อายุที่เพิ่มขึ้น ผิวหน้าของเราจะเริ่มสูญเสียความยืดหยุ่น ริ้วรอยและร่องลึก รูปหน้าอาจดูไม่สมมาตร ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจทำให้เสียความมั่นใจ แต่ปัญหาเหล่านี้จะสามารถแก้ไขได้ด้วย “ฟิลเลอร์” ที่เป็นสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารที่ร่างกายของเราสร้างขึ้นตามธรรมชาติ โดยในบทความนี้จะบอกถึงความแตกต่างของฟิลเลอร์ระหว่าง ฟิลเลอร์เกาหลี VS ฟิลเลอร์อเมริการว่ามีข้อดี-ข้อเสียต่างกันอย่างไร
ฟิลเลอร์ คืออะไร ?
สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารที่ร่างกายของเราสร้างขึ้นตามธรรมชาติ แต่เมื่ออายุมากขึ้น ปริมาณไฮยาลูรอนิก แอซิดในร่างกายจะลดลง ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น เต่งตึง และเกิดริ้วรอย การฉีดฟิลเลอร์เปรียบเสมือนการเติมเต็มร่องลึกและความหย่อนคล้อยบนใบหน้า ช่วยให้ผิวกลับมาอิ่มเอิบ เต่งตึง เรียบเนียน และดูอ่อนเยาว์ลงอีกครั้ง
ฟิลเลอร์มีกี่ประเภท ? อะไรบ้าง ?
ฟิลเลอร์ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท
-
ฟิลเลอร์แบบชั่วคราว: เป็นฟิลเลอร์ที่สลายตัวตามธรรมชาติในร่างกายภายใน 6-12 เดือน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลองฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรก หรือต้องการปรับเปลี่ยนรูปหน้าแบบชั่วคราว อาทิเช่น Restylane, Juvederm,YVORIE ,HYAFILIA
-
ฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร: เป็นฟิลเลอร์ที่ไม่สลาย 100% ซึ่งฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวรจะอยู่ในร่างกายได้นาน 2 – 4 ปี และมีความปลอดภัยน้อยกว่าแบบชั่วคราว อาทิเช่น Aesthefill,Radiesse, Sculptra, Bellafill
-
ฟิลเลอร์แบบถาวร: เป็นฟิลเลอร์ที่ไม่สลายตัวเองตามธรรมชาติ โดยเป็นฟิลเลอร์ที่ไม่ผ่านอย.และยังมีสารประกอบเช่น ซิลิโคนเหลว พาราฟิน และสารPMMA (Polymethyl-methacrylate microspheres) ซึ่งไม่นิยมใช้ในปัจจุบัน เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อผลข้างเคียง เช่น การอักเสบ การติดเชื้อ การอพยพของซิลิโคน
ฟิลเลอร์เกาหลี VS ฟิลเลอร์อเมริกา ต่างกันอย่างไร
ฟิลเลอร์ เป็นสารเติมเต็มที่ใช้ฉีดเพื่อเติมเต็มริ้วรอย ปรับรูปหน้า และเพิ่มความอิ่มฟูให้กับผิว ฟิลเลอร์มีหลากหลายแบรนด์ ทั้งจากเกาหลีและอเมริกา แต่ละแบรนด์มีจุดเด่นและจุดด้อยแตกต่างกันไป การเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสม ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้ ปัญหาผิว และความเชี่ยวชาญของแพทย์ในการฉีด เราจะมาเปรียบเทียบถึงฟิลเลอร์แบรนด์เกาหลีกับฟิลเลอร์แบรนด์อเมริกาอย่างละเอียดว่ามีความต่างกันอย่างไรบ้าง
ฟิลเลอร์เกาหลี
-
เนื้อสัมผัสจะค่อนข้างแน่น แข็งถึง ปานกลาง เหนียวหนืด กว่าฟิลเลอร์อเมริกา
-
เหมาะกับการเติมเต็มร่องลึกลึก ปั้นรูปหน้า และเสริมโหนกแก้ม คาง ปากได้ดี
-
ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน
-
เหมาะกับผู้ที่ต้องการลองฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรก หรือต้องการเติมเต็มริ้วรอยแบบชั่วคราว
-
ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา (KFDA) ของประเทศเกาหลี
-
มีความปลอดภัยสูง ผลข้างเคียงน้อย แต่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอาการแพ้ได้มากกว่าฟิลเลอร์แบรนด์อเมริกา
