ไม่มีความเห็น

PRP ฉีดแล้วหน้าใส ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวจากเกล็ดเลือด

PRP ฉีดแล้วหน้าใส ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวจากเกล็ดเลือด

การทำ PRP หรือ Plasma Rejuvenation Program กำลังเป็นที่นิยมและมาแรงในกลุ่มความงาม เพราะเป็นวิธีที่สามารถช่วยฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพให้แข็งแรงขึ้น และยังช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ชั้นผิวใหม่ ทำให้ผิวดูสดใสขึ้นทันทีหลังทำ ผิวดูแน่นฟูเรียนเนียนขึ้น หน้าดูเด็กลง และยังสามารถช่วยเติมเต็มร่องลึก รอยหลุมสิวได้อีกด้วย  

 

ส่วนวิธีการทำ PRP นั้นขอบอกเลยว่าเป็นการรักษาที่มีความปลอดภัยสูงมาก โดยจะใช้เกล็ดเลือดของตัวเองมาทำการรักษา เพราะในเกล็ดเลือดจะมีพลาสมา (Plasma) ที่ช่วยรักษาและฟื้นฟูร่างกายได้อย่างดีเยี่ยม เมื่อนำมาฉีดบริเวณผิวหน้าจึงทำให้ผิวดูโกลว์สุขภาพดี หน้าดูใสเรียบเนียน ริ้วรอยต่าๆ ดูจางลง การทำ PRP นั้นนิยมใช้ในการแพทย์ โดยมักจะใช้ในการรักษากระดูกและข้อต่อ ส่วนในด้านของความงามก็จะนำมาใช้ในการทำผิวดูใสและสุขภาพดีขึ้น 
prp คืออะไร , prp ช่วยอะไร , prp เหมาะกับใคร
prp คืออะไร , prp ช่วยอะไร , prp เหมาะกับใคร
    

 

 

 

 

 

 

 

 

การฉีด PRP เพื่อรักษาหน้าใส คืออะไร 

PRP (Platelet Rich Plasma) คือ เกล็ดเลือดที่มีความเข้มข้นสูงกว่าเกล็ดเลือดทั่วไป 3-8 เท่า จึงมีคุณสมบัติในการช่วยฟื้นฟูและซ่อมแซมร่างกาย ช่วยกระตุ้นให้เซลล์ทำงานได้ดีขึ้น โดยเป็นวิธีทำหน้าใสที่มีความปลอดภัยมาก เพราะเกล็ดเลือดที่นำมาใช้ในการรักษาจะมาจากเลือดของผู้รักษาเอง จึงช่วยลดความเสี่ยงในการแพ้เพราะสกัดมาจากร่างกายของตัวเอง 
จุดเด่นของการทำ PRP คือ การนำเลือดมาปั่นแยกเกล็ดเลือดโดยใช้เครื่องเหวี่ยงสาร (Centrifuge) เพื่อจะให้ได้มาซึ่งเกล็ดเลือดที่เข้มข้นที่สุดและมี Growth Factor สูง ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เซลล์ Fibroblast สร้างคอลลาเจนได้ดีและเร็วขึ้น เมื่อฉีดเข้าไปที่ใบหน้าจึงช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวและกระตุ้นให้เซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพกลับมาทำงานอีกครั้ง ช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างหลอดเลือดไปเลี้ยงผิว ทำให้เกิดการสร้างเส้นใยคอลลาเจนมากขึ้น จากผิวที่โทรมก็กลับมาสดใสฉ่ำวาว ผิวดูสุขภาพดี มีออร่า และเรียบเนียนขึึ้น แถมยังสามารถช่วยเติมร่องลึก แก้ปัญหารอยหลุมสิวได้ดีด้วย
 
prpช่วยอะไรได้บ้าง ,prp หน้าใส , prp อยู่ได้นานไหม
prpช่วยอะไรได้บ้าง ,prp หน้าใส , prp อยู่ได้นานไหม
 
PRP ช่วยเรื่องอะไรบ้าง
  • ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใหม่ ทำให้ผิวดูแน่นฟู รูขุมขนดูเล็กลง
  • ช่วยปรับสมดุลการสร้างเม็ดสีผิว ปรับสภาพผิวหนังให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น
  • ช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพให้แข็งแรงขึ้น ทำให้ใบหน้าดูกระจ่างใส มีออร่า และดูอ่อนวัยขึ้น 
  • ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ช่วยเติมเต็มริ้วรอยต่างๆ รวมถึงรอยหลุมสิวด้วย
  • ช่วยลดเลือนรอยแดง จุดด่างดำ และริ้วรอยต่างๆ ด้วยการกระตุ้นให้เกิดคอลลาเจนใหม่ใต้ชั้นผิว

 

ขั้นตอนการทำ PRP เป็นอย่างไร 

การทำ PRP นั้นไม่น่ากลัวและมีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยากเลย โดยแพทย์จะทำการเจาะเลือดจากตัวเราประมาณ 10-20 cc. และจะนำเลือดนั้นไปทำการสกัดแยกส่วนของเลือดและน้ำออกจากกัน เพื่อให้ได้เกล็ดเลือดที่เข้มข้นที่สุด หลังจากนั้นแพทย์จะนำมาฉีดในบริเวณที่มีปัญหาตามความต้องการของเรา โดยกระบวนการทั้งหมดนี้ใช้เวลาประมาณ 45-60 นาที 

 

 

