ดูแลผิวหน้า อายุ 30 ป้องกันริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย หัตถการหน้าเด็ก ไหนดี

เมื่อก้าวเข้าสู่วัย 30 สุขภาพผิวก็จะเริ่มเผชิญกับปัญหาริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย รูขุมขนกว้าง ผิวหมองคล้ำ เลยทำให้ดูแก่ก่อนวัย ซึ่งปัญหาเหล่านี้เกิดได้จากคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวหนังลดลง ส่งผลให้ผิวหนังสูญเสียความยืดหยุ่นและเกิดริ้วรอย

การทำหัตถการ ดูแลผิวหน้า อายุ 30 เป็นหนึ่งในวิธีแก้ปัญหาผิวเหล่านี้ โดยปัจจุบันก็มีตัวเลือก หัตถการหน้าเด็ก ให้เลือกใช้มากมาย ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวและความต้องการของแต่ละบุคคล 

ปัญหาผิว เมื่ออายุมากขึ้น มีอะไรบ้าง? 

เมื่อเราอายุมากขึ้น ผิวหนังของเราจะเริ่มเสื่อมสภาพตามธรรมชาติ เนื่องด้วยสาเหตุหลักๆ คือการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน รวมถึงสิ่งที่เราต้องเจอในทุกๆ วัน เช่น แสงแดด มลภาวะ และพฤติกรรมการใช้ชีวิต ล้วนส่งผลต่อสุขภาพผิว ปัญหาผิวที่พบเมื่อเราอายุมากขึ้น ได้แก่ ริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย ฝ้ากระและจุดด่างดำ รวมถึงการมีผิวแห้ง ไม่ชุ่มชื้นเหมือนอย่างเคย 

ทั้งนี้ สาเหตุของผิวหน้าเราเมื่อเราอายุมากขึ้น มักไม่ได้เกิดขึ้นจากสาเหตุเดียว แต่เกิดจากปัจจัยหลายๆ อย่างร่วมกัน การป้องกันและรักษาจึงควรทำอย่างครอบคลุม ยกตัวอย่างเช่น หลีกเลี่ยงแสงแดด และควรทาครีมกันแดดเป็นประจำ ดูแลสุขภาพ ทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ ปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อหาวิธีการดูแลรักษาผิวหน้าของเราได้อย่างถูกวิธี หรือเริ่ม ดูแลผิวหน้า อายุ 30 ด้วย หัตถการหน้าเด็ก ยอดนิยมในปัจจุบัน

หัตถการหน้าเด็ก ที่เหมาะกับวัย 30+ มีอะไรบ้าง? 

เมื่อเข้าสู่วัย 30 ผิวหนังของเราจะเริ่มเสื่อมสภาพ เกิดริ้วรอย รอยด่างดำ และปัญหาผิวอื่นๆ หัตถการต่างๆ เหล่านี้ สามารถช่วยชะลอวัย ฟื้นฟูสภาพผิว และแก้ปัญหาผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

1. โบท็อกซ์ ( Botulinum Toxin )

คลิกเพื่ออ่านเพิ่มเติมเก่ี่ยวกับโปรแกรมปรับรูปหน้า

ชื่อทางการคือ โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ ( Botulinum Toxin Type A)  ซึ่งเป็นสารสกัดจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินัม ( Clostridium Botulinum ) โบท็อกถูกนำมาใช้ในวงการเสริมความงาม เมื่อฉีดไปแล้วจะออกฤทธิ์มีผลทำให้มัดกล้ามเนื้อทำงานลดลงชั่วคราว ลดการขยับของกล้ามเนื้อ ช่วยลดริ้วรอย ลดกราม ปรับรูปหน้าและทำให้ผิวเต่งตึง 

โบท็อกซ์ เหมาะกับใคร? 

