ไม่มีความเห็น

10 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

10 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

Table of Contents

10 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

อยากฉีดฟิลเลอร์(filler)ใต้ตา แต่ยังกังวลว่าฉีดแล้วจะเป็นอันตรายหรือเปล่า? บทความนี้จะมาตอบ 10 ข้อสงสัยยอดฮิตเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ตั้งแต่เรื่องฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วอันตรายจริงไหม, ฉีดแล้วจะเป็นก้อนหรือเปล่า, ต้องฉีดกี่ CC, ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วกี่วันถึงจะเห็นผลและอยู่ได้นานแค่ไหน, ถ้าฉีดแล้วไม่ชอบจะทำยังไงดี, ข้อดี-ข้อเสีย, วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดเพื่อให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น และตอบคำถามยอดฮิตมากๆ อย่างคนที่ใต้ตาคล้ำเพราะเป็นภูมิแพ้ กับคนที่มีถุงใต้ตา สามารถฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเพื่อแก้ปัญหาได้ไหม บทความนี้มีคำตอบหมดค่ะ เลื่อนลงไปอ่านได้เลย!

 

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร

การฉีดฟิลเลอร์(filler)ใต้ตา คือ การฉีดสารไฮยาลูโรนิคแอซิด (Hyaluronic Acid) เข้าไปเติมเต็มและแก้ปัญหาผิวบริเวณใต้ตา ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาได้ดีที่สุด และยังเป็นวิธีที่ทำแล้วจะไม่มีรอยแผล ไม่ต้องพักฟื้นหลายวัน และเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงทันทีหลังทำ โดยจะช่วยเติมเต็มร่องลึกใต้ตาให้ดูตื้นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยเติมเต็มผิวหนังที่ยุบให้กลับมากระชับเต่งตึงอีกครั้ง ช่วยลดความหมองคล้ำใต้ตา บอกลาปัญหาตาคล้ำเป็นหมีแพนด้า ช่วยให้ใบหน้าดูสดใส หน้าดูเด็กลง นอกจากนี้ฟิลเลอร์ยังมีคุณสมบัติอุ้มน้ำและช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวได้ดี จึงช่วยให้ผิวดูสุขภาพดีขึ้นเป็นของแถมด้วย

 

ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับใครบ้าง
ฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับใครบ้าง

ฟิลเลอร์(filler)ใต้ตาเหมาะกับใครบ้าง

  • คนที่มีปัญหาริ้วรอยใต้ตา รอยตีนกา รอยเหี่ยวย่นใต้ตา และริ้วรอยรอบๆ ดวงตา
  • คนที่มีปัญหาเบ้าตาลึก ตาโหล ตาดำ จากการยุบตัวของกระดูกใต้ตา 
  • คนที่มีปัญหาขอบตาดำ มีรอยคล้ำใต้ตา จนส่งผลให้หน้าดูไม่สดใส
  • คนที่มีปัญหาถุงใต้ตา ใต้ตาหย่อนคล้อย และไม่อยากผ่าตัดศัลยกรรม
  • คนที่ชั้นไขมันบริเวณดวงตาหายไป
  • คนที่มีปัญหาใต้ตาจากลักษณะทางพันธุกรรม
  • คนที่ต้องการแก้ปัญหาผิวรอบดวงตาแบบเห็นผลลัพธ์อย่างรวดเร็ว
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม

 