ก่อนทำ PRP ต้องเตรียมตัวอย่างไร 
  • ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 8 ชั่วโมง
  • ดื่มน้ำให้มากๆ อย่างน้อย 6-8 แก้ว เพื่อป้องกันไม่ให้เลือดมีความข้นหรือหนืดเกินไป
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2-3 วันทั้งก่อนและหลังทำ
  • งดการกินอาหารทอด ของมัน อาหารที่มีไขมันสูง ก่อนทำ 1-2 มื้ออาหาร
  • งดการกินยากลุ่ม NSAID ก่อนทำ 2-3 วัน
  • กินวิตามินซีก่อนเข้าทำ PRP 1 อาทิตย์ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีในการรักษา

 

หลังทำ PRP ต้องดูแลตัวเองอย่างไร 
  • หลังทำ PRP อาจมีอาการบวมหรือมีรอยช้ำเล็กน้อยในบริเวณที่ฉีด แต่อาการจะดีขึ้นภายใน 2-3 วัน
  • หลังทำ PRP ควรดื่มน้ำ 3-4 แก้ว เพื่อเพิ่มปริมาณโลหิตในร่างกาย ซึ่งจะช่วยป้องกันอาการแทรกซ้อนได้
  • หลังทำภายใน 6 ชั่วโมง ควรงดการล้างหน้า  และงดแต่งหน้าอย่างน้อย 1 วัน
  • สามารถทาครีมบำรุงผิวหน้าได้ตามปกติ แต่ควรเลี่ยงครีมที่มีส่วนผสมระคายเคืองต่อผิว เช่น AHA วิตามินซี
  • หลังทำ 3 วัน ให้งดทำกิจกรรมกลางแจ้ง หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด 
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดออกกำลังกายไปก่อน
  • เลี่ยงการกินยากลุ่ม Aspirin และ Ibuprofen
  • หากมีอาการปวดบวมให้ใช้ยาแก้ปวดกลุ่มพาราเซตามอล

 

 

หลังทำprpต้องดุแลยังไง , หลังทำprpทำยังไง , หลังทำprpบวมไหม
หลังทำprpต้องดุแลยังไง , หลังทำprpทำยังไง , หลังทำprpบวมไหม

 

PRP ต้องฉีดบ่อยแค่ไหน
การทำ PRP เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีนั้น ควรฉีดซ้ำ 1-2 ครั้งต่อเดือน โดยควรเว้นระยะห่างในการทำ 4-6 สัปดาห์ ก็จะช่วยให้การทำ PRP มีประสิทธิภาพและให้และผลลัพธ์ที่ดีมาก 

 

PRP ทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล 
หลังจากฉีด PRP แล้ว กระบวนการในการกระตุ้นคอลลาเจนและอิลาสตินในเซลล์ผิวตามธรรมชาติจะเริ่มเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงหลังทำ 2-4 สัปดาห์ และจะเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจนภายใน 3 เดือน โดยควรฉีดซ้ำ 2-3 ครั้งต่อเดือน และเว้นระยะห่าง 4-6 สัปดาห์ ทั้งนี้ระยะเวลาในการเห็นผลขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังทำด้วย

 

การทำ PRP อยู่ได้นานไหม
การทำ PRP สามารถอยู่ได้นาน 1ปี ถึง 1 ปีครึ่ง ทั้งนี้ผลลัพธ์ที่ดีจะขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอในการฉีดตามที่แพทย์ประเมิน ซึ่งอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล และการดูแลตัวเองตามคำแนะนำก็จะช่วยให้การทำ PRP อยู่ได้นานขึ้น 
การทำ PRP ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยทำให้ผิวหน้าของเราดูใส เรียบเนียน มีออร่าขึ้นได้ และยังเป็นวิธีที่มีความปลอดภัยสูง ไม่เสี่ยงแพ้ตัวยาเพราะทำมาจากเลือดของตัวเราเอง แถมยังไม่ต้องเจ็บตัวมากแต่ก็ให้ผลลัพธ์ที่เห็นผลชัดเจนทันทีหลังทำ เพราะแบบนี้การทำ PRP จึงได้รับความนิยมมาก ทั้งนี้ก่อนเข้าทำ PRP ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทำเสมอเพื่อผลลัพธ์ที่ดีและหน้าที่สวยเป๊ะในระยะยาว

 

Charmerclinic

คลิกอ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
ฝากกดติตตามความงามสาระดีๆ
กดติดตามเพจ FB https://www.facebook.com/charmerclinic2you/
กดติดตาม Tiktok https://www.tiktok.com/@charmerclinic
กดติตตามช่อง Youtube https://bit.ly/2PZiVeR
กดติดตาม IG https://bit.ly/2PYXTwY
กดติดตาม Twitter https://twitter.com/CharmerClinic
กดอ่านบทความดีๆอัพเดท https://charmerclinic2you.com/
Click to rate this post!
[Total: 1 Average: 5]
Share this

“ความสวยของคุณ คือเป้าหมายของเรา”

จองคิวที่ call center 085-9192768

สาขารัชดา โทร 094-5598748
สาขาอุดมสุข(บางนา) โทร 095-521-0666
สาขาเพชรเกษม 69 โทร 095-058-3666
สาขารังสิต โทร 094-696-5322
สาขาอโศก-สุขุมวิท โทร 093-241-4969
สาขาพรอมานาด โทร 098-154-4454
สาขาเมเจอร์ปิ่นเกล้า โทร 083-978-0666
สาขาราชพฤกษ์ โทร 096-016-1666 

ท่านสามารถแสดงความคิดเห็นที่ข้อสงสัยได้ที่ด้านล่างนี้

บทความที่น่าสนใจ