  • เหมาะกับคนที่มีริ้วรอยต่างๆ บนใบหน้า เช่น รอยตีนกา รอยหน้าผาก รอยยิ้ม รอยคาง
  • เหมาะกับคนที่ต้องการยกกระชับใบหน้าให้ดูเต่งตึง อวบอิ่ม
  • เหมาะกับคนที่ต้องการปรับรูปหน้า เช่น ฉีดโบท็อกซ์ลดกราม
  • เหมาะกับคนที่ต้องการลดขนาดน่อง

โบท็อกซ์ ช่วยแก้ไขปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า ใบหน้าดูกระชับ เต่งตึงขึ้น ปรับรูปหน้าให้เรียวเล็ก ลดขนาดกล้ามเนื้อน่องแขน น่องขาได้ และยังช่วยรักษาอาการปวดออฟฟิตซินโดรม ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น เห็นผลลัพธ์ได้หลังจากฉีด  14 – 30 วัน 

โบท็อกซ์ มียี่ห้ออะไรบ้าง? ราคาเริ่มต้น?  

Allergan Botox : 
  • ได้รับการรับรองจาก USFDA ( อย. อเมริกา )
  • ราคาเริ่มต้นประมาณ  3,000 บาท ต่อตำแหน่งที่ฉีด 
Aestox และ Nabota ( เกาหลี ) : 
  • ได้รับการรับรองจาก KFDA ( อย. เกาหลี )
  • ราคาเริ่มต้นประมาณ  2,500 บาท ต่อตำแหน่งที่ฉีด 
Xeomin ( เยอรมัน ) : 
  • ได้รับการรับรองจาก USFDA ( อย. อเมริกา )
  • ราคาเริ่มต้นประมาณ 9,000 บาท ต่อตำแหน่งที่ฉีด 

2. ฟิลเลอร์

คลิกเพื่ออ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรมฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์ เป็นสาร Hyaluronic acid  ซึ่งจำเป็นต่อการรักษาความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นของผิว ฟิลเลอร์ยังมีส่วนช่วยปรับปรุงรอยคล้ำและอาการบวม ทำให้บริเวณใต้ดวงตาดูสดชื่นและอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้น 

ฟิลเลอร์ เหมาะกับใคร? 

  • เหมาะกับบุคคลที่ไม่ได้ต้องการจะผ่าตัดแต่ต้องการอยากปรับรูปหน้า
  • เหมาะกับบุคคลที่ต้องการบำรุงผิวหน้า เพิ่มความชุ่มชื้น 
  • เหมาะกับการเติมเต็ม ใต้ตา ร่องแก้ม ร่องลึก เสริมโหนกแก้ม เพื่อให้ใบหน้ามีความอิ่มฟูมากขึ้น 

ฟิลเลอร์ ช่วยเติมเต็มร่องลึก ริ้วรอยต่างๆ ให้ดูตื้นขึ้น และยังช่วยปรับรูปหน้า เพิ่มความอิ่มฟูให้กับผิวหน้าของเรา ฟิลเลอร์สามารถเติมเต็มได้หลายจุดเช่น ใต้ตา คาง ขมับ ปาก เป็นต้น ซึ่งผลลัพธ์เห็นได้ทันทีหลังฉีดเสร็จ โดยส่วนใหญ่ผลลัพธ์จะอยู่ได้ 6 – 18 เดือน ขึ้นอยู่กับแต่ละยี่ห้อ

ฟิลเลอร์ มียี่ห้ออะไรบ้าง?  ราคาเริ่มต้น? 

YVOIRE Filler 
  • ได้รับการรับรองจาก KFDA
  • ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 6,000 บาท ต่อ 1 cc และขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของแต่ละคลินิก 
Neuramis Filler 
  • ได้รับการรับรองจาก KFDA 
  • ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 5,000 บาท ต่อ 1 cc และขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของแต่ละคลินิก 
E.P.T.Q Filler  
  • ได้รับการรับรองจาก KFDA
  • ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 5,000 บาท ต่อ 1 cc และขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของแต่ละคลินิก 
Juvederm Filler
  •  ได้รับการรับรองจาก FDA ของสหรัฐอเมริกา
  • ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 10,000 บาท ต่อ 1 cc และขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของแต่ละคลินิก 
Restylane Filler 
  • ได้รับการรับรองจาก FDA ของสหรัฐอเมริกา
  • ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 8,000 บาท ต่อ 1 cc และขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของแต่ละคลินิก
Hyafilia Filler  
  • ได้รับการรับรองจาก KFDA
  • ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 6,990 บาท ต่อ 1 cc และขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของแต่ละคลินิก 