-
ราคาถูกกว่าฟิลเลอร์อเมริกา เหมาะกับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด
-
ฟิลเลอร์แบรนด์เกาหลีจะเหมาะกับการปรับรูปหน้าแค่บางยี่ห้อ
ฟิลเลอร์อเมริกา หรือทางยุโรป
-
เนื้อฟิลเลอร์จะค่อนข้างเหลว เกลี่ยง่าย อนุภาคเล็ก เนื้อนิ่ม
-
เหมาะกับการเติมเต็มริ้วรอยตื้น ร่องลึกปานกลาง และเพิ่มความอิ่มเอิบให้กับผิว
-
ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 12-24 เดือน
-
เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์แบบยาวนาน หรือต้องการเติมริ้วรอยให้อยู่ได้ระยะยาว
-
ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐอเมริกา
-
มีความปลอดภัยสูง ผลข้างเคียงจะน้อยกว่าฟิลเลอร์แบรนด์เกาหลี
-
ราคาค่อนข้างแพงหากเทียบกับฟิลเลอร์ทางแบรนด์เกาหลี
-
ฟิลเลอร์อเมริกาจะเหมาะกับการปรับรูปหน้ามากกว่าแบรนด์เกาหลี
ฟิลเลอร์เกาหลี VS ฟิลเลอร์อเมริกา มีข้อดี-ข้อเสีย อย่างไร
ฟิลเลอร์เกาหลี และ ฟิลเลอร์อเมริกา เป็น 2 แหล่งผลิตฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยม แต่ละประเภทมีข้อดี ข้อเสีย และเหมาะกับบุคคลที่แตกต่างกัน ดังนี้
ฟิลเลอร์เกาหลี
ข้อดี
-
ราคาถูกกว่าฟิลเลอร์อเมริกา
-
หาซื้อง่าย มีหลายแบรนด์ให้เลือก
-
เหมาะกับการเติมเต็มร่องลึก ปั้นทรง
ข้อเสีย
-
เนื้อสัมผัสอาจแข็งกว่าฟิลเลอร์อเมริกา
-
อยู่ได้สั้นกว่าฟิลเลอร์อเมริกา (ประมาณ 6-12 เดือน)
-
อาจมีโอกาสเกิดยุบๆบวมๆหลังฉีด
ฟิลเลอร์อเมริกา
ข้อดี
-
เนื้อสัมผัสเนียนนุ่ม ธรรมชาติ
-
เนื้อนิ่มเกลี่ยง่าย เน้นเก็บรายละเอียดได้ดีกว่า
-
อยู่ได้นานกว่าฟิลเลอร์เกาหลี (ประมาณ 12-24 เดือน)
-
มีโอกาสเกิดอาการแพ้น้อย
ข้อเสีย
-
ราคาแพงกว่าฟิลเลอร์เกาหลี
-
มีแบรนด์ให้เลือกน้อยกว่า
ฟิลเลอร์แบรนด์เกาหลี มีอะไรบ้าง
1.YVOIRE Filler
เป็นฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic Acid (HA) ที่ผลิตโดยบริษัท LG Chem ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการผลิต HA มานานกว่า 25 ปี Yvoire Filler นั้นได้รับการรับรองจาก KFDA (Korea Food and Drug Administration) และ CE Mark ซึ่งเป็นเครื่องหมายรับรองคุณภาพและความปลอดภัยจากสหภาพยุโรป
YVOIRE Filler มีด้วยกันทั้งหมด 3 รุ่น
-
Yvoire Classic Plus: เหมาะสำหรับการเติมเต็มร่องลึกและริ้วรอยตื้นๆ เช่น ร่องใต้ตา รอยคล้ำใต้ตา ริ้วรอยที่หน้าผาก
-
Yvoire Volume Plus: เหมาะสำหรับการเติมเต็มร่องลึกและริ้วรอยปานกลางถึงลึก เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก และริมฝีปาก
-
Yvoire Contour: เหมาะสำหรับการปรับรูปหน้า เช่น เติมเต็มโหนกแก้ม เสริมคาง และลดความหย่อนคล้อยของใบหน้า
2.Neuramis Filler
เป็นฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic Acid (HA) ที่ผลิตโดยบริษัท Medytox ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการผลิต HA มานานกว่า 20 ปี Neuramis Filler นั้นได้รับการรับรองจาก KFDA (Korea Food and Drug Administration) และ CE Mark ซึ่งเป็นเครื่องหมายรับรองคุณภาพและความปลอดภัยจากสหภาพยุโรป
Neuramis Filler มีด้วยกันทั้งหมด 3 รุ่น
-
Neuramis Deep: เหมาะสำหรับการเติมเต็มร่องลึกและริ้วรอยปานกลางถึงลึก เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก และริมฝีปาก
