ฉีดโบท็อกซ์(botox)ควรใช้กี่ยูนิตดี เพื่อหน้าที่สวยเป๊ะ ไม่โป๊ะ!!
การฉีดโบท็อกซ์กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะเห็นผลรวดเร็ว ใช้เวลาไม่นาน และราคาไม่สูงจนเกินไป แต่ก่อนจะฉีดโบท็อกซ์อยากให้มาอ่านทำความเข้าใจก่อนว่า โบท็อกซ์คืออะไร ฉีดตรงไหนได้บ้าง ควรฉีดกี่ยูนิตดีเพื่อหน้าที่ดูเป็นธรรมชาติ และควรดูแลตัวเองยังไงหลังจากฉีดโบท็อกซ์
โบท็อกซ์คืออะไร ?
โบท็อกซ์ (Botox) เป็นนวัตกรรมเพื่อลดริ้วรอยและปรับรูปใบหน้า โดยใช้สารสกัดที่เรียกว่า “โบทูลินัม ท็อกซิน เอ” (Botulinum toxin A) จากแบคทีเรียคลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium botulinum) ซึ่งจะช่วยลดริ้วรอย ช่วยปรับรูปหน้า ช่วยฟื้นฟูผิวให้ดูตึงกระชับ ผิวดูใสขึ้น และรูขุมขนดูตื้นขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีดการฉีดโบท็อกซ์(botox)กำลังเป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน เนื่องจากเห็นผลชัดเจน และใช้เวลาไม่นาน
ฉีดโบท็อกซ์(botox) ตรงไหนได้บ้าง ?
-
หน้าผากและระหว่างคิ้ว ลองสังเกตดูว่าเวลาเรายักคิ้ว ขมวดคิ้ว หรือเลิกคิ้วขึ้นไป มักจะมีรอยย่นเกิดขึ้นบริเวณหน้าผากและระหว่างคิ้ว การฉีดโบท็อกซ์บริเวณนี้จะช่วยแก้ไขรอยย่นที่เป็นเส้นเล็ก ๆ ตรงหน้าผากและระหว่างคิ้วให้หายไป
-
หางตา ลองยืนยิ้มหน้ากระจกดู แล้วจะเห็นริ้วรอยที่เราเรียกกันว่า “ตีนกา” อยู่ที่บริเวณหางตา สาเหตุก็มาจากการยิ้มและหัวเราะนั่นเอง การฉีดโบท็อกซ์บริเวณนี้จะช่วยให้รอยย่นที่หางตาหายไป
-
ปีกจมูก เหมาะสำหรับคนที่อยากให้ปีกจมูกดูเล็กลง หรือเวลายิ้มแล้วปีกจมูกชอบบานออก การฉีดโบท็อกซ์(botox)บริเวณนี้จะช่วยลดการทำงานของปีกจมูกบริเวณด้านข้าง ช่วยให้ปีกจมูกดูเล็กลง และไม่บานออกเวลายิ้มหรือหัวเราะ
-
กราม การฉีดโบท็อกซ์(botox)บริเวณนี้จะช่วยให้หน้าดูเรียวขึ้น รูปหน้าดูเล็กลง ใครที่อยากหน้าตอบ หน้าทรงวีเชฟ แนะนำให้ฉีดโบท็อกซ์ที่กรามจ้า
-
คอ การฉีดโบท็อกซ์บริเวณนี้จะช่วยลดรอยเหี่ยวย่นที่เป็นขีด ๆ ปล้อง ๆ บริเวณลำคอ และยังช่วยปรับบริเวณใต้ขากรรไกรและคอให้ดูเรียวได้รูปมากขึ้นด้วย
-
รักแร้ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า การฉีดโบท็อกซ์(botox)บริเวณนี้จะช่วยลดการทำงานของต่อมเหงื่อ เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาเหงื่อออกเยอะจากความผิดปกติของต่อมเหงื่อ
-
น่อง การฉีดโบท็อกซ์(botox)บริเวณนี้จะช่วยลดกล้ามเนื้อน่องให้เล็กลง ทำให้น่องดูเรียวยาวขึ้น
ฉีดโบท็อกซ์(botox)ใช้กี่ยูนิตดี เพื่อหน้าที่สวยเป๊ะดูธรรมชาติ
-