  1. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม
หลายคนอาจสงสัยว่าการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะทำให้ตาบอดไหม คำตอบคือมีโอกาสเกิดขึ้นได้ แต่มักจะเกิดจากการฉีดฟิลเลอร์ (filler) ปลอม ใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ผ่าน อย. หรือฉีดกับหมอเถื่อน หมอกระเป๋าที่ไม่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ก็อาจทำให้ฉีดผิดพลาดเข้าหลอดเลือดจนทำให้เกิดการอุดตันและทำให้ตาบอดได้ หรืออาจจะหมอที่ขาดความชำนาญในการใช้ฟิลเลอร์(filler)แต่เราสามารถลดความเสี่ยงเหล่านี้ด้วยการเลือกฉีดกับคลินิกที่มีมาตรฐาน มีแพทย์ที่เชี่ยวชาญในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา(filler)และเลือกใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ผ่าน อย. แล้วเท่านั้นก็จะช่วยลดโอกาสเกิดอันตรายลดปัจจัยเสี่ยงหรือผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นได้ค่ะการฉีดฟิลเลอร์ถือเป็นวิธีแก้ปัญหาผิวที่มีความปลอดภัยสูงมากและไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เพราะสารที่ใช้ฉีดเลียนแบบมาจากสารที่มีตามธรรมชาติในร่างกายมนุษย์ ฉีดแล้วจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น ช่วยเติมเต็มให้ผิวดูแน่นฟูกระชับมากขึ้น และฟิลเลอร์จะสลายออกจากร่างกายเราได้เอง ทำให้ไม่เหลือสารตกค้างให้ต้องกังวล

 

  1. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน เกิดจากอะไร
การฉีดฟิลเลอร์(filler)ใต้ตาแล้วเป็นก้อน บวมแล้วออกมาดูไม่เป็นธรรมชาติ หรือฉีดแล้วเป็นก้อน มักเกิดจากสาเหตุดังต่อไปนี้ 
  • ฉีดฟิลเลอร์ปลอม
    เมื่อใช้ฟิลเลอร์(filler)ที่ไม่ผ่าน อย. หรือฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่ได้มาตรฐาน ในช่วงแรกที่ฉีดอาจเห็นผลว่าสวยดี แต่เมื่อผ่านไปประมาณ 1 ปี ฟิลเลอร์จะไม่สลายหายไปเองเหมือนฟิลเลอร์แท้ ทำให้เป็นก้อนหรือไหลห้อยย้อยลงมาได้ หากฉีดฟิลเลอร์ปลอมแล้วเป็นก้อนจะไม่สามารถฉีดสลายออกได้ จะต้องแก้ไขด้วยการขูดออกหรือผ่าตัดเท่านั้น 
  • แพทย์ที่ฉีดไม่เชี่ยวชาญมากพอ
    ผิวรอบดวงตาถือเป็นบริเวณที่เซนซิทีฟมากเพราะมีเส้นเลือดเยอะ หากฉีดกับแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญ หรือไม่มีประสบการณ์ที่มากพอ เช่น ฉีดเยอะเกินไปก็อาจทำให้ฉีดแล้วออกมาเป็นก้อนได้ หรือวางฟิลเลอร์ผิดชั้นผิวก็ทำให้ออกมาเป็นก้อนได้เช่นกัน แต่ถ้าใช้ฟิลเลอร์แท้จะสามารถฉีดสลายฟิลเลอร์เพื่อแก้ปัญหานี้ได้
  • เลือกใช้ชนิดของฟิลเลอร์ไม่เหมาะสม
ฟิลเลอร์(filler)แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น ก็จะมีความแตกต่างกัน เช่น รุ่นนี้เนื้อละเอียดกว่า รุ่นนี้น้ำหนักโมเลกุลมากกว่า ซึ่งแพทย์จะต้องทำการประเมินสภาพผิวและปัญหาที่ต้องการรักษาก่อน เพื่อจะได้เลือกใช้ฟิลเลอร์(filler)ให้เหมาะกับผิวและปัญหาของคนไข้ หากเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสมก็จะทำให้ฉีดออกมาแล้วเป็นก้อนหรือบวมได้ แต่ถ้าใช้ฟิลเลอร์แท้ก็จะสามารถฉีดสลายฟิลเลอร์เพื่อแก้ปัญหาได้
  • การใช้ปริมาณฟิลเลอร์ที่อาจจะมากเกินไป                                                                                                  เรียกว่าฉีดฟิลเลอร์ล้นนั่นเอง ทำให้เกิดจากเป็นก้อน เป็นลำได้ หรือฟิลเลอร์บางตัวนั้นมีผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่นฟิลเลอร์อุ้มน้ำในระยะเวลาที่ผ่านไป ทำให้เกิดการฟิลเลอร์ล้น หรือเกิน แต่อย่างไรก็ตาม ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาคือ หากเกินหรือล้น เราสามารถฉีดสลายหรือเบลนเล็กน้อยในส่วนที่เกินได้

