“ปัญหาขมับลึก ขมับยุบ ขมับไม่เท่ากัน แก้ได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ขมับ”

บริเวณขมับเป็นบริเวณที่มักถูกมองข้าม แต่ก็มีส่วนสำคัญต่อความสมส่วนของใบหน้าและมีส่วนทำให้ใบหน้าดูมีอายุมากขึ้นหรือหน้าดูไม่สดใส เพราะฉะนั้นการที่มีขมับลึก ขมับจมหรือขมับไม่เท่ากันเป็นปัญหาที่ไม่ควรมองข้ามเลย

การฉีดฟีลเลอร์ได้กลายเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพราะการฉีดฟิลเลอร์เป็นตัวเลือกที่ไม่ผ่าตัด เห็นผลทันทีในครั้งแรกที่ฉีดและไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน คงตอบโจทย์ใครหลาย ๆ คนเลยใช่ไหมล่ะ ? แต่ก่อนที่จะตัดสินใจทำหัตถการหรือเลือกอะไรให้กับตัวเองควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดก่อนเสมอ บทความนี้ Charmer clinic จะพามาทำความเข้าใจว่าฟิลเลอร์ (Filler)  แก้ไขปัญหาขมับลึกได้จริงไหมและนอกจากนั้นการฉีดฟิลเลอร์ขมับ ช่วยเรื่องอะไรได้อีกบ้าง?

 

5 สาเหตุของปัญหาขมับลึก

ขมับลึก คือ สภาพผิวที่บริเวณเหนือคิ้วและข้างตาดูจม ทำให้ขมับกลวงหรือลึก ภาวะนี้อาจเกิดจากหลากหลายปัจจัย เช่น

1. โครงสร้างกระโหลกศรีษะของแต่ละบุคคล

2. อายุที่มากขึ้น : เมื่อเราอายุมากขึ้น ผิวจะเกิดการสูญเสียคอลลาเจนและไขมันบนใบหน้าทำให้เกิดร่องลึกบริเวณขมับ

3. การจัดฟัน : ซึ่งจริง ๆ แล้วการจัดฟันอาจไม่ได้เป็นสาเหตุโดยตรงของปัญหาขมับลึก แต่มีผลกระทบทางอ้อมต่อรูปลักษณ์ของขมับในระหว่างการจัดฟัน เช่น หากคนไข้ผ่านการจัดฟันเพื่อแก้ปัญหาฟันยื่น ตำแหน่งของกระดูกขากรรไกรอาจเปลี่ยนไป ซึ่งอาจส่งผลต่อลักษณะโดยรวมของใบหน้า รวมถึงขมับด้วย

4. กรรมพันธุ์ : บางคนอาจมีแนวโน้มทางพันธุกรรมที่จะมีขมับลึก ซึ่งอาจเกิดจากการมีไขมันหรือกล้ามเนื้อบริเวณขมับน้อย

5. การลดน้ำหนัก : การที่น้ำหนักลดลงอย่างมากอาจทำให้ใบหน้าดูผอมลง ส่งผลให้ขมับลึกขึ้น

ขมับลึกอาจเกิดจากหลากหลายปัจจัย สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อระบุสาเหตุที่แท้จริงของขมับลึก และเพื่อหารือเกี่ยวกับทางเลือกการรักษาที่อาจเหมาะสมกับความต้องการส่วนบุคคลของได้นะ:)

ฟิลเลอร์ (Filler) คืออะไร?

ฟิลเลอร์ (Filler) คือ สารที่ใช้ฉีดเพื่อเติมหรือเสริม ในชั้นผิวหนังหรือใต้จากผิวหนัง เพื่อช่วยลด แก้ไขปัญหาบางประการของผิวหนัง เช่น รอยย่นจากวัย รอยย่นที่เกิดจากแสงแดด แผลเป็นชนิดหลุม หรือเสริมในบริเวณที่ขาด เช่น ฟิลเลอร์ใต้ตา (10 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา) ร่องแก้ม ริมฝีปาก คาง และจมูก ขมับลึก แก้มตอบ เป็นต้น อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟิลเลอร์ได้ที่… https://charmerclinic.com/service/filler/

ฟิลเลอร์ (Filler) ที่เหมาะกับการฉีดขมับ

 

การฉีดฟิลเลอร์ (Filler) ขมับช่วยเรื่องอะไรบ้าง? 