หน้าผาก ไม่ควรฉีดโบท็อกซ์เกิน 50 ยูนิต เพราะจะทำให้ดูแข็งตึง ดูไม่เป็นธรรมชาติ
-
ระหว่างคิ้ว ไม่ควรฉีดโบท็อกซ์เกิน 6-15 ยูนิต เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณคิ้วขยับได้น้อย ทำให้แสดงสีหน้าอารมณ์ได้ยาก และดูไม่เป็นธรรมชาติ
-
หางตา ไม่ควรฉีดโบท็อกซ์เกิน 10-25 ยูนิต เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนี้แข็งตึงมากไป
-
กราม ไม่ควรฉีดโบท็อกซ์เกินข้างละ 50 ยูนิต เพราะจะทำให้แก้มตอบเกินไป ดูไม่สดใส และอาจทำให้โหนกแก้มดูสูงขึ้นด้วย (คลิกอ่านบทความ 10 คำถามสุดฮิตเกี่ยวกับ Botox ลดกราม )
-
น่อง ไม่ควรฉีดโบท็อกซ์เกินข้างละ 100 ยูนิต เพราะจะทำให้น่องอ่อนแรง
ข้อดี & ข้อควรระวัง ในการฉีดโบท็อกซ์(botox)
ข้อดีของการฉีดโบท๊อกซ์ (botox)
– เห็นผลเร็ว ซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทของการฉีดด้วย มีทั้งแบบที่เห็นผลทันทีไปจนถึงเป็นเดือนกว่าจะเห็นผล
– ไม่ต้องพักฟื้นหรือพักหน้า ฉีดเสร็จแล้วสามารถทำกิจกรรม ใช้ชีวิตได้ตามปกติทันที
– ราคาไม่สูงมาก และมียี่ห้อให้เลือกหลากหลาย (คลิกอ่าน 7 ยี่ห้อโบท๊อกซ์ผ่านอยไทย)
– การฉีดโบท็อกซ์นั้นมีผลข้างเคียงน้อยและปลอดภัย
ข้อควรระวังการฉีดโบท๊อกซ์(botox)
– การฉีดโบท็อกซ์นั้นอยู่ได้ไม่ถาวร การฉีด 1 ครั้งจะมีอายุประมาณ 4-6 เดือน
– หน้าอาจดูไม่เป็นธรรมชาติ หรือแสดงสีหน้าไม่ค่อยได้ หากฉีดจำนวนที่เยอะเกินไป
– อาจมีผลข้างเคียง เช่น ปวดศีรษะ คิ้วหรือหนังตาตก แต่อาการเหล่านี้จะหายไปเองภายใน 1-2 สัปดาห์
– หากฉีดจากแพทย์ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญอาจเป็นอันตรายได้
ดูแลตัวเองยังไงหลังฉีดโบท็อกซ์ เพื่อให้โบท็อกซ์อยู่ได้นาน!
– หลังจากฉีดโบท็อกซ์ในช่วง 3-4 ชั่วโมงแรก ไม่ควรนอนราบ และงดก้มหัวลงต่ำกว่าระดับหัวใจ เพราะโบท็อกซ์อาจไหลไปในบริเวณที่ไม่ต้องการ
– ช่วง 6-8 ชั่วโมงหลังการฉีดโบท็อกซ์ ให้งดนวด กด บีบ คลึง บริเวณที่เพิ่งฉีดมา เพื่อไม่ให้ยากระจายไปออกฤทธิ์ที่บริเวณอื่นแทน
– คืนแรกหลังจากฉีดโบท็อกซ์ให้นอนหงายหนุนหมอนสูง
– ช่วง 2-3 สัปดาห์แรกหลังจากฉีดโบท็อกซ์ ควรเลี่ยงการใช้ไดร์เป่าผมในบริเวณที่เพิ่งฉีดมา เลี่ยงการโดนแสงแดดจัด ๆ รวมถึงงดกิจกรรมที่ใช้ความร้อน หรือทำให้หน้าแดง เช่น ซาวน่า ทำเลเซอร์หน้า เพราะพลังงานความร้อนจะไปสลายโบท็อกซ์ทำให้เสื่อมสภาพเร็วขึ้น
– หากมีอาการบวมแดงหรือช้ำในช่วง 1-2 วันแรกหลังการฉีดโบท็อกซ์ ก็ไม่ต้องตกใจเพราะเป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นได้ สามารถใช้น้ำแข็งประคบให้อาการดีขึ้นได้
