ไม่มีความเห็น

ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน เกิดจากอะไร แก้ไขอย่างไรได้บ้าง

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน

ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน เกิดจากอะไร แก้ไขอย่างไรได้บ้าง ?

การฉีดฟิลเลอร์ (Filler) ก็ยังคงยืนหนึ่งในเรื่องของการช่วยแก้ปัญหาต่างๆ บนใบหน้า เพราะราคาไม่แพง เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็ว ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย และช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยร่องลึก ช่วยทำให้ผิวดูเรียบเนียน ดูสดใสสุขภาพดี และยังช่วยปรับแต่งรูปหน้าให้ดูเป๊ะมากขึ้นได้ด้วย แต่หลายคนก็อาจกังวลว่าถ้าฉีดแล้วออกมาดูไม่เป็นธรรมชาติ เป็นก้อนนูน ไม่เรียบเนียน จะแก้ไขได้ไหม? บทความนี้มีคำตอบให้ครบทุกเรื่องค่ะ ฉีดฟิลเลอร์(Filler)แล้วเป็นก้อนเกิดจากอะไร จะแก้ไขได้อย่างไร และวิธีสังเกตตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ว่าจะเป็นก้อนไหม เลื่อนลงไปอ่านได้เลย!

 

การฉีดฟิลเลอร์ (Filler) คืออะไร
ฟิลเลอร์ (Filler) คือ สารเติมเต็มกลุ่มไฮยาลูโรนิคแอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารที่มีความปลอดภัยสูงเพราะใกล้เคียงกับสารที่มีตามธรรมชาติในร่างกายของมนุษย์ จึงมีความเสี่ยงที่จะแพ้หรือระคายเคืองได้น้อยมาก นิยมใช้เพื่อเติมเต็มชั้นผิว ช่วยลดเลือนริ้วรอย และเติมเต็มร่องลึกต่างๆ ให้ดูตื้นขึ้น สามารถใช้ฉีดเพื่อแก้ไขปัญหาส่วนต่างๆ บนใบหน้าได้โดยไม่ต้องศัลยกรรมหรือผ่าตัดให้เจ็บตัว 

 

5 จุดที่สามารถฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน

 

5 จุดที่สามารถฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน

 

  • ฉีดปากแล้วเป็นก้อน มักเกิดจากใช้ปริมาณฟิลเลอร์ที่มากเกินไป หรือเลือกใช้ชนิดฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสม ทำให้ฉีดออกมาแล้วดูไม่เป็นธรรมชาติ ปากดูใหญ่ ปากเจ่อคล้ายเป็ด หรือดูอวบอิ่มเกินพอดี
  • ฉีดใต้ตาแล้วเป็นก้อน มักเกิดจากการเลือกชนิดของฟิลเลอร์ไม่เหมาะกับใช้ฉีดใต้ตา ฉีดฟิลเลอร์ที่ชั้นผิวหรือตื้นเกินไป หรือฉีดปริมาณมากเกินไปจนทำให้ฟิลเลอร์นูนขึ้นเหนือชั้นกล้ามเนื้อ จึงมองเห็นฟิลเลอร์เป็นก้อน บวม ย้อยขึ้นมา
  • ฉีดคางแล้วเป็นก้อน มักเกิดจากการฉีดฟิลเลอร์ในชั้นผิวที่ตื้นเกินไป ทำให้กล้ามเนื้อดึงฟิลเลอร์มารวมกันเป็นก้อน คางจึงดูย้อยหรือดูยาวแหลมผิดรูป
  • ฉีดร่องแก้มแล้วเป็นก้อน มักเกิดจากการฉีดฟิลเลอร์ผิดตำแหน่ง หรือฉีดผิดชั้นผิว ทำให้ฟิลเลอร์ไปกองเป็นเนื้อเหนือร่องแก้ม จึงมองเห็นเป็นก้อน และทำให้ร่องแก้มดูลึกขึ้นกว่าเดิม
  • ฉีดหน้าผากแล้วเป็นก้อน มักเกิดจากการฉีดในชั้นผิวที่ตื้นเกินไป ทำให้ฟิลเลอร์เป็นคลื่น ดูไม่เรียบเนียน หรือนูนขึ้นมาได้ 

 

สาเหตุที่ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน
สาเหตุที่ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน

 