1.ขมับยุบ

เมื่อเราอายุมากขึ้น ไขมันและคอลลาเจนในใบหน้าของเราจะสูญเสียไปตามธรรมชาติ รวมทั้งบริเวณขมับด้วย ซึ่งจะทำให้ใบหน้าดูไม่อิ่มเอิบและไม่สดใส การฉีดฟิลเลอร์ขมับสามารถทำให้เติมเต็มขมับที่ยุบได้

2.ขมับไม่เท่ากัน

การขมับที่ไม่เท่ากันอาจทำให้เกิดความไม่สมดุลของใบหน้า  จะสังเกตเห็นได้ชัดเจนเป็นพิเศษเวลาถ่ายรูปหน้าตรงหรือถ่ายรูปโปรไฟล์ การฉีดฟิลเลอร์ขมับสามารถช่วยปรับให้ใบหน้ามีความสมส่วนและดูเท่ากันมากขึ้น

3.ทำให้ริ้วรอยจางลงและช่วยกระชับผิว

การฉีดฟิลเลอร์สามารถช่วยลบเลือนริ้วรอยและเส้นเล็ก ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในบริเวณขมับเนื่องจากอายุที่มากขึ้นหรือจากการเจอกับแสงแดด

4.เสริมโครงหน้า

สามารถใช้การฉีดฟิลเลอร์เพื่อเสริมโครงหน้าได้ เช่น การเสริมกระดูกตรงคิ้วให้ชัดขึ้นหรือปรับบริเวณขมับโค้งมนมากขึ้น และยังทำให้การกรามที่ดูเหลี่ยมดูหน้าเข้ารูปมากขึ้น

6.ยกหน้า 

การฉีดฟิลเลอร์ขมับนั้น หากคุณหมอใช้เทคนิคพิเศษ หรือ การใช้ฟิลเลอร์ ด้วยเทคนิคการยกหน้า จะช่วยพยุงด้านข้างแก้มให้หน้าดูยกมากขึ้น ทำให้หน้าดูเรียวขึ้นอีกด้วย

ฉีดฟิลเลอร์ (Filler) ขมับต้องใช้กี่ cc ขึ้นอยู่กับปัจจัยอะไรบ้าง?

CC หรือ ซีซี ย่อมาจาก ลูกบาศก์เซนติเมตร เป็นหน่วยปริมาตรที่ใช้กันทั่วไปในด้านการแพทย์เพื่อวัดปริมาณของของเหลว โดยเฉพาะในการรักษาแบบฉีด เช่น การฉีดฟิลเลอร์ (Filler)

การฉีดฟิลเลอร์ขมับต้องใช้ฟิลเลอร์ขมับกี่ CC ? 

แน่นอนว่าคำตอบจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลและขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยเลยค่ะ

1. ความไม่เท่ากันหรือความลึก

ความไม่เท่ากันหรือความลึกจะเป็นตัวกำหนดปริมาณฟิลเลอร์ที่ต้องใช้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ หากเรามีความไม่เท่ากันและความลึกเพียงเล็กน้อย  อาจต้องใช้ฟิลเลอร์เพียง 0.5 — 1 CC แต่สำหรับความไม่เท่ากันระดับปานกลางถึงมาก อาจต้องใช้ฟิลเลอร์ 1 — 2 ซีซี/ข้าง

2. อายุ 

เมื่อเราอายุมากขึ้น ไขมันและคอลลาเจนและภาวะกระดูกทรุดตามธรรมชาติในใบหน้าของเราจะสูญเสียไป รวมทั้งบริเวณขมับด้วย  คนที่มีอายุเยอะอาจต้องการปริมาณฟิลเลอร์ที่มากขึ้นเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ

3. ความหนาของผิวหนัง 

คนที่มีผิวบางอาจต้องการฟิลเลอร์น้อยลง  ในขณะที่ผู้ที่มีผิวหนาอาจต้องการฟิลเลอร์จำนวนมากขึ้นเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ

4. ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ที่ต้องการ 

ปริมาณฟิลเลอร์ที่ต้องการจะขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ที่เราต้องการมากที่สุด เช่น หากเราต้องการแก้ไขปัญหาขมับเพียงเล็กน้อย  สามารถใช้ปริมาณฟิลเลอร์น้อยลงได้ หรือถ้าต้องการการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนอาจต้องใช้ฟิลเลอร์ในปริมาณที่มากขึ้น

สรุปแล้ว ปริมาณ CC ของฟิลเลอร์ขมับที่ต้องใช้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ความไม่เท่ากันหรือความลึก, อายุ, ความหนาของผิวหนังและผลลัพธ์ที่เราต้องการ สิ่งสำคัญคือต้องปรึกษากับแพทย์ที่มีประสบการณ์ที่จะสามารถประเมินความต้องการของแต่ละบุคคลและให้คำแนะนำเฉพาะบุคคลได้ การใช้ฟิลเลอร์ในปริมาณที่เหมาะสม จะทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ สมดุล และสดใสขึ้นได้