 

  1. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาต้องใช้กี่ CC
ปริมาณฟิลเลอร์(filler)ที่มักใช้ในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาคือ 1-2 CC แต่ปกติแล้วแพทย์จะต้องทำการประเมินก่อนเสมอ เพราะแต่ละคนก็จะมีปัญหาใต้ตาที่แตกต่างกัน และอาจใช้ปริมาณฟิลเลอร์ที่ไม่เท่ากัน เช่น คนที่มีร่องใต้ตาไม่ลึกมากก็จะฉีดข้างละ 1 CC แต่ในคนที่มีใต้ตาคล้ำ มีถุงใต้ตา ก็จะใช้ปริมาณ 1-2 CC ส่วนคนที่มีปัญหาใต้ตาลึกหรือกระดูกยุบตัวลง ก็จะใช้ปริมาณ 2-4 CC ดังนั้นก่อนจะทำการฉีดจึงต้องให้แพทย์ประเมินและให้คำแนะนำทุกครั้ง รวมถึงควรเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีความชำนาญในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อจะได้ลดผลข้างเคียงต่างๆ
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา 1  cc 
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากี่วันถึงจะเห็นผล ,รีวิวฉีดaฟิลเลอร์ 1 cc Yvoire
รีวิวฉีดaฟิลเลอร์ 1 cc Yvoire
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากี่วันถึงจะเห็นผล , รีวิวฉีด restylane
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากี่วันถึงจะเห็นผล , รีวิวฉีด restylane

ผลลัพย์ ปริมาณการใช้แล้วแต่บุคคล

  1. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากี่วันถึงจะเห็นผล
โดยปกติแล้วหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาก็จะเริ่มเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงทันที แต่หลังฉีดอาจมีอาการบวมที่ใต้ตาเล็กน้อย ซึ่งอาการจะค่อยๆ หายไปเองภายใน 2-3 วัน และฟิลเลอร์จะเริ่มยุบเข้าที่ 70-80% ภายใน 4-5 วัน โดยจะเข้าที่แบบ 100% ภายใน 14 วัน ซึ่งก็จะเห็นถึงผลลัพธ์ว่าผิวบริเวณใต้ตามีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน
  1. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วอยู่ได้นานแค่ไหน
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะอยู่ได้นานประมาณ 6-18 เดือน โดยจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ รวมถึงการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ด้วย หากดูแลตัวเองดี เลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็ว อย่างการตากแดดบ่อย ชอบทำกิจกรรมที่เจอกับความร้อน หรือชอบเลเซอร์หน้าเป็นประจำ ก็จะช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น
  1. ถ้าฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วไม่ชอบ สามารถสลายได้ไหม
หากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วรู้สึกไม่ชอบ หรือฉีดออกมาแล้วดูไม่เป็นธรรมชาติตามที่ต้องการ ก็สามารถใช้สาร Hyaluronidase ฉีดเพื่อสลายฟิลเลอร์ได้ เพราะเป็นสารที่มีคุณสมบัติย่อยสลายไฮยาลูโรนิคแอซิด (Hyaluronic Acid) ได้ แต่ฟิลเลอร์นั้นต้องเป็นของแท้จึงจะสามารถใช้สาร Hyaluronidase ฉีดสลายฟิลเลอร์ออกได้แบบ 100%

 