3. เครื่องยกกระชับ 

คลิกเพื่ออ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรมยกกระชับหน้า

เครื่องยกกระชับหน้า คือ อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับแก้ไขปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย ริ้วรอย และปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น โดยอาศัยหลักการทำงานที่หลากหลาย เช่น คลื่นวิทยุ คลื่นอัลตร้าซาวด์ รวมถึงความร้อน และกระแสไฟฟ้า เพื่อส่งพลังงานลงใต้ชั้นผิวหนังเพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ให้ใบหน้ามีความยกกระชับมากขึ้น ไม่หย่อนคล้อย  

เครื่องยกกระชับ เหมาะกับใคร? 

  • เหมาะกับคนที่มีอายุ 30+ ปีขึ้นไป
  • เหมาะกับคนที่มีใบหน้าหย่อนคล้อย 
  • เหมาะกับคนที่มีริ้วรอย 
  • เหมาะกับคนที่ต้องการปรับรูปหน้า  

เครื่องยกกระชับ กระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว ช่วยให้ผิวหน้าเต่งตึง กระชับ รูขุมขนกระชับ และริ้วรอยดูจางลง ไม่ต้องผ่าตัด และเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังจากทำเสร็จ ซึ่งผลลัพธ์โดยส่วนใหญ่จะอยู่ได้ประมาณ 6 – 12 เดือนขึ้นอยู่กับวิธีการดูแลตัวเองหลังจากการทำด้วย

เครื่องยกกระชับหน้า มีหลายประเภท แต่ละประเภทมีกลไกการทำงานและผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน ดังนี้ 

เครื่อง RF ( Radio-frequency )
  • ใช้คลื่นวิทยุความถี่สูงกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ชั้นผิว
  • ช่วยให้ผิวกระชับ เต่งตึง รูขุมขนกระชับ ริ้วรอยดูจางลง 
  • ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 2,000-5,000 บาท ต่อ 1 ครั้ง ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของแต่ละคลินิก 
เครื่อง Hifu ( High Intensity Focused Ultrasound) 
  • ใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์ความถี่สูงส่งพลังงานความร้อนลงใต้ชั้นผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน 
  • ช่วยลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า ยกกระชับใบหน้า และปรับรูปหน้า 
  • ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 2,000 บาท และขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของแต่ละคลินิก 
 เครื่อง Thermage
  • ใช้เทคโนโลยีคลื่นวิทยุความถี่สูงและคลื่นอินฟราเรด กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน
  • ช่วยกระชับผิวบริเวณรอบดวงตา ลำคอ และอก ปรับรูปหน้า รวมถึงช่วยลดเรือนริ้วรอยบนใบหน้า 
  • ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 30,000 บาท ต่อ 400-500 shot และขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของแต่ละคลินิก 
เครื่อง Ulthera
  • ใช้เทคโนโลยีเดียวกันกับเครื่องไฮฟู่ แต่จะส่งความร้อนลงใต้ชั้นผิวหนังแบบเป็นจุดโฟกัสได้ดีกว่า 
  • ช่วยยกกระชับใบหน้า ลดริ้วรอย และช่วยปรับรูปหน้า 
  • ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 9,000-60,000 บาท โดยราคาจะขึ้นอยู่กับสภาพผิวหน้าของแต่ละบุคคล 

4. ไหมน้ำ  

คลิกเพื่ออ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกมไหมน้ำ

โปรแกรมไหมน้ำ คือนวัตรกรรมที่กำลังมาแรงในประเทศเกาหลี โดยไหมน้ำจะมีส่วนผสมของไหมละลายที่ไว้ใช้สำหรับการเย็บผ่าตัด คือ ไหมชนิด PDO, PCL, PLLA, PDLLA ที่ได้ผ่านกระบวนการและพัฒนามาเป็นผงละอองไข่มุกสีขาวที่สามารถละลายเป็นน้ำและฉีดได้ทุกบริเวณหน้า

ไหมน้ำ เหมาะกับใคร?  

