ในปัจจุบัน ผิวของเราต้องเผชิญกับมลพิษทางอากาศ ฝุ่นควัน และแสงแดด ส่งผลให้ผิวของเรามีความหมองคล้ำ ทำให้สีผิวมีความไม่สม่ำเสมอ บทความนี้เราจะมาพูดถึงสาเหตุของการเกิดผิวหมองคล้ำ รวมถึงวิธีจัดการกับปัญหาผิวหมองคล้ำ ให้กลับมากระจ่างใสอีกครั้งทั้งวิธีแบบธรรมชาติและแบบทางการแพทย์นั้นมีอะไรบ้าง
สาเหตุของการเกิดผิวหมองคล้ำนั้นมีอะไรบ้าง
แสงแดดและมลพิษทางอากาศ
แสงแดด ฝุ่นควัน ควันรถ และควันจากโรงงาน ล้วนส่งผลเสียต่อผิวโดยตรง โดยเฉพาะแสดงแดดเพราะรังสียูวีจะกระตุ้นให้ผิวเกิดการผลิตเมลานิน ซึ่งส่งผลให้ผิวคล้ำเสีย หมองคล้ำ เกิดฝ้า กระ หากเป็นพวกมลพิษฝุ่นควันต่างๆ จะเกาะอยู่บนผิวหน้า ส่งผลให้ผิวเกิดการอุดตันรูขุมขน ทำให้ผิวหมองคล้ำ เกิดริ้วรอยก่อนวัยอีกด้วย
ความเครียดและการนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ
ความเครียดและการนอนหลับไม่เพียงพอจะส่งผลต่อฮอร์โมนและระบบไหลเวียนโลหิตในร่างกายของเรา การเกิดความเครียดจะทำให้หลั่งฮอร์โมนที่เรียกว่าคอร์ติซอลที่จะส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน ผิวอ่อนแอ เกิดปัญหาผิว การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอจะส่งผลต่อระบบไหลเวียนโลหิต ทำให้ผิวไม่ได้รับการฟื้นฟู ทำให้ผิวโทรมและผิวหมองคล้ำ
การทานอาหารและการดื่มน้ำไม่เพียงพอ
หากร่างกายของเรานั้นรับประทานสารอาหารไม่ครบ 5 หมู่จะส่งผลให้ต่อสุขภาพรวมถึงทำให้ผิวไม่แข็งแรงและทำให้เกิดความหมองคล้ำได้ง่าย และหากร่างกายของเราเกิดการขาดน้ำ ผิวขาดความชุ่มชื้น ส่งผลให้ผิวมีความแห้งกร้าน และเกิดความหมองคล้ำได้
การดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่
การดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ ส่งผลเสียต่อสุขภาพผิวโดยตรง รวมถึงยังทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในร่างกาย ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน ผิวอ่อนแอ เกิดปัญหาผิว ผิวหมองคล้ำ และ การดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ ยังทำลายเซลล์ผิว ทำให้ผิวเสื่อมโทรม แก่ก่อนวัย
การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว
การเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะกับสภาพผิวนั้นเป็นส่วนหนึ่งของการทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง ส่งผลให้ผิวเกิดความหมองคล้ำได้เช่นเดียวกัน
สาเหตุของการเกิดผิวหมองคล้ำนั้นมีอยู่หลายปัจจัย และการรวมถึงการดูแลร่างกายของเรา ดังนั้นเราจึงต้องควรรู้วิธีการป้องกันไม่ให้เกิดความหมองคล้ำหรือวิธีการรักษาให้ร่างกายของเรากลับมากระจ่างใส สีผิวสม่ำเสมอ
วิธีการแก้ปัญหาผิวหมองคล้ำด้วยวิธีธรรมชาติ มีอะไรบ้าง
วิธีแก้ปัญหาผิวหมองคล้ำ ที่ปลอดภัยและได้ผล ด้วยวิธีธรรมชาติสามารถทำได้ด้วยตัวเอง มีดังนี้
1.ทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาด
การทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาด เป็นวิธีพื้นฐานแต่เป็นวิธีที่สำคัญมาก เพราะเราควรล้างหน้าให้สะอาดอยู่เป็นประจำทุกวัน และควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยนต่อผิว และเหมาะกับสภาพผิวของเรา เพราะหากเราทำความสะอาดผิวหน้าไม่สะอาดอาจเกิดการสะสมของสิ่งสกปรก ทำให้ผิวหน้าของเราเกิดการสะสมและส่งผลตามมาคือเกิดสิวหรือการอุดตันของรูขุมขน ทำให้ผิวเกิดความหมองคล้ำได้ในที่สุด
2.การทาครีมกันแดดหรือครีมบำรุงอยู่เป็นประจำ
