120 ยูนิต เมื่อเทียบกับโบท็อกยี่ห้ออื่น ) มีราคาเริ่มต้นที่ 20,000 บาท
และราคาของ Dysport Botox 1 ขวด ปริมาณ 500 Speywood Unit (หรือประมาณ 200 ยูนิต เมื่อเทียบกับโบท็อกยี่ห้ออื่น ) มีราคาเริ่มต้นที่ 30,000 บาท แต่ทั้งนี้ก็อาจขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นอื่นๆ ในแต่ละเดือนด้วย
Dysport Botox ฉีดตำแหน่งไหนได้บ้าง?
• บริเวณหน้าผาก ช่วยลดริ้วรอยจากการขมวดคิ้ว ผิวดูตึงเรียบเนียนขึ้น
• ฉีดลดริ้วรอยบนใบหน้าโดยรวม ช่วยให้หน้าเนียนขึ้น ดูอ่อนเยาว์ลง
• บริเวณหางตา ช่วยลดริ้วรอยตีนกา ทำให้ดวงตาดูสดใส หน้าดูเด็กขึ้น
• บริเวณกรอบหน้า เพื่อปรับรูปหน้า ทำให้หน้าดูเรียวขึ้น
• บริเวณระหว่างคิ้ว ช่วยลดริ้วรอยร่องลึก ทำให้ใบหน้าดูตึงกระชับ ผ่อนคลาย
• บริเวณกราม ช่วยลดขนาดกราม ทำให้ใบหน้าดูเรียวเล็ก
• บริเวณน่องขา ช่วยลดกล้ามเนื้อส่วนน่อง ทำให้ขาดูเรียวเล็กลง
• บริเวณกล้ามแขน ช่วยลดกล้ามเนื้อแขน ทำให้แขนดูเรียวเล็กลง
• บริเวณรักแร้ ช่วยแก้ปัญหาเหงื่อออกมากเกินไป
Dysport Botox อายุอยู่ได้กี่เดือน?
มีหลายคนสงสัยว่า Dysport Botox อยู่ได้กี่เดือน โดยส่วนใหญ่แล้วผลลัพธ์หลังการฉีดจะอยู่ได้นานประมาณ 4 – 6 เดือน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวของแต่ละบุคคล รวมทั้งปริมาณในการฉีด เรื่องของจุดที่ฉีด รวมถึงวินัยและการดูแลตัวเองหลังการฉีดด้วย หากมีการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด อายุของโบท็อกที่ฉีดเข้าไปนั้นก็จะอยู่ได้นานยิ่งขึ้น
สรุป
สำหรับ Dysport Botox ( โบท็อกดิสพอร์ต ) ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เห็นผลลัพธ์เร็วและมีความปลอดภัยสูง ช่วยลดริ้วรอยและยกกระชับใบหน้าได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ก็ยังสามารถฉีดบริเวณอื่นๆ ที่ต้องการได้อีกด้วย เช่น รักแร้ แขนและขา ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการแก้ปัญหานั้นๆ
อย่างไรก็ตามการเลือกแพทย์และคลินิกเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ดังนั้นจึงควรเข้าปรึกษากับคลินิกที่ได้มาตรฐานที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะ พร้อมให้คำแนะนำอย่างถูกต้อง และหากเกิดปัญหาก็สามารถแก้ไขได้อย่างตรงจุด รวมถึงต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อลดการเกิดผลข้างเคียงและได้ผลลัพธ์ที่ยาวนานมากขึ้น
คลิกอ่านบทความเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้อง ที่นี่!
🔷Aestox Botox โบท็อกซ์เกาหลีดียังไง ช่วยเรื่องอะไรบ้าง คลิกอ่านบทความ! Aestox Botox
🔷ข้อดี ข้อเสีย Botox และข้อควรระวัง คลิกอ่านบทความ! ข้อดี ข้อเสีย Botox
🔷Nabota Botox (นาโบตะ) โบท็อกซ์เกาหลีดียังไง? คลิกอ่านบทความ! Nabota Botox
ติตตามสาระความงามทุกช่องทางมีเดียจาก Charmer Clinic ที่นี่!
กดติดตามเพจ FB คลิกเลย! FB Charmer Clinic
กดติดตาม Tiktok คลิกเลย! Tiktok Charmer Clinic
กดติตตามช่อง Youtube คลิกเลย! Youtube Charmer Clinic
กดติดตาม IG คลิกเลย! IG Charmer Clinic
กดติดตาม Twitter คลิกเลย! Twitter Charmer Clinic
กดอ่านบทความสาระความงามอัพเดทใหม่ๆ คลิกเลย! บทความ Charmer Clinic