6 วิธีทําหน้าขาวใสที่คลินิก แบบไหนเห็นผลดีที่สุด
ใครๆ ก็อยากหน้าใสกันทั้งนั้น แต่แดดบ้านเราก็แรงมากจนทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำ ผิวดูไม่สดใส แล้วไหนจะปัญหามลภาวะฝุ่นควันเยอะจนทำให้สิวขึ้นอีก ซึ่งการทาครีมบำรุงผิวอย่างเดียวก็จะไม่ทันใจเพราะมันเห็นผลช้ามากๆ เราเลยอยากแนะนำวิธีที่จะช่วยให้หน้าขาวใส มีออร่าแบบเร่งด่วน มีทั้งหมด 6 วิธี โดยสามารถทำได้ที่คลิกนิกเสริมความงาม การันตีว่าเห็นผลไวม๊ากมาก
-
ทำมาเด้ คอลลาเจน (Made Collagen)
มาเด้ คอลลาเจน (Made Collagen) คือ การใช้ยาที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ ประกอบไปด้วยวิตามินรวม แร่ธาตุเอนไซม์ และเซลล์บำบัด เช่น Placenta (พลาสเซนต้า) และ Collagen (คอลลาเจน) ซึ่งสารสกัดทั้งหมดจะผ่านกระบวนการเตรียมสูตรแบบ Homeopathy (โฮมีโอพาธีย์) เป็นศาสตร์บำบัดจากเยอรมนี โดยจะฉีดสารสกัดลงไป 16 จุดทั่วใบหน้า
เมื่อฉีดสารสกัดธรรมชาติเข้าไปแล้ว ตัวยาจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของต่อมน้ำเหลืองใต้ผิวหนัง ซึ่งจะช่วยขับสารพิษและของเสียต่างๆ ที่ตกค้างในร่างกาย ส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ทำให้ร่างกายสามารถฟื้นฟูตัวเองได้ดี ช่วยปรับสมดุลให้ร่างกายใหม่ ช่วยให้ผิวดูสุขภาพดีขึ้น ช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้า ช่วยลดสิวอักเสบ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นใต้ผิวหนัง และกระชับรูขุมขนให้ดูเล็กลง
มาเด้ คอลลาเจน (Made Collagen) เหมาะกับใครบ้าง
-
คนที่อยากแก้ปัญหาสิวเรื้อรัง สิวจากฮอร์โมนผิดปกติ
-
คนที่มีปัญหาผิวแพ้ง่าย ผิวไม่แข็งแรง
-
คนที่มีฝ้าขึ้นจากปัญหาฮอร์โมนผิดปกติ และอยากปรับสมดุลฮอร์โมน
-
คนที่ต้องการฟื้นฟูสภาพผิวหมองคล้ำ ผิวที่ดูอ่อนล้า ให้หน้าดูสดใสขึ้น
ข้อควรระวังในการทำมาเด้ คอลลาเจน (Made Collagen)
-
ในบางคนอาจพบรอยแดงเป็นตุ่มนูนที่รอยเข็มหลังฉีดได้ แต่ภายใน 3-4 ชั่วโมง รอยจะค่อยๆ หายไป
-
ควรระวังเจอมาเด้ปลอม เพราะจะทำให้เกิดการอักเสบ บวมแดง และมีผื่นแพ้ จึงควรใช้บริการคลินิกที่มีมาตรฐาน และควรแจ้งแพทย์ให้ผสมยาให้ดูต่อหน้าทุกครั้งเพื่อความมั่นใจ
-
ทำเมโสหน้าใส (Mesotherapy)
เมโสหน้าใส (Mesotherapy) คือ การฉีดวิตามินเข้าไปลึกถึงชั้นผิวภายใน วิตามินที่ฉีดเข้าไปจะช่วยเพิ่มคอลลาเจน ผลัดเซลล์ผิวเก่าและสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้จุดด่างดำดูจางลง ช่วยกระชับรูขุมขน และจะเห็นผลว่าหน้าใสขึ้นภายใน 3-5 วัน วิตามินที่นิยมใช้ในเมโสหน้าใส เช่น วิตามิน A, B, C, E, Glutatione, Collagen และมีการฉีดเมโสเพื่อช่วยลดสิว ผดผื่นด้วย