ข้อดี-ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ข้อดี-ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

 

 

  1. ข้อดี-ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
  • ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาได้หลากหลาย และเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็ว
  • ช่วยเติมเต็มให้ผิวใต้ดวงตากลับมาดูเต็ม สดใส อ่อนเยาว์มากขึ้น
  • ช่วยแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ แก้ปัญหาร่องลึกใต้ดวงตาให้ดีขึ้น
  • ช่วยทำให้ดวงตาดูสดใสขึ้น หมดปัญหาใต้ตาคล้ำโทรมจนดูแก่กว่าวัย
  • ช่วยทำให้ผิวรอบดวงตาดูเรียบเนียน ริ้วรอยดูลดน้อยลง
  • เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็ว ดูดีขึ้นได้โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือพักฟื้นนาน
  • การฉีดฟิลเลอร์ยังช่วยกักเก็บน้ำใต้ผิวได้ดี ทำให้ผิวชุ่มชื้น ดูสุขภาพดีขึ้น
  • เป็นวิธีที่ปลอดภัย เพราะฟิลเลอร์สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย
ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
  • การฉีดฟิลเลอร์จะไม่สามารถอยู่ได้ถาวร โดยจะอยู่ได้นานประมาณ 6-18 เดือน จึงต้องกลับมาฉีดซ้ำ 
  • สำหรับคนที่อายุเยอะ หรือมีสภาพผิวที่หย่อนคล้อยมาก ฟิลเลอร์อาจสลายได้ง่าย จึงทำให้ต้องกลับมาฉีดซ้ำ
  • ฟิลเลอร์จะสลายเร็วขึ้นเมื่อเจอความร้อน หรือต้องทำกิจกรรมที่สัมผัสความร้อนบ่อยๆ เช่น ออกกำลังกาย อบซาวน่า ทำเลเซอร์
  • อาจมีความเสี่ยงเรื่องฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน หากฉีดกับแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญหรือไม่มีประสบการณ์ แต่ถ้าใช้ฟิลเลอร์แท้จะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ด้วยการฉีดยาสลายฟิลเลอร์
  • ผิวใต้ดวงตานั้นบอบบางมาก หากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากับหมอเถื่อน หมอกระเป๋า หรือแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ ก็อาจทำให้ตอนฉีดปลายเข็มไปสะกิดถูกเส้นเลือดบริเวณใต้ตาจนทำให้เกิดรอยเขียวช้ำหลังฉีดได้ จึงควรเลือกใช้บริการคลินิกที่มีมาตรฐาน มีแพทย์ที่ชำนาญในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

 

วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
  1. วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
  • งดการนวดคลึงบริเวณรอบดวงตาแรงๆ หลังฉีดฟิลเลอร์
  • งดนอนราบหลังฉีดฟิลเลอร์ 3-4 ชั่วโมง
  • งดแต่งหน้าหรือทาครีมบำรุงผิว หลังฉีดฟิลเลอร์ 12 ชั่วโมง 
  • สามารถประคบเย็นได้ตามคำแนะนำของแพทย์ จะช่วยลดอาการบวมได้ดี
  • ไม่ควรจับหรือเกาบริเวณใต้ตา เพราะตัวยาอาจเคลื่อนไปอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ต้องการได้
  • หลีกเลี่ยงการทำทรีทเมนต์บริเวณใบหน้า และงดทำเลเซอร์ร้อน อย่างน้อย 2-3 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อนที่บริเวณใต้ตา เพราะจะทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วขึ้น
  • ควรงดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ เพราะจะทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วขึ้น
  • รับประทานยาตามที่แพทย์จ่ายให้ หลังฉีดอาจมีอาการบวมแดงบริเวณที่ฉีดได้ แต่จะค่อยๆ ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน
  • ควรดื่มน้ำให้มากๆ อย่างน้อยวันละ 1-2 ลิตร เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ห้ฟิลเลอร์จะเซ็ตตัวเร็วและอยู่ได้นานขึ้น
  • ภายใน 48 ชั่วโมงหลังฉีด ไม่ควรออกกำลังกายหรือตากแดด และงดทำกิจกรรมที่ต้องใช้ความร้อน เช่น อบซาวน่า ทานอาหารที่ทำให้เหงื่อออก ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น เพราะจะทำให้ฟิลเลอร์สลายได้เร็วขึ้น
  1. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยเรื่องตาคล้ำจากภูมิแพ้ได้ไหม
ถึงแม้จะพักผ่อนอย่างเพียงพอ แต่โรคภูมิแพ้ก็ทำให้ผู้ป่วยมีขอบตาคล้ำได้ เพราะน้ำมูกที่ไหลเป็นประจำไปขัดขวางการไหลเวียนของหลอดเลือดดำ ส่งผลให้จมูกบวม และทำให้ใต้ตาดำคล้ำนั่นเอง นอกจากนี้การสั่งน้ำมูกหรือขยี้ตาบ่อยๆ ก็ทำให้ขอบตาคล้ำและมีริ้วรอยมากขึ้นด้วย 
การฉีดฟิลเลอร์จึงถือเป็นช้อยส์ที่ดีสำหรับคนที่อยากแก้ปัญหาใต้ตาดำคล้ำจากภูมิแพ้ เพราะฟิลเลอร์สามารถปกปิดความคล้ำและเส้นเลือดใต้ตาได้ดี เมื่อฉีดแล้วจะช่วยให้รอยคล้ำใต้ตาจางหายไป และจะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงทันทีหลังทำ นอกจากนี้ยังทำให้ใบหน้าดูสดใส หน้าดูเด็กลง แถมไม่ต้องพักฟื้นหรือผ่าตัดให้เจ็บด้วย

 

  1. มีถุงใต้ตาฉีดฟิลเลอร์ได้ไหม
ปัญหาถุงใต้ตานั้นพบได้ตั้งแต่ในคนอายุน้อยไปจนถึงอายุมาก ใครที่มีปัญหาถุงใต้ตาจนรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองสามารถรักษาได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา โดยจะใช้วิธีฉีดเพื่อดันไขมันบริเวณใต้ตากลับลงไป หรือฉีดเพื่อแต่งบริเวณใต้ตาให้ดูเรียบเนียนขึ้น ซึ่งจะต้องใช้แพทย์ที่เชี่ยวชาญ มีความรู้เกี่ยวกับลักษณะถุงใต้ตาที่ดี และควรเลือกใช้ชนิดฟิลเลอร์ให้เหมาะสม ก็จะให้ผลลัพธ์ออกมาดี และมีผลข้างเคียงน้อย
สำหรับคนที่มีปัญหาถุงใต้ตาเยอะ มีลักษณะนูน และผิวบริเวณถุงใต้ตาหย่อนคล้อยมาก ควรพบแพทย์เพื่อประเมินแนวทางการรักษาก่อนจะดีที่สุด เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีและเป็นไปตามที่ต้องการค่ะ 

ขอสรุปว่า การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถช่วยแก้ปัญหาผิวรอบดวงตาได้หลากหลาย ตั้งแต่ปัญหาขอบตาดำ ใต้ตาคล้ำจากภูมิแพ้ ช่วยลดถุงใต้ตาได้ ช่วยลดเลือนริ้วรอยใต้ดวงตา ช่วยเติมเต็มผิวรอบดวงตาให้กลับมาดูเต่งตึงสดใสอีกครั้ง โดยจะห็นถึงผลลัพธ์ที่รวดเร็วทันทีหลังฉีด ส่วนใครที่กังวลว่าจะเป็นอันตรายหรือเปล่า ก็ควรเลือกใช้ฟิลเลอร์ของแท้เท่านั้น และฉีดกับแพทย์ที่เชี่ยวชาญในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ก็จะช่วยลดโอกาสเกิดอันตราย และลดปัญหาฉีดแล้วเป็นก้อนได้ ก่อนที่จะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดูเป็นธรรมชาติและมีผลข้างเคียงน้อยที่สุด