  • เหมาะกับบุคคลที่มีอายุ 30 ปี ขึ้นไป 
  • เหมาะกับคนที่ต้องการยกกระชับและกระตุ้นคอลลาเจน
  • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอยลึก แก้มตอบ 

ไหมน้ำ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ช่วยให้ผิวหน้าเต่งตึง กระชับ ชุ่มชื้น และริ้วรอยดูจางลง ไหมน้ำไม่เป็นอันตรายเพราะสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ โดยจะเริ่มเห็นผลได้หลังการรักษาประมาณ 1-2 สัปดาห์ และผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นาน 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับแต่ละยี่ห้อ  

ไหมน้ำ ยี่ห้อไหนดี ได้แก่

ไหมน้ำ Ultracol  
  • เป็นไหมน้ำ PDO 
  • ช่วยให้ผิวที่มีความหย่อนคล้อยกลับมากระชับเต่งตึงขึ้นอีกครั้ง  
  • ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 5,000 บาท และขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของแต่ละคลินิก 
ไหมน้ำ Gouri  
  • เป็นไหมน้ำ PCL 
  • ช่วยให้ผิวหน้าที่เหี่ยวย่นมีความตึงขึ้น อิ่มฟูมากขึ้น 
  • ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 15,000 บาท และขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของแต่ละคลินิก 
ไหมน้ำ Sculptra 
  • เป็นไหมน้ำ PLLA 
  • ช่วยกระตุ้นการสร้าง Collagen Type I ให้ผิวมีความชุ่มชื้น มีความกระจ่างใสมากขึ้น 
  • ช่วยเติมเต็มร่องริ้วรอยลึกให้กลับมามีความอิ่มฟูมากขึ้น
  • ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ  29,000 บาท และขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของแต่ละคลินิก 
ไหมน้ำ Aesthefill  
  • เป็นไหมน้ำ PDLLA 
  • ช่วยกระตุ้นการสร้าง Collagen Type I สามารถฉีดได้ทุกส่วนของใบหน้า
  • ช่วยเติมเต็มผิวหน้าบริเวณที่มีร่องลึก ผิวหย่อนคล้อย หน้าหลวม
  • ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 19,900 บาท ต่อ 1 ขวด และขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของแต่ละคลินิก 

5. งานผิว เมโสเทอราปี

คลิกเพื่ออ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรมเมโสเทอราปี

เมโสเทอราปี ( Mesotherapy ) คือการ ฉีดเมโส ยาหรือสารอาหารต่างๆ ลงชั้นผิวหนังชั้นกลาง ( Dermis ) โดยใช้เข็มขนาดเล็ก เพื่อบำรุงผิว รักษาปัญหาผิว และชะลอวัย 

ฉีดเมโสเทอราปี เหมาะกับใคร?  

  • เหมาะกับคนที่มีผิวแพ้ง่าย 
  • เหมาะกับคนที่มีผิวแห้งเสีย ต้องการความชุ่มชื้น
  • เหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวมัน มีสิวอุดตัน 
  • เหมาะกับคนที่ผิวดูหมองคล้ำ ผิวขาดการบำรุง
  • เหมาะกับคนที่มีปัญหาเรื่องฝ้า กระ และจุดด่างดำ 

การฉีดเมโสเทอราปี ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น ผิวกระจ่างใสขึ้น กระชับรูขุมขนให้เล็กลง ช่วยลดเลือนริ้วรอยและจุดด่างดำ ใช้เวลาในการทำไม่นาน ไม่ต้องพักฟื้น โดยจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ได้หลังการรักษาประมาณ 1-2 สัปดาห์ และผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นาน 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับแต่ละยี่ห้อและวิธีการดูแลตัวเองหลังจากการทำ 

ประเภทของ เมโสหน้าใส มีอะไรบ้าง? 

1. เมโสหน้าใส 
  • Rejuran, Skin Glow Up, Skin Booster ( Meso Gun ), EXOSOME เป็นต้น 
  • ช่วยฟื้นฟูผิว ช่วยให้ผิวมีความกระจ่างใสขึ้น และหน้าใสฉ่ำวาวให้งานผิว Glass Skin
  • ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ  2,000 บาท ขึ้นอยู่กับแต่ละยี่ห้อและโปรโมชั่นของแต่ละคลินิก 
2. เมโสลดริ้วรอย 
  • Neo-Glutanex Glow  
  • ช่วยลดริ้วรอย จุดด่างดำ และรอยแดงสิว 
  • ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 3,500 บาท ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นแต่ละคลินิก 
3. เมโสลดฝ้า กระ  
  • Filorga, Alpha arbutin, Tensonez,Kill Melasma เป็นต้น 
  • ช่วยลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ และปรับสีผิวให้กระจ่างใสขึ้น
  • ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 3,500 บาท ขึ้นอยู่กับแต่ละยี่ห้อและโปรโมชั่นแต่ละคลีนิก