เมโสหน้าใส (Mesotherapy) เหมาะกับใครบ้าง
-
คนที่ต้องการลดความหมองคล้ำของใบหน้า ปรับผิวให้ดูกระจ่างใสขึ้น
-
คนที่ต้องการลดเลือนริ้วรอย รอยสิว รอยกระ รอยฝ้า
-
คนที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง ทำงานหนัก อดนอนบ่อย และอยากหน้าใส
ข้อควรระวังในการทำเมโสหน้าใส (Mesotherapy)
อาจมีอาการระคายเคืองหรืออักเสบในคนที่ิผิวแพ้ง่ายมากๆ
-
ทำเลเซอร์
การทำเลเซอร์ คือ การใช้เทคโนโลยีพลังงานแสงความเข้มข้นสูงยิงลงไปบนผิว ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด เช่น ลดรอยแดง รอยดำ รอยสิว ลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า ช่วยกระชับรูขุมขนให้ตื้นขึ้น ช่วยปรับสภาพผิวให้ดูเนียนขึ้น และปรับเม็ดสีให้สีผิวดูสม่ำเสมอ ผิวดูสดใสขึ้น
จุดเด่นของการทำเลเซอร์ (laser)ก็คือเห็นผลเร็ว ใครที่อยากหน้าใสแบบเร่งด่วนแนะนำให้ทำเลเซอร์เลยจ้า การทำเลเซอร์หน้าใสก็มีหลายแบบมากๆ เช่น IPL Laser, Q-Switch Laser, VBeam Laser, Pico Laser, Dual Yellow Laser ขอแนะนำว่าควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทำเสมอว่าสภาพผิวของเราเหมาะกับเลเซอร์แบบไหน เพื่อให้ผลของการรักษาออกมาดีที่สุด
การทำเลเซอร์เหมาะกับใครบ้าง
-
คนที่ต้องการฟื้นฟูสภาพผิวที่คล้ำเสียสะสม
-
คนที่ต้องการลดเลือนริ้วรอยต่างๆ
-
คนที่ต้องการให้ผิวหน้าดูเรียบเนียนขึ้น
-
คนที่ต้องการรักษาสิว รอยสิว หลุมสิว
-
คนที่ต้องการหน้าใส ผิวเรียบเนียนแบบเร่งด่วน
-
คนที่ต้องการลดความหมองคล้ำ และลดเส้นเลือดฝอยบนใบหน้า
ข้อควรระวังในการทำเลเซอร์
หลังทำเลเซอร์ผิวจะมีสภาพบอบบาง ระคายเคืองง่าย และไวต่อแสงแดดมากขึ้น จึงควรเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว และหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด
-
ทำทรีตเมนต์ผลักวิตามิน
การทำทรีตเมนต์ผลักวิตามิน คือ การใช้เครื่องมือผลักวิตามินและอาหารผิวด้วยกระแสไฟอ่อนๆ ซึ่งจะช่วยส่งวิตามินและอาหารผิวลงไปถึงผิวหนังชั้นลึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น และช่วยลดเลือนริ้วรอยต่างๆ ให้ดูจางลง
-
PHONO (โฟโน) เป็นเทคโนโลยีการฟื้นฟูผิว โดยใช้คลื่นเสียงความถี่สูงผลักวิตามินเข้าสู่ผิวหนัง ขณะทำจะรู้สึกเหมือนผิวหนังได้รับการนวด จึงทำให้รู้สึกสบายและผ่อนคลาย วิตามินที่นิยมใช้จะเป็นกรดวิตามินเอ วิตามินซี สารให้ความชุ่มชื้น และสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปรับสีผิวให้ดูขาวและกระจ่างใสขึ้น
-
