มีริ้วรอยที่ร่องแก้ม ร่องแก้มดูลึก ทำให้หน้าดูแก่กว่าวัย หน้าตาดูไม่สดใส ซึ่งมักส่งผลให้เราเสียความมั่นใจในตัวเอง ใครที่มีปัญหาร่องแก้มลึก สามารถแก้ได้ง่ายๆ ด้วย “การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม” วิธีแก้ปัญหาร่องแก้มลึกที่ดีและตรงจุดที่สุด!!!

 

การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม คือ การฉีดสารไฮยาลูโรนิคแอซิด (Hyaluronic Acid) เข้าไปบริเวณร่องแก้ม เมื่อฉีดแล้วจะช่วยเติมเต็มร่องลึก ช่วยเติมเต็มชั้นผิว ลดเลือนริ้วรอยต่างๆ ให้ดูตื้นขึ้น และยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้เพิ่มมากขึ้น หลังฉีดจะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงทันทีว่าผิวหน้าดูอ่อนเยาว์ ร่องแก้มดูตื้นขึ้น หน้าดูเด็ก สดใส เปล่งปลั่งมากขึ้น 

แต่ก่อนที่จะตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ก็ควรทำความเข้าใจก่อนว่าการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มคืออะไร ใครบ้างที่ควรฉีด อันตรายไหม ควรเลือกใช้ฟิลเลอร์ตัวไหน ต้องใช้กี่ CC และวิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน และอยู่ได้นาน

 

 

 

ปัญหาร่องแก้มลึกเกิดจากสาเหตุใด

ร่องแก้ม มีลักษณะเป็นเส้นเฉียงบริเวณข้างแก้มเหนือปากยาวลงมาจนถึงบริเวณมุมปาก ซึ่งใต้ผิวหนังบริเวณนี้จะมีพังผืดยึดผิวติดไว้กับกระดูก (Buccal-maxxillary Ligament) คนทุกเพศทุกวัยจึงมีร่องแก้ม แต่พออายุ 25 ปีขึ้นไป ร่องแก้มอาจมองเห็นชัดขึ้น หรือเกิดปัญหาร่องแก้มลึก นั่นเป็นเพราะสาเหตุดังนี้

1. การยุบตัวของกระดูกบริเวณใต้ตา ทำให้เนื้อแก้มด้านบนหย่อนลงมากองที่เหนือร่องแก้ม ร่องแก้มจึงดูลึก มักพบในคนที่อายุ 30 ปีขึ้นไป

2. การยุบตัวของกระดูกบริเวณร่องแก้มโดยตรง จะเป็นรอยข้างแก้มยังไม่ลึกมาก และกระดูกใต้ตายังยุบตัวลงไม่มาก มักพบในคนที่อายุ 20-30 ปี 

3. ร่องแก้มที่เกิดจากการยิ้มบ่อยๆ จนกล้ามเนื้อที่ดึงร่องแก้มแข็งแรงเกินไป จึงเห็นเป็นริ้วรอยข้างแก้มและร่องมุมปาก 

4. ปัจจัยอื่นๆ เช่น ผิวแห้ง ตากแดดบ่อย สูบบุหรี่ ทำให้ชั้นผิวบางลง คอลลาเจนในผิวลดน้อยลง จึงเกิดรอยพับและรอยเหี่ยวย่นได้ง่าย

วิธีการแก้ไขร่องแก้มลึกมีอะไรบ้าง

• ฉีดโบท็อกซ์ (Botox) เพราะโบท็อกซ์มีคุณสมบัติทำให้เกิดการคลายตัวของกล้ามเนื้อ จึงช่วยกระชับแก้มและลดเลือนริ้วรอยได้ แต่การฉีดโบท็อกซ์เพื่อแก้ปัญหาร่องแก้มจะเหมาะกับร่องแก้มตื้นๆ เท่านั้น และหลังฉีดอาจทำให้การยิ้มดูแข็งๆ ไม่เป็นธรรมชาติ 

• ร้อยไหม ถือเป็นอีกวิธีที่จะช่วยยกกระชับหน้าได้อย่างรวดเร็ว แต่ควรเลือกชนิดของไหมให้เหมาะสม และควรทำกับแพทย์ที่เชี่ยวชาญ เพราะหากร้อยไหมผิดวิธีอาจทำให้เกิดพังผืดหรือผิวเป็นคลื่นๆ ในผิวหนังชั้นบนได้ 

