ไม่มีความเห็น

ใต้ตาโหล เบ้าตาลึก ใต้ตาคล้ำ เกิดจากอะไร และมีวิธีรักษาอย่างไรบ้าง?

ทุกครั้งที่ส่องกระจกแล้วพบว่าดวงตาของเราดูเหนื่อยล้า ใต้ตาดูโหล เบ้าตาลึก หรือคล้ำ แม้เราจะนอนครบ 8 ชั่วโมงแล้วก็ตาม หลายคนพยายามแก้ไขด้วยการทาครีม ใช้มาสก์ใต้ตา แต่ปัญหาก็ยังคงอยู่

ความจริงแล้ว ปัญหาใต้ตาไม่ได้เกิดจากการพักผ่อนไม่เพียงพอเพียงอย่างเดียว แต่มีสาเหตุอื่นๆและเกี่ยวข้องกับหลายๆปัจจัย บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาใต้ตา พร้อมวิธีการรักษาด้วยตนเองหรือการรักษาทางการแพทย์ 

ใต้ตาโหล เบ้าตาลึก ใต้ตาคล้ำ แตกต่างกันอย่างไร? 

1.ใต้ตาโหล

ลักษณะ:  เกิดร่องลึกใต้ตาคล้ายถ้วย มักมีเงาสีคล้ำร่วมด้วย ทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้าและโทรม
สาเหตุ : การสูญเสียไขมันใต้ตา พันธุกรรม  หรือการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างใบหน้าตามอายุที่เพิ่มขึ้น 

2.เบ้าตาลึก 

ลักษณะ : ดวงตาดูจมลึกเข้าไปในเบ้าตา เกิดเงาใต้ตาชัดเจน ส่งผลให้ใบหน้าดูมีอายุมากขึ้นและอิดโรย
สาเหตุ : การสูญเสียคอลลาเจนและไขมันรอบดวงตา การเปลี่ยนแปลงของกระดูกเบ้าตาตามอายุ รวมถึงปัจจัยทางพันธุกรรม 

3.ใต้ตาคล้ำ 

ลักษณะ :  ผิวใต้ตามีสีคล้ำ อาจเป็นสีน้ำตาล น้ำเงิน หรือม่วง ขึ้นอยู่กับสาเหตุของปัญหา ทำให้ใบหน้าดูหมองคล้ำและไม่สดใส
สาเหตุ : การขยายตัวของเส้นเลือดใต้ตา การสะสมของเม็ดสีเมลานิน พันธุกรรม การพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือปัญหาสุขภาพอื่น ๆ เช่น ภูมิแพ้ 

สาเหตุของใต้ตาโหล เบ้าตาลึก และใต้ตาคล้ำ มีอะไรบ้าง? 

สาเหตุของใต้ตาโหล เบ้าตาลึก และใต้ตาคล้ำ อาจเกิดได้จากหลายปัจจัย ดังนี้ 

1.พันธุกรรม 

พันธุกรรมเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ส่งผลให้เกิดปัญหาใต้ตาคล้ำและเบ้าตาลึก รวมถึงการกระจายตัวของไขมันใต้ตาที่ไม่สม่ำเสมอ หากสมาชิกในครอบครัวมีปัญหานี้ โอกาสที่คุณจะเผชิญกับปัญหานี้ก็สูงขึ้นตามไปด้วย 

2.อายุเพิ่มมากขึ้น 

เมื่ออายุมากขึ้น ผิวหนังรอบดวงตาจะบางลงและสูญเสียความยืดหยุ่น ทำให้เห็นเส้นเลือดใต้ตาชัดเจนขึ้น นอกจากนี้ การสูญเสียไขมันใต้ตายังทำให้เบ้าตาลึกลง ซึ่งเป็นสาเหตุให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้า 