-
Neuramis Deep Lidocaine: เหมาะสำหรับการเติมเต็มร่องลึกและริ้วรอยตื้นๆ เช่น ร่องใต้ตา รอยคล้ำใต้ตา ริ้วรอยที่หน้าผาก
-
Neuramis Volume Lidocaine: เหมาะสำหรับการเติมเต็มร่องลึกและริ้วรอยปานกลางถึงลึก มีส่วนผสมของยาชา 0.3% ช่วยลดความเจ็บปวดขณะฉีด
3. E.P.T.Q Filler
เป็นฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic Acid (HA) ผลิตโดยบริษัท Union Medical ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการผลิต HA มานานกว่า 10 ปี E.P.T.Q Filler นั้นได้รับการรับรองจาก KFDA (Korea Food and Drug Administration) และ ISO 13485 ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลสำหรับระบบการจัดการคุณภาพของอุปกรณ์การแพทย์
E.P.T.Q Filler มีด้วยกันทั้งหมด 3 รุ่น
-
E.P.T.Q S100: เหมาะสำหรับการเติมเต็มริ้วรอยเล็กๆ และปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน เต่งตึง อิ่มฟู
-
E.P.T.Q S300: เหมาะสำหรับการเติมเต็มร่องลึกและริ้วรอยตื้นๆ เช่น ร่องใต้ตา รอยคล้ำใต้ตา ริ้วรอยที่หน้าผาก
-
E.P.T.Q S500: เหมาะสำหรับการเติมเต็มร่องลึกและริ้วรอยปานกลางถึงลึก เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก และฉีดคางเพื่อปรับรูปหน้าได้
4. Flore Filler
เป็นฟิลเลอร์ประเภท Hyaluronic Acid (HA) ผลิตโดยบริษัท I-Med Pharmaceuticals Co., Ltd. ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการผลิต HA มานานกว่า 10 ปี Flore Filler นั้นได้รับการรับรองจาก KFDA (Korea Food and Drug Administration) และ ISO 13485 ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลสำหรับระบบการจัดการคุณภาพของอุปกรณ์การแพทย์
Flore Filler มีด้วยกันทั้งหมด 5 รุ่น
-
ฟิลเลอร์ Flore Aqua-S: เป็นฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก มีประสิทธิภาพในการเพิ่มความชุ่มชื้น เหมาะสำหรับการทำให้ผิวฉ่ำวาว หรือสามารถเติมใต้ตาตื้นๆได้ดี ดูธรรมชาติ
-
ฟิลเลอร์ Flore S :เหมาะสำหรับการฉีดเพื่อแก้ปัญหาใต้ตาหรือริ้วรอยต่างๆ จะช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้น และช่วยลดรอยคล้ำได้ดี
-
ฟิลเลอร์ Flore N :เหมาะสำหรับฉีดแก้ไขปัญหาร่องแก้มชั้นตื้นและบริเวณหน้าแก้ม เพราะฟิลเลอร์มีประสิทธิภาพในการเติมเต็มที่ดี กระจายตัวได้อย่างสม่ำเสมอ
-
ฟิลเลอร์ Flore Max: สามารถนำมาฉีดได้หลายตำแหน่ง เช่น ฉีดขมับ ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก มีประสิทธิภาพในการเติมเต็มและขึ้นรูปได้ดี มีความเป็นธรรมชาติ
-
ฟิลเลอร์ Flore Max 1400: เหมาะกับใช้ฉีดแก้โครงสร้างกระดูก ปรับรูปทรงคาง ปรับขากรรไกรให้คมชัด และยังมีประสิทธิภาพในการเติมเต็มร่องลึกด้วย
5. Hyafilia Filler
เป็นฟิลเลอร์ Hyaluronic Acid (HA) จากประเทศเกาหลี ที่ได้รับความนิยมในหลายประเทศ ขึ้นชื่อเรื่องเทคโนโลยี V-phasic ซึ่งเป็นการผสมผสานจุดเด่นของฟิลเลอร์แบบโมโนฟาสิก (Monophasic) และแบบไบฟาสิก (Biphasic) เข้าด้วยกัน
Hyafilia Filler มีด้วยกันทั้งหมด 3 รุ่น
-
ฟิลเลอร์ HYAFILIA – S : เป็นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อเจลนิ่ม เหมาะกับการฉีดริ้วรอยชั้นตื้น สามารถฉีดตาและปากได้ และยังสามารถฉีดคอและหลังมือได้อีกด้วย
-