การเลือกผลิตภัณฑ์ในการบำรุงผิวหรือการทาครีมกันแดดอยู่เป็นประจำนั้นจะส่งผลของเรานั้นมีความแข็งแรง ปกป้องผิวจากแสงยูวีและมลภาวะต่างๆได้ ทำให้ผิวมีความกระจ่างใสขึ้น แต่ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรองมาตรฐาน รวมถึงผ่านการรับรองจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังว่ามีความปลอดภัยต่อผิว โดยเฉพาะครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของ AHA , Vitamin C หรือ Retinoid ที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ช่วยให้ผิวมีความกระจ่างใสขึ้น
3.การดื่มน้ำและการพักผ่อนให้เพียงพอ
การดื่มน้ำและการพักผ่อนเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยบำรุงผิวให้มีความชุ่มชื้น ให้ผิวดูความกระจ่างใส การดื่มน้ำควรดื่มให้ครบ 8 แก้วต่อวัน เพราะน้ำจะช่วยให้ความชุ่มชื้นกับผิวและให้มีความเปล่งปลั่งมากยิ่งขึ้น และควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหรือแอลกอฮอล์ และการนอนหลับพักผ่อนควรนอนให้ครบ 7-8 ชั่วโมงต่อคืน เพราะการนอนหลับจะช่วยฟื้นฟูให้ผิวมีความแข็งแรง
4.มาส์กหน้าหรือการสครับผิว
การมาส์กหน้าหรือการสครับผิวนั้นสามารถทำได้ทุกวัน เพราะมีส่วนช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตได้อีกด้วย ช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใสขึ้นได้อีกด้วย การมาส์กหน้าหรือการสครับผิวสามารถทำได้จากวัตถุดิบธรรมชาติ เช่น ผลไม้ที่มีส่วนของวิตามินซี น้ำผึ้ง แตงกวา มะเขือเทศ รวมถึงโยเกิร์ตก็สามารถใช้มาส์กหน้าได้เหมือนกัน แต่ปัจจุบันได้มีแผ่นมาส์กหน้าซึ่งจะสามารถช่วยประหยัดเวลาได้ และมีหลากหลายยี่ห้อให้เลือก
5.การทานวิตามินหรืออาหารเสริม
การทานวิตามินหรืออาหารเสริมเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยในเรื่องของการบำรุงผิวให้มีความกระจ่างใส ซึ่งการทานวิตามินนอกจากจะช่วยในเรื่องของผิวกระจ่างใส ยังช่วยต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างให้ร่างกายแข็งแรง การทานวิตามินควรเลือกเป็นวิตามินซีเพราะ วิตามินซีมีส่วนช่วยในเรื่องของผิวกระจ่างใส วิตามินซีสามารถหาได้ทั่วไปจากธรรมชาติ เช่นผักและผลไม้ต่างๆ ผลไม้จำพวกตระกูลเบอร์รี่ ส้ม หรือมะละกอ เป็นต้น หากเป็นวิตามินหรืออาหารเสริมแบบแปรรูปมาแล้วควรทานในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ควรทานเกินขนาด เพราะอาจส่งผลเสียต่อร่างกาย ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนทาน
วิธีการแก้ปัญหาผิวหมองคล้ำโดยคลินิก มีอะไรบ้าง
การฉีดเมโสหน้าใส
การฉีดเมโสหน้าใส เป็นเทคนิคการรักษาความงามยอดนิยมอย่างหนึ่ง ซึ่งช่วยแก้ปัญหาผิวหมองคล้ำ ริ้วรอย สิว รูขุมขนกว้าง ผิวแห้ง ผิวไม่เรียบเนียน โดยการฉีดสารอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ และยาบางชนิด เข้าสู่ชั้นผิวหนังโดยตรง โดยการฉีดเมโสหน้าใสจะเข้าไปช่วยฟื้นฟูและซ่อมแซมผิวในระดับลึก แก้ปัญหาผิวเสื่อมสภาพ ทำให้ผิวหน้าเรียบเนียนใส ฉ่ำวาว ยกตัวอย่างการฉีดเมโสช่วยหน้าใส เช่น การฉีดรีจูรัน (Rejuran), การฉีดSkin Booster (Meso Gun) และSkin Glow Up เป็นต้น
การฉีดฟิลเลอร์ช่วยให้หน้าใส