3.การพักผ่อนไม่เพียงพอและการใช้สายตามากเกินไป 

การนอนหลับไม่เพียงพอทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอลมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้เส้นเลือดขยายตัวและเห็นเป็นรอยคล้ำใต้ตา และการจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ หรือทีวีเป็นเวลานาน ทำให้กล้ามเนื้อตาล้าและเส้นเลือดรอบดวงตาขยายตัว ส่งผลให้ใต้ตาคล้ำและเบ้าตาลึกขึ้น 

4.การทานอาหารและเครื่องดื่ม 

การบริโภคเกลือและคาเฟอีนในปริมาณมาก อาจทำให้ร่างกายเก็บน้ำมากขึ้น ส่งผลให้ใต้ตาบวมและคล้ำ นอกจากนี้ การขาดสารอาหารที่จำเป็นก็ส่งผลต่อสุขภาพผิวรอบดวงตาได้เช่นกัน 

5.โรคภูมิแพ้และอาการระคายเคือง 

ภูมิแพ้ทำให้ร่างกายปล่อยฮีสตามีน ซึ่งทำให้เส้นเลือดขยายตัวและเกิดอาการคัน บวมใต้ตา หากมีการขยี้ตาบ่อย ๆ อาจทำให้ผิวรอบดวงตาอักเสบและคล้ำลงได้ 

วิธีการรักษาใต้ตาโหล เบ้าตาลึก และใต้ตาคล้ำ 

การรักษาใต้ตาโหล เบ้าตาลึก และใต้ตาคล้ำ สามารถทำได้หลายวิธีขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคล 

การรักษาด้วยวิธีธรรมชาติ  

เป็นวิธีที่ปลอดภัย ประหยัด และสามารถทำได้ด้วยตัวเองที่บ้าน แม้จะเห็นผลช้ากว่าการรักษาทางการแพทย์ แต่หากทำอย่างต่อเนื่อง ก็สามารถช่วยบำรุงสภาพผิวรอบดวงตาได้อย่างเห็นผล 

1.การนวดและบำรุงรอบดวงตา 

การนวดรอบดวงตาเป็นวิธีง่ายๆ ที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและนำสารอาหารไปเลี้ยงผิวบริเวณใต้ตา โดยควรใช้น้ำมันธรรมชาติอย่างน้ำมันอาร์แกนหรือน้ำมันอัลมอนด์ นวดเบาๆ ด้วยนิ้วนางวันละ 2-3 นาที เช้าและก่อนนอน อีกวิธีที่ได้ผลดีคือการประคบตาด้วยถุงชาเขียวหรือชาดำที่แช่เย็น วางทิ้งไว้ 10-15 นาที สารต้านอนุมูลอิสระในชาจะช่วยลดการอักเสบและกระชับผิวได้อย่างดี ควรทำ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์  

2.การนอนหลับและดื่มน้ำให้เพียงพอ 

การนอนหลับต้องหลับต้องหลับให้ครบ 7-8 ชั่วโมงต่อคืน จะช่วยให้ผิวใต้ตาฟื้นฟูได้อย่างเร็วขึ้น ช่วยลดความหมองคล้ำและอาการตาโหลได้ และควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้วเพื่อป้องกันการขาดน้ำทำให้ผิวแห้ง ซึ่งอาจทำให้มีเบ้าตาลึกหรือมีอาการตาโหลได้  

3.การรับประทานอาหารและหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ 

การรับประทานอาหารควรทานสารอาหารให้ครบถ้วน เช่น การรับประทานวิตามิน A,C,E คอลลาเจน และ กรดไขมันโอเมก้า 3 จะช่วยฟื้นบำรุงผิวพรรณใต้ตา ลดการสูญเสียไขมันใต้ผิว และหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์รวมถึงการสูบบุหรี่ 

การรักษาด้วยวิธีทางการแพทย์ 

สำหรับคนที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วขึ้น การรักษาทางการแพทย์เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ แม้จะมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า แต่ก็ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและอยู่ได้นาน 