สาเหตุที่ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน

  1. ชนิดของฟิลเลอร์
เพราะฟิลเลอร์(Filler)แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น จะมีความแตกต่างกัน เช่น รุ่นนี้เนื้อละเอียดกว่า รุ่นนี้มีขนาดโมเลกุลหนาแน่นสูง โดยปกติแล้วแพทย์จะต้องทำการประเมินสภาพผิวและปัญหาที่ต้องการรักษาก่อน เพื่อจะได้เลือกใช้ฟิลเลอร์ให้เหมาะกับผิวและปัญหาของคนไข้ หากเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสมก็จะทำให้ฉีดออกมาแล้วเป็นก้อนได้ เช่น ฟิลเลอร์ที่มีขนาดโมเลกุลหนาแน่นสูง ควรฉีดในผิวชั้นลึก แต่ถ้านำไปฉีดในผิวชั้นตื้นก็จะทำให้ฟิลเลอร์เป็นก้อนบวมขึ้นมาได้ 
  1. ปริมาณของฟิลเลอร์
ปริมาณที่ใช้ฉีดและตำแหน่งที่จะฉีดของคนไข้ในแต่ละคนมักแตกต่างกัน เพราะปัญหาและสภาพผิวของแต่ละคนมีความแตกต่างกัน แพทย์จึงต้องพิจารณาตามความเหมาะสม หากใช้ปริมาณฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสม หรือใช้มากเกินไปก็จะทำให้ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน
  1. ใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ผ่าน อย.
เมื่อใช้ฟิลเลอร์(Filler)ที่ไม่ผ่าน อย. หรือฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่ได้มาตรฐาน ในช่วงแรกที่ฉีดอาจเห็นผลว่าสวยดี แต่เมื่อผ่านไปประมาณ 1 ปี ฟิลเลอร์จะไม่สลายหายไปเองเหมือนฟิลเลอร์แท้ ทำให้เป็นก้อนหรือไหลย้อยลงมาได้ หากฉีดฟิลเลอร์ปลอมแล้วเป็นก้อนจะไม่สามารถฉีดสลายออกได้ จะต้องแก้ไขด้วยการขูดออกหรือผ่าตัดเท่านั้น 
  1. แพทย์ไม่เชี่ยวชาญในการฉีดฟิลเลอร์
หากฉีดกับแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญ ไม่มีประสบการณ์ที่มากพอ หรือฉีดฟิลเลอร์กับหมอกระเป๋า หมอปลอมก็อาจทำให้ฉีดออกมาแล้วเป็นก้อน ดูผิดรูปได้ การเลือกฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญจะช่วยให้ฉีดออกมาดูเป็นธรรมชาติ สวยได้รูป และไม่เป็นก้อน
  1. เทคนิคในการฉีดฟิลเลอร์ของแพทย์
แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญหรือมีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์มักจะมีความเข้าใจในโครงสร้างสรีรวิทยาของร่างกายมนุษย์ และมีเทคนิคในการฉีดให้ออกมาดูเป็นธรรมชาติ แต่ถ้าแพทย์ไม่มีประสบการณ์หรือขาดความรู้ก็อาจทำให้ฉีดฟิลเลอร์ออกมาเป็นก้อนได้ เช่น ฉีดเยอะเกินไปหรือวางฟิลเลอร์ผิดชั้นผิวก็จะทำให้ฉีดแล้วเป็นก้อน
  1. ตำแหน่งที่ฉีดฟิลเลอร์
มักเกิดขึ้นเมื่อฉีดฟิลเลอร์(Filler)ไม่ตรงกับตำแหน่งที่มีปัญหา เช่น ฉีดริ้วรอยลึกเกินไป หรือฉีดเติมร่องลึกที่ตื้นเกินไป รวมถึงการใช้ปริมาณฟิลเลอร์ที่ไม่หมาะสมในจุดที่ฉีดด้วย 

 

3 วิธีแก้ไขเมื่อฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน
3 วิธีแก้ไขเมื่อฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน

 

