ไม่มีความเห็น

9 คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีด MADE Collagen

9 คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีด MADE Collagen by Charmer Clinic

มาเด้ คอลลาเจน
มาเด้ คอลลาเจน

9 คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีด MADE Collagen  

มาเด้ คอลลาเจน ตอบโจทย์ เรื่องของ สิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ ผิวหมองคล้ำ อาจเป็นปัญหาใหญ่ของสาว ๆ

หลาย ๆ คนพอรักษาไปแล้วก็วนกลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่จบไม่สิ้น เพราะปัญหาเหล่านี้ล้วนเกิดจากมลภาวะรอบตัวเราที่เป็นพิษ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น ควัน แสงแดด การพักผ่อนน้อยและการล้างหน้าที่ไม่สะอาด ล้วนทำให้เกิดสารตกค้างในผิว ทำให้เกิดเป็นปัญหาผิวหน้าสะสม 
   เมื่อเราอายุมากขึ้นคอลลาเจนบนผิวหน้าเริ่มลดลง ซึ่งวิธีในการรักษาปัญหาเหล่านี้มีหลายวิธี แต่วันนี้ชามี่จะมาแนะนำวิธีในรักษาด้วย MADE Collagen (มาเด้ คอลลาเจน) ซึ่งเป็นวิธีที่ดูแลผิวหน้าในระดับเซลล์ และเป็นนิยมมากในปัจจุบัน เพราะเป็นการ ดีท๊อกซ์ผิวจากภายในไม่ใช่การใช้ยารุนแรงเพื่อกดสิวไว้ 
ฉีดมาเด้ คอลลาเจน by charmer clinic
ฉีดมาเด้ คอลลาเจน by charmer clinic
 9 คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีด MADE Collagen
1 .made collagen(มาเด้ คอลลาเจน)คืออะไร?
A : มาเด้ (MADE) + คอลลเจน (Collagen) เป็นสูตรยา Homeopathy นำเข้าจากยุโรป บริษัท GUNA ซึ่งกำลังได้รับความนิยม และมาแรงที่สุดในตอนนี้ ประกอบด้วยสารสกัดจากธรรมชาติหลากหลายชนิด โดยจะออกฤทธิ์ช่วยหลัก ๆ 3 อย่าง คือ
     1.ช่วยล้างพิษ Detox ในระดับเซลล์ 
      2.ช่วยเร่งการไหลเวียนเลือด และสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง 
      3.ปรับสมดุลให้ผิวแข็งแรง ต่อสู้กับมลพิษ ทำให้ผิวไม่แพ้ง่าย
2.made collagen(มาเด้ คอลลาเจน)เหมาะกับใคร ?
A : เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเรื่องสิวเรื้อรัง คนที่แพ้ง่าย แพ้สารเคมี ที่เกิดจากการแพ้ ผู้ที่ผิวอ่อนล้า แห้งหยาบกร้าน ต้องการปรับโครงสร้างผิวให้แข็งแรง ผู้ที่พักผ่อนน้อย ผิวหน้าโทรมแต่งหน้าไม่ติด 
3.made collagen(มาเด้ คอลลาเจน)ฉีดบ่อยแค่ไหน?
A : การฉีด made collagen ควรได้รับการรักษาต่อเนื่องทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ฉีด 8-12 ครั้งติดต่อกัน และไม่ควรเว้นการรักษาเกินกว่า 2 สัปดาห์ เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ดียิ่งขึ้นควรรับรักษาตามที่แพทย์สั่งนะคะ      
4.made collagen (มาเด้ คอลลาเจน)กี่ครั้งเห็นผล?
A : ประมาณ 2 -5 ครั้ง จะเริ่ม เห็นผล แต่การรักษาด้วยมาเด้ คอลลาเจนนั้น ควรฉีดต่อเนื่อง10 ครั้งขึ้นไปเนืองจากเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมตามบริษัทและแพทย์แนะนำ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวหน้าของคนไข้ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ประเมินรายบุคคล
5.made collagen กี่วันเห็นผล?
A : ในบางคนสามารถเห็นผลลัพธ์ตั้งแต่ครั้งแรก แต่ความชัดเจนอาจจะต้อง 3-5 ครั้ง ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับสภาพผิว และอายุของแต่ละบุคคลยิ่งอายุน้อยยิ่งเห็นผลเร็ว สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าสะสม ควรจะทำ made collagen อย่างน้อย 8  – 10 ครั้งขึ้นไป และควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทั้งก่อน และหลังการรักษาทุกครั้ง ซึ่งหลังทำการรักษาด้วย made collagen (มาเด้ คอลลาเจน) สภาพผิวจะดีขึ้นเรื่อยๆ 
6.made collagen ช่วยเรื่องอะไร?
A : made collagen  ลดสิวทั้งสิวผด สิวอุดตัน สิวสเตียรอยด์  ช่วยเรื่องปรับสมดุลผิว ปรับสภาพผิว ดีท็อกซ์ผิว เพราะใน made collagen(มาเด้ คอลลาเจน) มีสารอาหารที่สำคัญต่อผิว ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิวทำให้แข็งแรงไม่แพ้ง่าย ลดสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำ ทำให้ผิวใสขึ้น และแถมยังทำให้เวลาแต่งหน้าเครื่องสำอางติดบนผิวหน้าดีอีกด้วย เพราะเมื่อผิวเราแข็งแรงแล้วหน้าจะใสฉ่ำวาว
7.made collagen มีผลข้างเคียงหรือไม่?
A : made collagen(มาเด้ คอลลาเจน) เป็นตัวยาที่ค่อนข้างมีความปลอดภัยสูง และยังไม่มีรายงานการแพ้ หรือผลข้างเคียงที่เกิดจากการใช้หลังฉีด อาจจะมีรอยแดงตรงตำแหน่งที่ฉีดซึ่งเป็นปกติของผิวเกิดรอยหลังจากการฉีด รอยตุ่มนูนและรอยแดงบริเวณที่ฉีดจะหายไปเอง ใน 3 – 4 ชั่วโมงขึ้นกับปริมาณที่ฉีด สามารถกลับบ้านทำความสะอาดผิวล้างหน้าตามปกติด้วยน้ำเปล่า วันรุ่งขึ้นก็สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ  
8.madecollagen อยู่ได้นานไหม?
A : หลังทำการรักษาด้วย made collagen บนผิวหน้าจะอยู่ได้ประมาณ 1-2 ปี แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวหน้าของแต่ละบุคคล การฉีด made collagen ควรได้รับการรักษาต่อเนื่องทุกสัปดาห์สัปดาห์ละ 1 ครั้ง 8-12 ครั้งติดต่อกัน และไม่ควรเว้นการรักษาเกินกว่า 2 สัปดาห์     
9.made collagen วิธีฉีดอย่างไร?
A : เป็นการฉีด 16 จุด บนใบหน้าฉีดตามศาสตร์แพทย์แผนจีนที่คล้ายกับการฝังเข็ม การฉีด 16 จุดตามจุดการไหลเวียนของระบบน้ำเหลืองบนใบหน้าซึ่งเป็นจุดที่ช่วยขจัดของเสีย ทำให้ผิวเหมือนได้รับการบำบัด ช่วยดีท็อกซ์ผิวหน้า ผิวหน้าคุณจะเปล่งปลั่งสดใสยิ่งขึ้น หน้าใสฉ่ำวาว สิวลดลงด้วยค่า