ข้อดีข้อเสีย ของ ฉีดฟิลเลอร์ขมับ

ข้อดี

1.เป็นตัวเลือกแบบไม่ผ่าตัด ไม่จำเป็นต้องวางยาสลบ

2.ใช้เวลาพักฟื้นน้อย

3.เห็นผลลัพธ์ทันที

4.ผลลัพธ์อยู่ได้นานตั้งแต่ 6 — 12 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ (Filler) ที่ใช้

5.สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของแต่ละบุคคล

ข้อเสีย

อยู่ได้นานแต่ไม่ถาวร ต้องฉีดซ้ำเพื่อรักษาผลลัพธ์ สิ่งสำคัญคือต้องเลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและสถานพยาบาลที่มีคุณภาพและมีประสบการณ์เพื่อให้แน่ใจว่าได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้และลดความเสี่ยงในภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น

ฉีดฟิลเลอร์ขมับเห็นผลภายในกี่วัน?

ฉีดฟิลเลอร์ขมับจะเห็นผลทันทีหลังการฉีดและจะสังเกตได้เลยว่าบริเวณขมับมีความเปลี่ยนแปลง ขมับเต็มขึ้น ขมับเท่ากัน รวมถึงริ้วรอยบางลงด้วย หลังฉีดต้องสังเกตว่ามีอาการบวมหรือรอยช้ำบริเวณที่ฉีดหรือไ่ม่ ซึ่งอาจใช้เวลา 2-3 วันกว่าจะบวมน้อยลง เมื่ออาการบวมหายไป (โดยปกติภายใน 7-14 วันหลังฉีด) ฟิลเลอร์จะเห็นผลเต็มที่มากขึ้น ผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์ขมับจะอยู่ได้ตั้งแต่ 6- 1 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ (Filler) ที่ใช้และการเผาผลาญของแต่ละบุคคล

ก่อน-หลังฉีด ดูเเลตัวเองอย่างไรบ้าง?

ก่อน:

1. หลีกเลี่ยงการทานวิตามินหรือยาที่ทำให้เลือดจางเป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนทำหัตถการ เพื่อลดความเสี่ยงของการฟกช้ำและมีเลือดออกบริเวณที่ฉีดได้

2. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนทำหัตถการ เนื่องจากอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการช้ำและบวมได้

3. ดื่มน้ำให้เพียงพอก่อนทำหัตถการเพื่อให้แน่ใจว่าผิวมีน้ำเพียงพอ

4. หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายอย่างหนักหรือลดกิจกรรมที่เพิ่มการไหลเวียนของเลือดเป็นเวลาอย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนฉีด

หลัง:

1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือถูบริเวณที่ฉีดเป็นเวลาอย่างน้อย 24 ชั่วโมงหลังฉีด

2. หลีกเลี่ยงยาทำให้เลือดจาง เป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์หลังฉีด

3. ดื่มน้ำเยอะ ๆ เพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื้น

4. หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายอย่างหนักเป็นเวลาอย่างน้อย 24 ชั่วโมงหลังฉีด

5. อย่านอนทับขบริเวณขมับเป็นเวลา 2-3 วันหลังฉีด ให้นอนหงายโดยเงยหน้าขึ้น

6. ติดตามผลกับสถานพยาบาลอย่างสม่ำเสมอ

 

การฉีดฟิลเลอร์ (Filler) ขมับสามารถช่วยได้ในหลายปัญหา เช่น ขมับลึก ขมับไม่เท่ากัน กรามไม่ชัดหรือริ้วรอยตีนกา สิ่งสำคัญคือต้องปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ที่สามารถประเมินความต้องการและให้คำแนะนำเฉพาะบุคคลได้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและตอบโจทย์ความต้องการของเรามากที่สุด  หากสาว ๆ คนไหนกำลังสนใจการฉีดฟิลเลอร์ขมับ สามารถเข้ามาสอบถามกับทาง Charmer Clinic ได้เลยนะคะ

 

รีวิวจากลูกค้าฉีดฟิลเลอร์ขมับของ Charmer Clinic

 

บทความเกี่ยวกับความงามที่น่าสนใจ:

6 วิธียกกระชับใบหน้า วิธีไหนดีที่สุด?

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ย้อนวัยหน้าเด็ก

ฉีดลดใต้ตาดำด้วย Barbie Eyes (บาร์บี้อาย)

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เลือกยี่ห้อไหนดี ?