3 วิธีแก้ไขเมื่อฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน

หากฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนบวม หรือฉีดออกมาแล้วดูไม่เป็นธรรมชาติ ไม่ถูกใจ ก็สามารถแก้ไขได้ด้วย 3 วิธีนี้ 
  1. ฉีดสลายฟิลเลอร์
หากฉีดฟิลเลอร์(Filler)แล้วรู้สึกไม่ชอบ ฉีดออกมาแล้วดูไม่เป็นธรรมชาติตามที่ต้องการ หรือฉีดแล้วเป็นก้อน ก็สามารถใช้สาร Hyaluronidase ฉีดเพื่อสลายฟิลเลอร์ได้ เพราะเป็นสารที่มีคุณสมบัติย่อยสลายไฮยาลูโรนิคแอซิด (Hyaluronic Acid) เมื่อฉีดสารตัวนี้เข้าไปจะไม่กระทบกับเนื้อเยื่อส่วนอื่นๆ ด้วย แต่ฟิลเลอร์ที่ฉีดจะต้องเป็นของแท้จึงจะสามารถใช้สาร Hyaluronidase ฉีดสลายฟิลเลอร์ออกได้แบบ 100%  โดยจะเห็นผลใน 3-7 วัน หากต้องการฉีดฟิลเลอร์เพิ่มควรเว้นระยะเวลา 1 สัปดาห์หลังฉีดสลายไปแล้ว
  1. ขูดฟิลเลอร์
วิธีนี้จะเหมาะกับคนที่ฉีดฟิลเลอร์แบบที่ไม่ใช่ไฮยาลูโรนิคแอซิด (Hyaluronic Acid) หรือเป็นฟิลเลอร์ประเภทกึ่งถาวรที่ไม่สามารถสลายเองได้ เช่น Polyamine (Aqualift), Hydrofilic gel เมื่อขูดแล้วอาจจะไม่สามารถเอาออกได้หมด อาจเอาออกได้ประมาณ 60-70% เท่านั้น 
  1. ทำศัลยกรรมผ่าตัดฟิลเลอร์ 
มักใช้กับคนที่ฉีดฟิลเลอร์(Filler)ประเภทซิลิโคนเหลว หรือฉีดฟิลเลอร์ออกมาเป็นก้อนแข็งขนาดใหญ่ หรือฉีดมานานจนมีพังผืดมาเกาะยึดรอบๆ การนำฟิลเลอร์ออกด้วยวิธีผ่าตัดจะไม่สามารถเอาออกได้หมด 100% โดยจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ฉีดมาด้วย เพราะแพทย์ต้องระวังในเรื่องของเส้นประสาท เส้นเลือดสำคัญต่างๆ ก่อนทำจึงควรปรึกษาแพทย์ศัลยกรรมในโรงพยาบาล

 

 

ฉีดฟิลเลอร์ (Filler)
ฉีดฟิลเลอร์ (Filler)

 

 

วิธีสังเกตตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ ถ้าเป็นก้อนจะเป็นอย่างไร

โดยปกติแล้วหลังฉีดฟิลเลอร์(Filler)อาจมีอาการบวมประมาณ 2-7 วัน และฟิลเลอร์จะค่อยๆ ผสานรวมกับเนื้อเยื่อของเรา หรือเริ่มเข้าที่ใน 7-14 วัน หากหลังจากนี้แล้วฟิลเลอร์ยังดูไม่เป็นธรรมชาติ หรือเป็นก้อนนูนออกมา ควรนัดพบแพทย์เพื่อให้ตรวจดู และนี่คือวิธีสังเกตตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์เพื่อดูว่ามีความเสี่ยงจะเป็นก้อนหรือไม่
ฟิลเลอร์เป็นก้อนบวมจากการอักเสบหรือติดเชื้อ
  • ปวดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์มากขึ้น และปวดมากกว่าปกติ
  • ผิวหนังบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์บวมมากขึ้นเรื่อยๆ 
  • ผิวบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์แดงหรือคล้ำผิดปกติ 
  • รู้สึกร้อนบริเวณผิวหนังที่ฉีดฟิลเลอร์ 
หากเป็นอาการอักเสบหรือติดเชื้อจะมีอาการปวดมากกว่าปกติ และมักจะมีอาการบวมแดง กดบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์(Filler)แล้วจะรู้สึกเจ็บมาก หรือมีอาการอักเสบ ผิวหนังบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์มีอาการแสบร้อนกว่าบริเวณอื่น ถ้ามีอาการแบบนี้ต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อแก้ไขฟิลเลอร์ด้วยการฉีดสลาย
ฟิลเลอร์เป็นก้อน แต่ไม่ได้ติดเชื้อ
  • บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์เป็นก้อน ไม่เรียบเนียน
  • หลังฉีดฟิลเลอร์แล้วดูไม่เป็นธรรมชาติ
  • ไม่มีอาการแสบร้อนผิดปกติ หรือรู้สึกเจ็บมาก
หากฟิลเลอร์เป็นก้อนนูนขึ้นมา แต่ไม่ได้มีอาการอักเสบหรือติดเชื้อ จะต้องสังเกตอาการประมาณ 3-4 สัปดาห์เพื่อให้แน่ใจว่าฟิลเลอร์นั้นไม่ได้เกิดจากอาการบวมหลังฉีด หรือหากไม่มั่นใจสามารถนัดพบแพทย์ได้

 

ข้อแนะนำหลังการฉีดฟิลเลอร์ (Filler)
ข้อแนะนำหลังการฉีดฟิลเลอร์ (Filler)

 

ข้อแนะนำหลังการฉีดฟิลเลอร์ (Filler)