ฟิลเลอร์ HYAFILIA – M : เป็นฟิลเลอร์เนื้อเจลที่ช่วยเรื่องความเรียบเนียน มีส่วนผสมของไฮยารูลอนิกแบบ Cross-Linked ฉีดบริเวณร่องปาก ร่องแก้ม
-
ฟิลเลอร์ HYAFILIA – V : เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่มและให้ความเป็นธรรมชาติ ช่วยฟื้นฟูและแก้ไขร่องลึก เหมาะกับการฉีดบริเวณโหนกแก้ม รอยย่นหรือคนที่อยากมีกรอบหน้าที่ชัดขึ้น
ฟิลเลอร์แบรนด์อเมริกาและทางยุโรป มีอะไรบ้าง
1. Juvederm Filler
เป็นฟิลเลอร์ผิวหนังชนิดหนึ่งที่ใช้เพื่อเติมเต็มร่องลึกและริ้วรอยบนใบหน้า ผลิตโดย บริษัท Allergan ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านเวชภัณฑ์และผลิตภัณฑ์ความงาม มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 80 ปี Juvederm Filler ได้รับการรับรองจาก องค์การอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐอเมริกา และได้รับความนิยมใช้ในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย
Juvederm Filler มีด้วยกันทั้งหมด 7 รุ่น
-
Juvederm Voluma : เป็นรุ่นที่มีลักษณะเป็นเนื้อแข็งและฟูปานกลาง มีโมเลกุนขนาดใหญ่ทำให้มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะกับการเติมร่องลึก เช่น ขมับ แก้มส้ม ร่องแก้ม แก้มตอบ ปาก
-
Juvederm Volux : เป็นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อแข็ง มีความคงตัวสูง ทำให้ปั้นทรงได้สวย ขึ้นรูปได้ดี ปละอยู่ได้นานที่สุด เหมาะกับฉีด คาง ใต้ตา ขมับ รวมถึงร่องแก้มชั้นลึก
-
Juvederm Volift : เป็นรุ่นที่มีลักษณะเป็นเนื้อนิ่ม มีความละเอียดมาก เหมาะกับคนผิวบาง ใช้ฉีดในบริเวณที่มีปัญหาไม่ลึกมาก เช่น ปาก แก้มตอบ มุมปาก ระหว่างคิ้ว รวมถึงสามารถเก็บรายละเอียดร่องแก้มชั้นตื้นได้
-
Juvederm Volbella : เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีความละเอียดมากที่สุดเพราะมีโมเลกุลขนาดเล็ก เหมาะกับการฉีดบริเวณที่ต้องการความเรียบเนียน เช่น ฉีดริ้วรอยชั้นตื้นใต้ตา ปาก
-
Juvederm Volite : เป็นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อละเอียด ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น มีความเป็นธรรมชาติ เหมาะกับคนผิวค่อนข้างบาง ฉีดแล้วไม่เป็นก้อน เหมาะกับงานผิว ลดริ้วรอย
-
Juvederm Ultra xc : เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม เหมาะเติมร่องลึก เช่น ขมับ แก้มตอบ จมูก คาง
-
Juvederm Ultra Plus xc : เป็นรุ่นที่มีลักษณะเป็นเนื้อนิ่ม ฉีดแล้วจะให้ความฟูมาก เหมาะกับคนที่มีปัญหาร่องลึกจากการเปลี่ยนแปลงตามวัย หลังฉีดจะให้ความเต็มขึ้น ดูสวยขึ้น สามารถฉีดได้ตรงบริ้วณ ขมับ ร่องแก้ม ปาก และร่องน้ำหมาก
2. Restylane Filler
เป็นฟิลเลอร์ชนิดฉีดที่ผลิตโดยบริษัท Galdermaบริษัทเวชภัณฑ์ข้ามชาติสัญชาติสวิส ก่อตั้งขึ้นในปี 1968 ปัจจุบันมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมือง Lausanne ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ Restylane Filler เป็นหนึ่งในฟิลเลอร์ HA (Hyaluronic Acid) ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ผลิตจากเทคโนโลยี NASHA (Non-Animal Stabilized Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเอกสิทธิ์เฉพาะของ Galderma
Restylane Filler ที่ผ่านอย.ไทย มีด้วยกันทั้งหมด 8 รุ่น