 

การรักษาผิวหน้าโดยเฉพาะปัญหาสิวให้กลับมาสวยใสดั้งเดิมนั้น ควรปรึกษาแพทย์ และทำตามที่แพทย์สั่งทุกครั้งเป็นการรักษาผิวหน้าแบบต่อเนื่อง เพื่อผลลัพธ์ออกมาดี และยาวนาน หมั่นเอาใจใส่ดูแลผิวหน้าสวย ๆ จะได้อยู่กับเราไปนาน ๆ ค่ะ

Charmerclinic

ฝากกดติตตามความงามสาระดีๆ
กดติดตามเพจ FB https://www.facebook.com/charmerclinic2you/
กดติดตาม Tiktok https://www.tiktok.com/@charmerclinic
กดติตตามช่อง Youtube https://bit.ly/2PZiVeR
กดติดตาม IG https://bit.ly/2PYXTwY
กดติดตาม Twitter https://twitter.com/CharmerClinic
กดอ่านบทความดีๆอัพเดท https://charmerclinic2you.com/

แท็ค

#ปรับรูปหน้า botox botoxลดกราม Diode laser filler filler ใต้ตา hifu made collagen mesofat meso หน้าใส การฉีดฟิลเลอร์ กำจัดขน ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ข้อดีร้อยไหม ฉีดfiller ฉีดผิวขาว ฉีดผิวขาวที่ไหนดี ฉีดฟิลเลอร์ ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ฉีดเมโสแฟต (Meso Fat) กินเหล้าได้ไหม ฉีดเมโสแฟต (Meso Fat) ต้องฉีดบ่อยแค่ไหน ฉีดเมโสแฟต (Meso Fat) เจ็บไหม ฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟื้นฟูผิว มาเด้คอลลาเจน รีจูรันกับเมโสกันแตกต่างกันยังไง รีวิวฟิลเลอร์ รีวิวร้อยไหม ร้อยไหม ร้อยไหมpdo ร้อยไหมก้างปลา ร้อยไหมเงี่ยง ศัลยกรรม หน้าใส เมโส เมโสหน้าใส เมโสแฟต เรสทิเลนฟิลเลอร์ เลเซอร์ เสริมจมูก โบท๊อก โบท๊อกซ์คืออะไร ไฮฟู
Share this

“ความสวยของคุณ คือเป้าหมายของเรา”

จองคิวที่ call center 085-9192768

สาขารัชดา โทร 094-5598748
สาขาอุดมสุข(บางนา) โทร 095-521-0666
สาขาเพชรเกษม 81 โทร 095-058-3666
สาขารังสิต โทร 094-696-5322
สาขาสุขุมวิท 39 โทร 093-241-4969
สาขา วัชรพล โทร 098-154-4454
สาขาเมเจอร์ปิ่นเกล้า โทร 083-978-0666
สาขาชัยพฤกษ์ โทร 096-016-1666 

ท่านสามารถแสดงความคิดเห็นที่ข้อสงสัยได้ที่ด้านล่างนี้

บทความที่น่าสนใจ