• ทำ Hifu สามารถช่วยยกกระชับใบหน้าได้ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ แต่วิธีนี้จะเหมาะสำหรับคนที่มีร่องแก้มไม่ลึกมาก และกลัวการฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่ชัดเจนเท่าการฉีดฟิลเลอร์

• ทำเลเซอร์ (Laser) การทำเลเซอร์สามารถยกกระชับความหย่อนคล้อยของผิวได้ และยังช่วยกระตุ้นการฟื้นฟูผิวลึกถึงระดับเซลล์ แต่ข้อเสียคือมีราคาแพง และมีระยะเวลาอยู่ได้ไม่นาน

• ฉีดไขมัน (Fat injection) เป็นการนำไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้องหรือต้นขาของเราออกมา แล้วนำมาปั่นแยกเป็นของเหลว เพื่อนำไปใช้ฉีดร่องแก้ม ซึ่งผลลัพธ์หลังฉีดอาจไม่ชัดเจน เพราะธรรมชาติของร่างกายคนเรา ไขมันเป็นสารที่ร่างกายดูดซึมไปใช้ได้ 

• ฉีดฟิลเลอร์ (Filler) การฉีดฟิลเลอร์ถือเป็นวิธีแก้ปัญหาร่องแก้มที่ดีและตรงจุดที่สุด เพราะฟิลเลอร์สามารถแก้ไขริ้วรอยร่องลึกได้ทุกสาเหตุ เหมาะสำหรับทั้งคนที่มีร่องแก้มลึกมากและยังไม่ลึกมาก ฉีดแล้วเห็นผลลัพธ์ทันที และอยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน โดยขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ใช้ 

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม คืออะไร ?

ฟิลเลอร์ร่องแก้ม คือ การฉีดสารเติมเต็มกลุ่มไฮยาลูโรนิคแอซิด (Hyaluronic Acid) เพื่อเติมเต็มใต้ผิวหนังบริเวณร่องแก้ม โดยฟิลเลอร์จะทำหน้าที่กักเก็บน้ำและความชุ่มชื้นไว้ในชั้นผิวหนัง พร้อมกับเติมเต็มร่องลึกต่างๆ จึงสามารถใช้แก้ปัญหาการทรุดหรือยุบตัวของกระดูกใบหน้าได้ เหมาะสำหรับใช้แก้ปัญหาร่องแก้มลึก เพราะหลังฉีดเสร็จใบหน้าจะดูสดใส อ่อนเยาว์ ริ้วรอยดูตื้นและจางลงอย่างเป็นธรรมชาติ 

การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม สามารถใช้แก้ปัญหาร่องแก้มลึก ปัญหาแก้มตอบ ช่วยเติมเต็มให้ใบหน้าดูเด็กลง และช่วยยกกระชับผิวให้เต่งตึงและเรียบเนียนขึ้น จุดเด่นของการฉีดฟิลเลอร์คือจะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังทำ ไม่ต้องพักฟื้น และมีความปลอดภัยสูงมาก เพราะฟิลเลอร์เป็นสารที่มีความใกล้เคียงกับสารที่มีตามธรรมชาติในร่างกายของมนุษย์ สามารถสลายเองได้หมด 100% ไม่มีสารตกค้าง

 

 

 

 

ฟิลเลอร์ตัวไหนเหมาะสำหรับการเติมร่องแก้ม

• Restylane Perlane Lyft ฟิลเลอร์มีเนื้อนิ่มและมีความยืดหยุ่นสูงมาก ออกแบบมาเพื่อเติมชั้นผิวบริเวณใบหน้าให้ดูอิ่มฟูมากขึ้น เหมาะสำหรับใช้ฉีดเติมเต็มส่วนที่มีความโหลลึกหรือตอบลง สามารถอยู่ได้นานประมาณ 18 เดือน

• Restylane Refyne ฟิลเลอร์มีเนื้อนิ่มและยืดหยุ่นได้ดี ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาริ้วรอยลึกที่เกิดจากการยิ้ม เหมาะสำหรับใช้เติมเต็มริ้วรอยเล็กๆ อย่างร่องแก้ม ร่องมุมปาก หรือบริเวณที่มีการขยับอยู่เสมอ สามารถอยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน

• Restylane Defyne ฟิลเลอร์มีเนื้อนิ่มปานกลางและมีความยืดหยุ่นสูง ออกแบบมาสำหรับแก้ปัญหาริ้วรอยลึกที่เกิดจากการยิ้ม เหมาะสำหรับใช้เติมเต็มร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก สามารถอยู่ได้นานประมาณ 18 เดือน

• Juvederm Voluma ฟิลเลอร์มีเนื้อแข็งและฟูปานกลาง มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับใช้เติมร่องแก้ม ฉีดแล้วจะดูเป็นธรรมชาติ สามารถอยู่ได้นานประมาณ 18 เดือน

• Juvederm Volift ฟิลเลอร์มีเนื้อนิ่มและมีความละเอียดสูง เหมาะสำหรับใช้ฉีดร่องแก้มที่ไม่ลึกมาก สามารถอยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน

• Juvederm Ultra Plus XC ฟิลเลอร์มีเนื้อนิ่ม กักเก็บน้ำได้ดีมาก ออกแบบมาสำหรับใช้ฉีดร่องแก้มเพราะทนต่อการขยับได้ดี สามารถอยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน

• Juvederm Volux ฟิลเลอร์มีเนื้อแข็ง มีโมเลกุลขนาดใหญ่ มีความยืดหยุ่นสูง และคงรูปได้ดี ออกแบบมาสำหรับใช้ฉีดร่องแก้มชั้นลึก ฉีดแล้วจะเติมเต็มร่องแก้มได้ดี สามารถอยู่ได้นานประมาณ 18-24 เดือน

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มต้องใช้กี่ CC

โดยทั่วไปแล้วมักจะใช้ฟิลเลอร์ 1-2 CC ในกรณีที่มีปัญหาไม่มาก แต่สำหรับเคสที่อายุเยอะๆ (50 ปีขึ้นไป) ปัญหาร่องแก้มลึกเกิดได้จากหลายปัจจัย จึงต้องใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 3-4 CC และอาจต้องทำ Hifu หรือร้อยไหมร่วมด้วยเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด ทั้งนี้แพทย์จะต้องทำการประเมินสภาพผิวและปัญหาผิวก่อนฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งแต่ละเคสอาจมีความแตกต่างกัน

 

 

 

วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม

• งดการบีบ นวด คลึง แกะเกา บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ 2 สัปดาห์ เพื่อไม่ให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตัว

• ภายใน 48 ชม. หลังฉีด ควรเลี่ยงความร้อนทุกชนิด และกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง

• งดทำเลเซอร์ร้อนอย่างน้อย 1 เดือนหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม

• งดการดื่มแอลกฮอล์ และสูบบุหรี่อย่างน้อย 2-3 หลังฉีด 

• ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว เพื่อให้ฟิลเลอร์คงสภาพได้นานขึ้น

• ควรทาครีมกันแดดทุกวัน และเลี่ยงการโดนแสงแดดในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์

• งดการแสดงสีหน้าเยอะๆ ในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังฉีด เพราะการหัวเราะแรงๆ อาจทำให้กล้ามเนื้อดึงฟิลเลอร์ให้ออกนอกบริเวณร้องแก้มได้ 

• งดทำกิจกรรมที่ทำให้ใบหน้าร้อน 2 สัปดาห์ เช่น อาบน้ำอุ่น อบไอน้ำ อบซาวน่า ใช้ไดร์เป่าผม

• หากมีอาการผิดปกติ เช่น ปวด บวม แดง หรือแสบร้อน บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วเป็นก้อน เกิดจากอะไร แก้ไขได้ไหม ?