Ultra Deep เป็นการใช้กระแสไฟฟ้าทำให้เกิดช่องว่างชั่วคราวในชั้นผิว เพื่อนำพาวิตามินให้ลงสู่ผิวได้ง่ายและลึกมากขึ้น วิธีนี้จะช่วยผลักวิตามินลงสู่ผิวได้ลึกกว่าการใช้กระแสไฟฟ้าธรรมดาถึง 10 เท่า ทำให้ผิวดูสดใส ผิวชุ่มชื้นขึ้น ช่วยฟื้นฟูสภาพผิว ช่วยลดรอยดำ ฝ้า กระบนใบหน้าได้ดี และช่วยให้รอยแผลเป็น รอยหลุมสิวดูตื้นขึ้น
การทำทรีตเมนต์ผลักวิตามินเหมาะกับใครบ้าง
-
คนที่ต้องการฟื้นฟูสภาพผิวหมองคล้ำ ผิวคล้ำเสียจากแสงแดด
-
คนที่มีรอยดำ รอยฝ้า รอยกระ รอยสิว รอยหลุมสิว
-
คนที่ต้องการเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิว อยากให้ผิวดูสุขภาพดีขึ้น
-
คนที่ผิวไม่เรียบ มีริ้วรอย ร่องลึก และอยากลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า
ข้อควรระวังในการทำทรีตเมนต์ผลักวิตามิน
อาจต้องทำหลายครั้งจึงจะเห็นผลลัพธ์ตามที่ต้องการ
-
มาส์กหน้าใส ใครที่อยากหน้าขาวใส แต่กลัวเจ็บ กลัวเข็ม และไม่กล้าเลเซอร์ การมาส์กหน้าถือเป็นทางเลือกที่ดี เพราะปัจจุบันคลินิกเสริมความงามมีบริการมาส์กหน้าใสให้เลือกเยอะมาก และมาส์กของทางคลินิกก็จะเป็นมาส์กสูตรเข้มข้นที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อผิว ช่วยบำรุงและฟื้นฟูผิวได้อย่างล้ำลึก ทำเสร็จแล้วรับรองว่าหน้าใส ผิวเด้งแน่นอน
การมาส์กหน้าใสเหมาะกับใครบ้าง
-
คนที่อยากหน้าใส แต่กลัวเข็ม กลัวเจ็บ
-
คนที่อยากหน้าใส แต่งบน้อย หรือนักเรียน นักศึกษา
-
คนที่อยากลดรอยหมองคล้ำ เพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิว
-
คนที่ต้องการให้ผิวแข็งแรงขึ้นและผ่อนคลาย
ข้อควรระวังในการทำทรีตเมนต์ผลักวิตามิน
อาจต้องทำหลายครั้งจึงจะเห็นผลลัพธ์ตามที่ต้องการ
-
ฉีดผิวขาวใส
การฉีดผิว คือ การฉีดวิตามินเข้มข้นเข้าสู่เส้นเลือดโดยตรง ซึ่งจะช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์ผิวให้แข็งแรงและสุขภาพดีขึ้น การฉีดผิวจะช่วยให้ผิวดูขาวใสขึ้นอย่างรวดเร็ว และเป็นวิธีที่ปลอดภัย ไม่เป็นอันตราย ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ
เมื่อฉีดวิตามินเข้าสู่ผิวแล้ว วิตามินจะไปยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยปรับสีผิวให้เสมอกัน ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส ช่วยลดรอยคล้ำและจุดด่างดำให้หายไป ขอบอกว่ายิ่งฉีดบ่อย ผิวก็จะกระจ่างใส มีออร่ามากขึ้นเรื่อยๆ
การฉีดผิวขาวเหมาะกับใครบ้าง
-
คนที่ต้องการปรับสีผิวให้เท่ากัน
-
คนที่ต้องการให้ผิวดูขาวใส มีออร่า
-
คนที่ต้องการลดความหมองคล้ำ จุดด่างดำต่างๆ
-
คนที่ต้องการฟื้นฟูสภาพผิวจากภายในและภายนอก
-
คนที่ขี้เกียจทาครีม และอยากผิวใสแบบเร่งด่วน
-
คนที่มีผิวคล้ำเสีย ผิวดูไม่สดใส และผิวแห้งกร้าน
ข้อควรระวังในการฉีดผิวขาว
-
ผิวจะไวต่อแสงมากขึ้น จึงควรเลี่ยงการโดนแสงแดดให้มากที่สุด
-