 

คลิกดูคลิปเกี่ยวกับฟิลเลอร์ใต้ตาเพิ่มเติม

 

 

Charmerclinic

โปรโมชั่น ราคาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาราคา
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาราคา

 

คลิกอ่านเกี่ยวข้องเพิ่มเติมได้ที่
  • ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เลือกยี่ห้อไหนดี ?  https://bit.ly/3i39sjD
  • ฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดีสุด ปี2022 ผ่านอยไทย https://bit.ly/2Xk8mGg
  • เช็คก่อนฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี  https://bit.ly/3c1T4v8
  • อีโวร์ ฟิลเลอร์ (YVOIRE Filler) ฟิลเลอร์น้องใหม่คุณภาพดีจากเกาหลี https://shorturl.asia/4V1UJ
  • E.P.T.Q Filler ฟิลเลอร์น้องใหม่สุดปังจากเกาหลี https://shorturl.asia/eWcl8
  • แนะนำฟิลเลอร์ใต้ตาตัวใหม่ Flore filler  bit.ly/47ATcQr
ฝากกดติดตามสาระดีๆเกี่ยวกับความงาม
กดติดตามเพจ FB https://www.facebook.com/charmerclinic2you/
กดติดตาม Tiktok https://www.tiktok.com/@charmerclinic
กดติตตามช่อง Youtube https://bit.ly/2PZiVeR
กดติดตาม IG https://bit.ly/2PYXTwY
กดติดตาม Twitter https://twitter.com/CharmerClinic
กดอ่านบทความดีๆอัพเดท https://charmerclinic2you.com/
Click to rate this post!
[Total: 2 Average: 3]

แท็ค

#ปรับรูปหน้า botox botoxลดกราม Diode laser filler filler ใต้ตา hifu made collagen mesofat meso หน้าใส การฉีดฟิลเลอร์ กำจัดขน ก่อนฉีดฟิลเลอร์ ข้อดีร้อยไหม ฉีดfiller ฉีดผิวขาว ฉีดผิวขาวที่ไหนดี ฉีดฟิลเลอร์ ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ฉีดเมโสแฟต (Meso Fat) กินเหล้าได้ไหม ฉีดเมโสแฟต (Meso Fat) ต้องฉีดบ่อยแค่ไหน ฉีดเมโสแฟต (Meso Fat) เจ็บไหม ฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟื้นฟูผิว มาเด้คอลลาเจน รีจูรันกับเมโสกันแตกต่างกันยังไง รีวิวฟิลเลอร์ รีวิวร้อยไหม ร้อยไหม ร้อยไหมpdo ร้อยไหมก้างปลา ร้อยไหมเงี่ยง ศัลยกรรม หน้าใส เมโส เมโสหน้าใส เมโสแฟต เรสทิเลนฟิลเลอร์ เลเซอร์ เสริมจมูก โบท๊อก โบท๊อกซ์คืออะไร ไฮฟู
Share this

“ความสวยของคุณ คือเป้าหมายของเรา”

จองคิวที่ call center 085-9192768

สาขารัชดา โทร 094-5598748
สาขาอุดมสุข(บางนา) โทร 095-521-0666
สาขาเพชรเกษม 69 โทร 095-058-3666
สาขารังสิต โทร 094-696-5322
สาขาอโศก-สุขุมวิท โทร 093-241-4969
สาขา วัชรพล โทร 098-154-4454
สาขาเมเจอร์ปิ่นเกล้า โทร 083-978-0666
สาขาชัยพฤกษ์ โทร 096-016-1666 

ท่านสามารถแสดงความคิดเห็นที่ข้อสงสัยได้ที่ด้านล่างนี้

บทความที่น่าสนใจ