ฟิลเลอร์นอกจากจะฉีดเพื่อเติมเต็มร่องลึก ร่องใต้ตาแล้ว ยังช่วยในเรื่องของหน้าใสผิวฉ่ำวาวได้อีกด้วย แต่จะแตกต่างกันตรงวิธีในการฉีดกับฟิลเลอร์ใต้ตา โดยฟิลเลอร์ที่ฉีดหน้าใสจะมีเทคนิคในการฉีดแบบเป็นจุดเล็กๆ ทั่วใบหน้า เพื่อให้เนื้อฟิลเลอร์กระจายตัวทั่วหน้าหรือบริเวณที่คนไข้มีปัญหา เพื่อให้ผิวหน้าของเรามีความฉ่ำวาว โกลล์ เหมาะกับงานผิวแบบ Glass Skin ก่อนการทำจะต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทุกครั้ง ยกตัวอย่างยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ช่วยให้หน้าใส เช่น ฟิลเลอร์ Restylane รุ่น Vital Light & Lyft, ฟิลเลอร์ Belotero revive, ฟิลเลอร์ Juvederm Volite เป็นต้น
เลเซอร์ช่วยหน้าใส
เลเซอร์สามารถช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใสได้หลายวิธี เลเซอร์สามารถกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งสามารถช่วยปรับปรุงความยืดหยุ่นและความกระชับของผิว นอกจากนี้ เลเซอร์ยังสามารถช่วยลดรอยจุดด่างดำ รอยแผลเป็น และรอยเหี่ยวย่น ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและสม่ำเสมอขึ้น เลเซอร์มีหลายประเภทที่สามารถใช้เพื่อปรับปรุงผิวหน้าได้ ประเภทของเลเซอร์ที่ใช้จะขึ้นอยู่กับปัญหาผิวที่เฉพาะเจาะจงที่ได้รับการรักษา ตัวอย่างบางส่วนของเลเซอร์ที่ใช้ทั่วไปสำหรับการปรับปรุงผิวหน้า ได้แก่ เลเซอร์ Nd YAG, เลเซอร์ IPL และPico Laser เป็นต้น
การฉีดวิตามินผิว
การฉีดวิตามิน เป็นการช่วยแก้เรื่องผิวหมองคล้ำได้อย่างรวดเร็วอีกหนึ่งวิธี เพราะการฉีดวิตามินผิวเป็นเป็นการฉีดเอาสารที่สกัดแล้วฉีดเข้าสู่ชั้นเซลล์ใต้ผิวหนังเพื่อช่วยบำรุงให้ผิวมีความกระจ่างใสขึ้นได้อย่างรวดเร็ว และฟื้นฟูผิวซ้อมแซมผิวที่มีความหมองคล้ำจากการเจอแดดเป็นเวลานาน วิตามินมีมากมายหลากหลายสูตร และแต่ละสูตรจะช่วยในเรื่องที่ต่างกันออกไป เช่น สูตร Neon Vitamin, สูตร Aura Wink , สูตร Snow White เป็นต้น การฉีดวิตามินผิว เป็นวิธีแก้ปัญหาผิวหมองคล้ำ ริ้วรอย สิว รูขุมขนกว้าง ผิวแห้ง ผิวไม่เรียบเนียน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ควรเลือกสถานพยาบาลและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีความน่าเชื่อถือ
อย่างไรก็ตาม การแก้ผิวหมองคล้ำนั้นมีให้เลือกหลากหลายทั้งแบบธรรมชาติและแบบเร่งด่วน หากเลือกแบบธรรมชาติ ปลอดภัยแต่อาจจะเห็นผลลัพธ์ได้ช้ากว่าแบบเร่งด่วน หากเลือกเป็นการฉีดเมโสหรือการฉีดวิตามินผิว เป็นเพียงวิธีแก้ปัญหาผิวจากภายนอก ควบคู่กับการดูแลผิวจากภายในอย่างสม่ำเสมอ เช่น ทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำเยอะๆ จะช่วยให้ผิวของคุณสุขภาพดี เปล่งปลั่ง จากภายในสู่ภายนอก
Review จากผู้ใช้บริการจริง
คลิกอ่านเกี่ยวข้องเพิ่มเติมได้ที่
-
โปรแกรม Skin Booster ลดรอยสิว ช่วยผิวใส https://bit.ly/4aszeYU
-
โปรแกรม ฉีดวิตามินผิว อวดผิวกระจ่างใส https://bit.ly/4djYJNY
-
โปรแกรม Skin Glow Up ฉีดหน้าใส ผิวฉ่ำวาว https://bit.ly/3KLNEIM
-
Filler (ฟิลเลอร์) เติมเต็มร่องแก้ม หรือ คาง ใต้ตา https://bit.ly/3xlRmoT
-
ฟิลเลอร์ (Filler) ใต้ตา บอกลาใต้ตาคล้ำ ร่องลึก แก้ปัญหาใต้ตาได้ตรงจุด https://bit.ly/3TD0wF0
-
10 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา https://citly.me/W1Zyq
ฝากกดติดตามสาระดีๆเกี่ยวกับความงาม
กดติดตามเพจ FB https://www.facebook.com/charmerclinic2you/
กดติดตาม Tiktok https://www.tiktok.com/@charmerclinic
กดติตตามช่อง Youtube https://bit.ly/2PZiVeR
กดติดตาม IG https://bit.ly/2PYXTwY
กดติดตาม Twitter https://twitter.com/CharmerClinic
กดอ่านบทความดีๆอัพเดท https://charmerclinic2you.com/
Click to rate this post!
[Total: 0 Average: 0]