– หลังฉีดโบท็อกซ์สามารถแต่งหน้า ทาครีมได้ตามปกติ
– ควรล้างหน้าอย่างเบามือ ไม่ขัด ถู ขยี้หน้าแรง ๆ และควรซับหน้าเบา ๆ
– ควรไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง
รู้ก่อนฉีด ! ใครบ้างที่ไม่ควรฉีดโบท็อกซ์
– ผู้ที่มีความผิดปกติทางกล้ามเนื้อและระบบประสาท เช่น โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (Myasthenia gravis) โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงเอแอลเอส (Amyotrophic Lateral Sclerosis: ALS) ไม่ควรฉีดโบท็อกซ์ เพราะอาจทำให้อาการของโรคแย่ลง
– หญิงตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร เพื่อหลีกเลี่ยงสารเคมีที่อาจส่งผลต่อร่างกายและทารก
ก่อนจะฉีดโบท็อกซ์ควรแจ้งแพทย์ให้รู้ก่อนเสมอ
– เคยมีผลข้างเคียงจากการฉีดโบท็อกซ์ครั้งก่อนๆ
– มีภาวะเลือดหยุดยาก เขียวช้ำง่าย
– มีภาวะหนังตาตกอยู่
– เคยผ่าตัดใบหน้ามาก่อน
– เคยทำหัตถการต่างๆ บนใบหน้ามาก่อน เช่น ฟิลเลอร์ ร้อยไหม เมโส ฯลฯ
บทความดีๆเกี่ยวกับ โบท๊อกซ์
🔷 คลิกอ่านบทความ 10 คำถามสุดฮิตเกี่ยวกับ botox https://bit.ly/2SOw9fd
🔷 คลิกอ่านบทความ ข้อดี ข้อเสีย botox https://bit.ly/2ujGqYL
🔷 คลิกอ่านบทความ 7 ยี่ห้อโบท๊อกซ์ผ่านอยไทย https://bit.ly/31qHtCl
🔷 คลิกอ่านบทความ allergan botox vs botulax แตกต่างกันอย่างไร https://bit.ly/2XO5Ucn
🔷 คลิกอ่านบทความร้อยไหมกับโบท๊อกซ์อันไหนดีกว่ากัน https://bit.ly/2v0KEo9
🔷 คลิกอ่านบทความ โบท๊อกซ์กับฟิลเลอร์แตกต่างกันอย่างไร https://bit.ly/31rIoCt
🔷 5 ข้อควรรู้ก่อนฉีดโบท๊อกซ์ bit.ly/32zmC09
🔷 ดูวีดีโอรีวิว โบท๊อกซ์ลดกราม https://bit.ly/2Xpwt7q
ฝากกดติตตามความงามสาระดีๆ
กดติดตามเพจ FB https://www.facebook.com/charmerclinic2you/
กดติดตาม Tiktok https://www.tiktok.com/@charmerclinic
กดติตตามช่อง Youtube https://bit.ly/2PZiVeR
กดติดตาม IG https://bit.ly/2PYXTwY
กดติดตาม Twitter https://twitter.com/CharmerClinic
กดอ่านบทความดีๆอัพเดท https://charmerclinic2you.com/
สนใจสอบถามปรึกษาแพทย์/นัดคิว
จองคิวที่📲 call center 085-919-2768
-
สาขารัชดา (MRTรัชดาภิเษก) โทร 094-559-8748
-
สาขาอุดมสุข(บางนา) โทร 095-521-0666
-
สาขาเพชรเกษม 69 (victoria garden) โทร 095-058-3666
-
สาขารังสิต (ตรงข้ามฟิวเจอร์พาร์ค) โทร 094-696-5322
-
สาขาสุขุมวิท39 (ตึก Bio House) โทร 093-241-4969
-
สาขาราชพฤกษ์ (The Walk ) โทร 081-444-6395
-
สาขาวัชรพล (the platinum place) โทร 098-154-4454
Click to rate this post!
[Total: 0 Average: 0]