ต้องฉีดประมาณ 3-5 ครั้ง หรือ 7-8 ครั้ง ถึงจะเห็นผลลัพธ์
-
ผิวจะดูมีออร่าขึ้นจริง แต่จะขาวขึ้นตามสภาพผิวพื้นฐานเดิมเป็นหลัก
-
คนที่มีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนฉีดเสมอ (คลิกอ่าน ข้อดี ข้อเสียของการฉีดผิว )
ขอสรุปสั้นๆ ว่าทุกวิธีสามารถปรับผิวให้ขาวใสได้จริง แต่ก็จะมีข้อดีและข้อควรระวังที่แตกต่างกัน ส่วนแบบไหนจะเห็นผลดีที่สุด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สภาพผิว สีผิว และการดูแลตัวเองหลังทำด้วย หากอยากหน้าขาวใสแบบเห็นผลเร็วๆ แนะนำให้ปรึกษาคลินิกที่มีมาตรฐาน เพื่อให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญประเมินสภาพผิวและให้คำแนะนำว่าเราเหมาะกับการรักษาแบบไหนจะดีที่สุดค่ะ
นอกจากการทำหัตถการที่คลินิกเสริมความงามแล้ว เราก็ควรดูแลตัวเองด้วยการทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำให้เพียงพอ นอนหลับอย่างมีคุณภาพ ก็จะช่วยส่งเสริมให้ผิวดูสุขภาพดีขึ้นจากภายใน ส่วนคนที่ขี้เกียจดูแลตัวเองก็ไม่ต้องเครียดนะคะ เพราะปัจจุบันมีเทคโนโลยีมากมายที่จะช่วยแก้ปัญหาและฟื้นฟูสภาพผิวให้เลือกใช้บริการมากมาย บอกเลยว่าไม่ว่าจะแดดแรงแค่ไหน ผิวหน้าก็ขาวใส มีออร่า เป๊ะเวอร์ทุกวันจ้า
อ่านบทความเกี่ยวข้องเพิ่มเติมได้ที่
-
คลิกอ่านบทความ เมโสหน้าใส กับมาเด้ คอลลาเจน แตกต่างกันอย่างไร คลิก https://bit.ly/2C6QurL
-
คลิกอ่านบทความ 9 คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีด MADE Collagen https://bit.ly/3kePdjZ
-
ฉีดผิวขาวใสที่ไหนดี เช็คลิสต์ก่อนฉีด ปลอดภัย และเห็นผล เค ล็ดลับผิวขาวใสที่ใครๆก็อยากมี!! https://bit.ly/3pnVQn1
-
คลิกดูรีวิวโปรแกรมหน้าใส ทรีทเมนต์ 3 ขั้นตอน https://bit.ly/2RwyfEc
ฝากกดติตตามความงามสาระดีๆ
กดติดตามเพจ FB https://www.facebook.com/charmerclinic2you/
กดติดตาม Tiktok https://www.tiktok.com/@charmerclinic
กดติตตามช่อง Youtube https://bit.ly/2PZiVeR
กดติดตาม IG https://bit.ly/2PYXTwY
กดติดตาม Twitter https://twitter.com/CharmerClinic
กดอ่านบทความดีๆอัพเดท https://charmerclinic2you.com/
สนใจสอบถามปรึกษาแพทย์/นัดคิว
จองคิวที่📲 call center 085-919-2768
-
สาขารัชดา (MRTรัชดาภิเษก) โทร 094-559-8748
-
สาขาอุดมสุข(บางนา) โทร 095-521-0666
-
สาขาเพชรเกษม 69 (victoria garden) โทร 095-058-3666
-
สาขารังสิต (ตรงข้ามฟิวเจอร์พาร์ค) โทร 094-696-5322
-
สาขาสุขุมวิท39 (ตึก Bio House) โทร 093-241-4969
-
สาขาราชพฤกษ์ (The Walk ) โทร 081-444-6395
-
สาขาวัชรพล (the platinum place) โทร 098-154-4454
Click to rate this post!
[Total: 0 Average: 0]