นอกจากการทำ หัตถการหน้าเด็ก ยังมีวิธีอื่นๆ ในการดูแลผิวให้ดูอ่อนเยาว์ เช่น  

  • การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะกับสภาพผิว
  • การทานอาหารที่มีประโยชน์
  • การดื่มน้ำให้เพียงพอ
  • การออกกำลังกายสม่ำเสมอ
  • การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  • การจัดการความเครียด

ปัญหาผิวเมื่อเรามีอายุมากขึ้น เราต้องพบเจอกับริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย และตรงบริเวณส่วนต่างๆ ดังนั้นวิธีการแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดและรวดเร็ว เห็นผลลัพธ์แบบเร็วที่สุดคือการ ดูแลผิวหน้า อายุ 30 ด้วยการทำ หัตถการหน้าเด็ก กับแพทย์ แต่ในการทำหัตถการทุกครั้ง มีความเสี่ยงและอาจจะเกิดผลข้างเคียงได้ ดังนั้นควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและมีแพทย์ผู้เชี่ยงชาญ  และควรปรึกษาแพทย์ก่อนการทำหัตถการทุกครั้ง เพื่อแพทย์จะได้พิจารณาผิวหน้าของเราได้อย่างตรงจุด และความต้องการของเรา และควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและคงอยู่ได้นาน ติดต่อจองคิวได้ที่เบอร์โทร Call 085-919-2768 ช่องทางติดต่อ LINE หรือค้นหาสาขาสะดวกใกล้คุณที่นี่ สาขา Charmer Clinic

 

 

Review จากผู้รับบริการ  

 

 

คลิกอ่าน บทความเทรนด์ความงาม อื่นๆ เพิ่มเติม ที่นี่!

🔷ฉีดฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนดี 2025 ผ่าน อย. ไทย สวยปลอดภัย คลิกอ่านบทความ! ฉีดฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนดี 2025

🔷เคล็ดลับสูตรผิวใสสุขภาพดี Signature Skin Booster IV Drip คลิกอ่านบทความ! Signature Skin Booster IV Drip

🔷ไหมน้ำ Juvelook ปลุกผิวอ่อนเยาว์สุขภาพดี ดังใจปรารถนา คลิกอ่านบทความ! Juvelook

 

ฝากกดติดตามสาระดีๆ เกี่ยวกับความงาม

กดติดตามเพจ FB https://www.facebook.com/charmerclinic2you/

กดติดตาม Tiktok https://www.tiktok.com/@charmerclinic

กดติตตามช่อง Youtube https://bit.ly/2PZiVeR

กดติดตาม IG https://bit.ly/2PYXTwY

กดติดตาม Twitter https://twitter.com/CharmerClinic

กดอ่านบทความดีๆ อัพเดท https://charmerclinic2you.com/

Click to rate this post!
[Total: 0 Average: 0]
บทความที่เกี่ยวข้อง
Share this

“ความสวยของคุณ คือเป้าหมายของเรา”

จองคิวที่ call center 085-9192768

สาขา เพชรเกษม 69 โทร: 095-058-3666
สาขา อุดมสุข โทร: 095-521-0666
สาขา รังสิต (คลอง3) โทร: 094-696-5322
สาขา รัชดา โทร: 094-559-8748
สาขา อโศก โทร: 093-241-4969
สาขา พรอมานาด โทร: 098 – 154 – 4454
สาขา ราชพฤกษณ์ (สัมมากร เพลส) โทร: 096-016-1666
สาขา ปิ่นเกล้า Major Cineplex Pinkao โทร : 083-978-0666

ท่านสามารถแสดงความคิดเห็นที่ข้อสงสัยได้ที่ด้านล่างนี้

บทความที่น่าสนใจ

No results found

เมนู