  • งดการจับ นวด คลึง เกา ในบริเวณที่ฉีด เพราะอาจทำให้ตัวยาเคลื่อนไปอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ต้องการได้
  • ห้ามนอนราบหลังจากฉีดฟิลเลอร์ 3-4 ชั่วโมง
  • ควรทาครีมกันแดดทุกวัน และเลี่ยงการโดนแสงแดดในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
  • ภายใน 48 ชั่วโมงหลังฉีด ไม่ควรออกกำลังกายหรือตากแดด เพราะอาจทำให้เกิดรอยแดงมากขึ้น
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ควรงดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ ในกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์ปากควรงดดื่มน้ำจากหลอด
  • ควรดื่มน้ำให้มากๆ อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว เพื่อให้ฟิลเลอร์คงสภาพได้นานขึ้น
  • ภายใน 2 สัปดาห์หลังฉีด ควรเลี่ยงการโดนความร้อนในบริเวณที่ฉีด เช่น ใช้ไดร์เป่าผม ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น ทำเลเซอร์ ทำทรีตเมนต์ต่างๆ ที่ต้องใช้ความร้อน เพราะจะทำให้ฟิลเลอร์สลายได้เร็วขึ้น
  • เลี่ยงการกินยากลุ่มแอสไพรินและวิตามินอี เป็นเวลา 2 วันหลังฉีดฟิลเลอร์
  • ในบางคนอาจมีอาการบวมแดงในบริเวณที่ฉีด แต่อาการจะหายไปเองภายใน 2 วัน
  • หากมีอาการผิดปกติ เช่น ปวด บวม แดง หรือแสบร้อน บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
การฉีดฟิลเลอร์ (Filler) ก็ยังถือเป็นวิธีที่มีความปลอดภัยสูงและระคายเคืองต่อผิวได้น้อยมาก เพราะเป็นสารที่มีตามธรรมชาติในร่างกายมนุษย์ และย่อยสลายได้ 100% หากไม่อยากฉีดออกมาแล้วเป็นก้อนก็ควรเลือกใช้ฟิลเลอร์(Filler)แท้ที่ผ่าน อย. แล้วเท่านั้น และเลือกใช้บริการคลินิกที่มีมาตรฐาน น่าเชื่อถือ ตรวจสอบได้ มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ ก็จะช่วยให้ไม่เกิดผลข้างเคียงในการฉีดได้ แต่ถ้าฉีดฟิลเลอร์ออกมาแล้วไม่ถูกใจ เป็นก้อน หรือดูไม่เป็นธรรมชาติ ก็สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์(Filler)ได้ค่ะ ยังไงก่อนจะฉีดควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอและควรใช้ฟิลเลอร์(Filler)ของแท้เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาถูกใจเราที่สุด

 

รวมรีวิวฉีดฟิลเลอรฺ์ใต้ตาจากลูกค้า
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา resthylane (เรสทิเลน ฟิลเลอร์)
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา resthylane (เรสทิเลน ฟิลเลอร์)

รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา Yvoire (อีโวร์ ฟิลเลอร์)
รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา Yvoire (อีโวร์ ฟิลเลอร์)

 

ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อนไหนดี โปรโมชั่น
ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อนไหนดี โปรโมชั่น

 

Charmer clinic
Charmer clinic

สามารถอ่านบทความเกี่ยวข้องเพิ่มเติมได้ที่

 

ฝากกดติตตามความงามสาระดีๆ
กดติดตามเพจ FB https://www.facebook.com/charmerclinic2you/
กดติดตาม Tiktok https://www.tiktok.com/@charmerclinic
กดติตตามช่อง Youtube https://bit.ly/2PZiVeR
กดติดตาม IG https://bit.ly/2PYXTwY
กดติดตาม Twitter https://twitter.com/CharmerClinic
กดอ่านบทความดีๆอัพเดท https://charmerclinic2you.com/

 

Click to rate this post!
[Total: 1 Average: 5]
Share this

“ความสวยของคุณ คือเป้าหมายของเรา”

จองคิวที่ call center 085-9192768

สาขารัชดา โทร 094-5598748
สาขาอุดมสุข(บางนา) โทร 095-521-0666
สาขาเพชรเกษม 69 โทร 095-058-3666
สาขารังสิต โทร 094-696-5322
สาขาอโศก-สุขุมวิท โทร 093-241-4969
สาขาพรอมานาด โทร 098-154-4454
สาขาเมเจอร์ปิ่นเกล้า โทร 083-978-0666
สาขาราชพฤกษ์ โทร 096-016-1666 

ท่านสามารถแสดงความคิดเห็นที่ข้อสงสัยได้ที่ด้านล่างนี้

บทความที่น่าสนใจ