1.โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา 

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด  เนื่องจากให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจน โดยแพทย์จะนิยมฉีดสารไฮยาลูโรนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) ที่มีความบริสุทธิ์สูง ฉีดเติมเต็มบริเวณร่องใต้ตาที่ลึก ช่วยลดริ้วรอย และกักเก็บความชุ่มชื้น ทำให้ผิวดูเรียบเนียน ผิวเต่งตึง 

คลิกเพื่ออ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ฟิลเลอร์ใต้ตา (Filler)

2.โปรแกรมเลเซอร์ใต้ตา 

การเลเซอร์ใต้ตาเป็นการใช้แสงจากเลเซอร์ยิงเข้าบริเวณชั้นผิวหนังใต้ดวงตา เพื่อกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน และอิลาสติน สามารถช่วยฟื้นฟูผิวใต้ตาโหลที่หย่อนคล้อยให้ดูกระชับขึ้น ทำลายเม็ดสี ลดใต้ตาคล้ำ ผลลัพธ์หลังเลเซอร์จะทำให้ใต้ตากลับมาสว่างขึ้น ใต้ตาดูสดใส ไม่โทรม 

3.โปรแกรมผ่าตัดรักษาใต้ตา   

การผ่าตัดโดยผ่าตัดบริเวณใต้ตาและจัดเรียงถุงไขมันที่อยู่ใต้ตาใหม่ ทำให้ผิวหนังใต้ตาดูตึงและเรียบเนียนมากขึ้น สามารถแก้ไขได้สำหรับเคสที่มีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง และเมื่อทำร่วมกับย้ายไขมันก็จะช่วยแก้ไขปํญหาภาวะเบ้าตาลึกได้ดีขึ้น

4.โปรแกรมใช้เครื่องยกกระชับ

การใช้เทคโนโลยีในกลุ่มเครื่องยกกระชับจะช่วยให้แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ลดริ้วรอยใต้ดวงตา และกระตุ้นคอลลาเจน  โดยจะช่วยให้ผิวเต่งตึงและเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น หากทำควบคู่กับฟิลเลอร์ใต้ตาจะทำให้ผลลัพธ์ได้ดียิ่งขึ้น 

ใต้ตาโหล เบ้าตาลึก ใต้ตาคล้ำ เป็นอันตรายไหม? 

อาการใต้ตาโหล เบ้าตาลึก และใต้ตาคล้ำ ไม่ได้เป็นอันตรายร้ายแรง แต่อาจเป็นสัญญาณเตือนให้เราใส่ใจดูแลสุขภาพมากขึ้น การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมจะช่วยลดปัญหาเหล่านี้ได้ แต่หากมีอาการผิดปกติหรือกังวล ควรปรึกษาแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและรักษาที่เหมาะสม 

ใต้ตาโหล เบ้าตาลึก ใต้ตาคล้ำ รักษาแล้วสามารถหายถาวรได้ไหม? 

การรักษาใต้ตาโหล เบ้าตาลึก ใต้ตาคล้ำ ให้หายถาวรนั้นจะขึ้นอยู่กับสาเหตุหลักของปัญหา หากสาเหตุเกิดจากการขาดน้ำ การพักผ่อนไม่เพียงพอ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการดูแลสุขภาพตัวเองให้ดี จะช่วยให้เบ้าตาดูตื้นขึ้นได้ 
แต่หากสาเหตุเกิดจากโครงสร้างใบหน้า เช่น กระดูกเบ้าตา หรือการสูญเสียไขมันใต้ผิวหนังอย่างมาก การรักษาก็อาจไม่สามารถหายได้อย่างถาวร แต่ควรทำหัตถการควบคู่กับการดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อคงสภาพของผลลัพธ์ 

 

การรักษาปัญหาใต้ตาให้ได้ผลดีที่สุด ควรผสมผสานทั้งการดูแลตัวเองแบบธรรมชาติและการรักษาทางการแพทย์เข้าด้วยกัน โดยเริ่มจากการปรับพฤติกรรมและการบำรุงด้วยวิธีธรรมชาติก่อน หากต้องการผลลัพธ์ที่เร็วขึ้น จึงค่อยพิจารณาการรักษาทางการแพทย์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวและงบประมาณของตัวเอง ทั้งนี้ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ

Review ผู้ใช้บริการจริง

คลิกอ่านเกี่ยวข้องเพิ่มเติมได้ที่
  • ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี ควรเลือกหมอแบบไหน? https://bit.ly/3yME99X
  • โปรแกรม HYAFILIA Filler สูตรใหม่! เพิ่มคุณภาพ พร้อมมียาชาในตัว https://bit.ly/48QXpQZ
  • โปรแกรม ฟิลเลอร์เกาหลี VS ฟิลเลอร์อเมริกา แบบไหนดี และต่างกันอย่างไร https://bit.ly/3VvJQ3g
  • โปรแกรม FILLER เติมเต็มร่องแก้ม คาง ใต้ตา อย่างเป็นธรรมชาติ https://bit.ly/3WngiWF
  • โปรแกรมฟิลเลอร์ใต้ตา (FILLER) บอกลาใต้ตาคล้ำร่องลึก แก้ปัญหาใต้ตาตรงจุด https://bit.ly/4cit124
  • 10 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา https://citly.me/W1Zyq
ฝากกดติดตามสาระดีๆเกี่ยวกับความงาม
กดติดตามเพจ FB https://www.facebook.com/charmerclinic2you/
กดติดตาม Tiktok https://www.tiktok.com/@charmerclinic
กดติตตามช่อง Youtube https://bit.ly/2PZiVeR
กดติดตาม IG https://bit.ly/2PYXTwY
Click to rate this post!
[Total: 0 Average: 0]
บทความที่เกี่ยวข้อง

แท็ค

Aestox ดีไหม botox botoxลดกราม filler filler ใต้ตา hifu juvederm filler made collagen mesofat meso หน้าใส Restylane การฉีดฟิลเลอร์ การฉีดโบท๊อกซ์ ข้อดีร้อยไหม ฉีดfiller ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ฉีดเมโสแฟต (Meso Fat) กินเหล้าได้ไหม ฉีดเมโสแฟต (Meso Fat) กี่เข็มเห็นผล ฉีดเมโสแฟต (Meso Fat) จุดไหนได้บ้าง ฉีดเมโสแฟต (Meso Fat) ต้องฉีดบ่อยแค่ไหน ฉีดเมโสแฟต (Meso Fat) เจ็บไหม ฉีดแฟตบอม ทรงจมูก ฟิลเลอร์ ฟิลเลอร์คาง ฟิลเลอร์ใต้ตา มาเด้คอลลาเจน รีวิวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา รีวิวร้อยไหม รีวิวโบท๊อกซ์ ร้อยไหม ร้อยไหมpdo ร้อยไหมก้างปลา ร้อยไหมยกกระชับหน้า ร้อยไหมเงี่ยง วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ ศัลยกรรม ศัลยกรรมเสริมจมูก หลังร้อยไหม เมโส เมโสแฟต เสริมจมูก โบท๊อก โบท๊อกซ์คืออะไร ไฮฟู
Share this

“ความสวยของคุณ คือเป้าหมายของเรา”

จองคิวที่ call center 085-9192768

สาขา เพชรเกษม 69 โทร: 095-058-3666
สาขา อุดมสุข โทร: 095-521-0666
สาขา รังสิต (คลอง3) โทร: 094-696-5322
สาขา รัชดา โทร: 094-559-8748
สาขา อโศก โทร: 093-241-4969
สาขา พรอมานาด โทร: 098 – 154 – 4454
สาขา ราชพฤกษณ์ (สัมมากร เพลส) โทร: 096-016-1666
สาขา ปิ่นเกล้า Major Cineplex Pinkao โทร : 083-978-0666

ท่านสามารถแสดงความคิดเห็นที่ข้อสงสัยได้ที่ด้านล่างนี้

บทความที่น่าสนใจ

No results found

เมนู