-
Restylane Defyne : เหมาะกับแก้ปัญหาริ้วรอยลึกที่เกิดจากการยิ้ม เหมาะสำหรับคนที่มีผิวบางเพราะเนื้อฟิลเลอร์มีความนิ่มปานกลาง ใช้ฉีดเติมเต็มร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ปาก โหนกแก้ม
-
Restylane Vital Light : เหมาะสำหรับเติมใต้ตา ช่วยแก้ปัญหารอยคล้ำใต้ตาได้ดี หรือใช้เป็น Skin Booster เติมน้ำให้ผิวดูฉ่ำโกลว และยังช่วยเติมเต็มหลุมสิวให้ดูตื้นขึ้นได้ด้วย
-
Restylane Lyft : เหมาะสำหรับใช้ฉีดใต้ตา จมูก คาง หรือใช้ฉีดเพื่อเพิ่ม Volume ให้กับใบหน้า เช่น บริเวณแก้มส้ม ขมับ เพราะฟิลเลอร์มีความคงตัวสูง ไม่ฟู และคงรูปได้ดีที่สุด
-
Restylane Volyme : เหมาะสำหรับใช้เติมชั้นผิวบริเวณใบหน้าให้อิ่มฟูขึ้น ช่วยให้ดูสดใสและอ่อนเยาว์ เนื้อฟิลเลอร์มีความนิ่มถึงปานกลาง ใช้ฉีดบริเวณใต้ตา ขมับ ร่องแก้ม นิยมใช้กับผู้ที่มีอายุเพื่อให้ผิวดูอ่อนเยาว์
-
Restylane Vital : เหมาะสำหรับใช้แก้ปัญหาริ้วรอยและร่องลึกตื้นๆ ใช้เติมเต็มหน้าผาก หรือคนที่ต้องการให้ผิวดูฉ่ำวาวสุขภาพดี เพราะฟิลเลอร์ตัวนี้มีคุณสมบัติช่วยปรับความชุ่มชื้นให้ผิวอีกด้วย
-
Restylane Classic : เหมาะสำหรับแก้ปัญหาริ้วรอยระดับปานกลางถึงมาก ใช้ฉีดบริเวณร่องตื้นๆ เช่น ร่องแก้มตื้นๆ ร่องรอยขมวดคิ้ว หรือใช้เก็บรายละเอียดใต้ตาในผิวชั้นลึก เป็นฟิลเลอร์ที่ไม่มีส่วนผสมของยาชา
-
Restylane Refyne : เหมาะสำหรับเติมเต็มริ้วรอยเล็กๆ ไปจนถึงริ้วรอยลึกที่เกิดจากการยิ้ม เหมาะสำหรับฉีดบริเวณร่องแก้ม ร่องมุมปาก หรือบริเวณที่มีการขยับอยู่เสมอ
-
Restylane Kysse : เหมาะสำหรับเติมเต็มและแก้ไขปัญหาริมฝีปากโดยเฉพาะ ฟิลเลอร์มีเนื้อละเอียด มีความคงตัวและยืดหยุ่น ฉีดแล้วคงรูปได้ดี จึงช่วยสร้างขอบริมฝีปากให้ชัดเจนขึ้น ปากจะดูอวบอิ่มได้รูป และยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น
ฟิลเลอร์แบรนด์เกาหลี และ ฟิลเลอร์แบรนด์อเมริกา นั้นอาจจะไม่ต่างกันมากนัก อยู่ที่งบประมาณในการซื้อของเรา รวมถึงปัญหาในเรื่องของผิวหน้าเราว่าเหมาะกับแบรนด์ไหน หากเป็นผู้ที่มีงบจำกัด ต้องการฉีดฟิลเลอร์บ่อยๆ หรือต้องการลองฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรกอาจจะเหมาะกับฟิลเลอร์แบรนด์เกาหลีมากกว่า แต่ถ้าหากเป็นผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ต้องการระยะเวลาอยู่ยาวนาน และไม่กังวลเรื่องราคาก็จะเหมาะกับฟิลเลอร์แบรนด์อมเริกา อย่างไรก็ตาม การเลือกฟิลเลอร์ที่ดีที่สุด ขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณของแต่ละบุคคล ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจฉีด
Review โปรแกรมฟิลเลอร์
คลิกอ่านเกี่ยวข้องเพิ่มเติมได้ที่
-
โปรแกรม ฟิลเลอร์ HYAFILIA (ไฮยาฟิเลีย) ฟิลเลอร์ตัวดังราคาเบา เกรดพรีเมี่ยม https://bit.ly/4bYMwgq
-
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เลือกยี่ห้อไหนดี ? https://bit.ly/3i39sjD
-
Filler (ฟิลเลอร์) เติมเต็มร่องแก้ม หรือ คาง ใต้ตา https://bit.ly/3xlRmoT
-
เช็คก่อนฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี https://bit.ly/3c1T4v8
-
ฟิลเลอร์ (Filler) ใต้ตา บอกลาใต้ตาคล้ำ ร่องลึก แก้ปัญหาใต้ตาได้ตรงจุด https://bit.ly/3TD0wF0
-
10 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา https://citly.me/W1Zyq