เมื่อฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วเป็นก้อน อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้

1. เลือกใช้ฟิลเลอร์ไม่เหมาะสม เพราะฟิลเลอร์แต่ละรุ่นจะมีความแตกต่างกัน หากเลือกใช้ฟิลเลอร์ไม่เหมาะสมก็จะทำให้ฉีดออกมาแล้วเป็นก้อนได้ เช่น ฟิลเลอร์ที่มีขนาดโมเลกุลหนาแน่นสูง ควรฉีดในผิวชั้นลึก แต่ถ้านำไปฉีดในผิวชั้นตื้นก็จะทำให้ฉีดแล้วเป็นก้อนได้

2. ใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ผ่าน อย. หรือใช้ฟิลเลอร์ปลอม เพราะฟิลเลอร์จะไม่สลายไปเองเหมือนฟิลเลอร์แท้ ทำให้เป็นก้อนหรือแก้มห้อยย้อยลงมาได้ 

3. แพทย์ไม่เชี่ยวชาญในการฉีดฟิลเลอร์ หากฉีดกับแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญ หรือฉีดกับหมอกระเป๋า หมอปลอม ก็อาจทำให้ฉีดออกมาแล้วเป็นก้อน ควรเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเพราะจะมีความเข้าใจในโครงสร้างสรีรวิทยาของร่างกาย และมีเทคนิคในการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มให้ออกมาดูเป็นธรรมชาติ 

4. ฉีดฟิลเลอร์ผิดตำแหน่ง คือฉีดฟิลเลอร์ไม่ตรงกับตำแหน่งที่มีปัญหา เช่น ฉีดผิดชั้นผิว ทำให้ฟิลเลอร์ไปกองเป็นเนื้อเหนือร่องแก้ม หรือใช้ปริมาณฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสมในจุดที่ฉีด ก็อาจทำให้ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนได้ 

 

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มแล้วเป็นก้อนจะแก้ไขได้ไหม แก้ยังไง 

หากฉีดฟิลเลอร์แท้จะสามารถแก้ได้ด้วยการใช้สารไฮยาลูโรนิเดส  (Hyaluronidase:HYAL) ฉีดเพื่อสลายฟิลเลอร์ โดยแพทย์จะต้องทำการประเมินสภาพผิวหน้าและปัญหาก่อนเพื่อคำนวณปริมาณตัวยาที่จะใช้ฉีด หลังฉีดจะเห็นผลทันทีในบางส่วน และจะเห็นผลอย่างต่อเนื่องใน 3-7 วัน ส่วนกรณีที่ใช้ฟิลเลอร์ปลอม จะไม่สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ จำเป็นต้องใช้วิธีขูดฟิลเลอร์ หรือผ่าตัดเพื่อเอาฟิลเลอร์ออกเท่านั้น และต้องทำโดยศัลยแพทย์ในโรงพยาบาล

ปัญหาร่องแก้มลึก มีริ้วรอยที่ร่องแก้ม สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เพราะสารเติมเต็มไฮยาลูโรนิคแอซิด (Hyaluronic Acid) ในฟิลเลอร์จะช่วยเติมเต็มชั้นผิว ช่วยเติมเต็มร่องลึกต่างๆ และลดเลือนริ้วรอยให้ดูตื้นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยสามารถใช้แก้ปัญหาร่องแก้มลึกได้ทุกสาเหตุ หลังฉีดเสร็จจะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงทันทีว่าใบหน้าดูเด็กลง ร่องแก้มดูตื้นขึ้น ผิวดูเต่งตึง เรียบเนียน และสดใสมีออร่ามากขึ้น การฉีดฟิลเลอร์จึงเป็นที่นิยมมากเพราะไม่ต้องพักฟื้นและไม่เจ็บตัวเหมือนการทำศัลยกรรม แถมยังเป็นวิธีที่มีความปลอดภัยสูงมาก ทั้งนี้ก่อนฉีดควรเลือกใช้คลินิกที่มีมาตรฐาน มีแพทย์ที่เชี่ยวชาญในการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม และต้องให้แพทย์ประเมินสภาพผิวก่อนฉีดว่าเราควรใช้ฟิลเลอร์ตัวไหน ใช้ปริมาณเท่าไหร่ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาตรงตามที่ต้องการ ดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน

 

 

คลิกอ่านเกี่ยวข้องเพิ่มเติมได้ที่

• ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เลือกยี่ห้อไหนดี ? bit.ly/40crOEw

• ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน เกิดจากอะไร แก้ไขอย่างไรได้บ้าง ? bit.ly/3D0zyzz

• เช็คก่อนฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดีปลอดภัย 5 check list ก่อนฉีด bit.ly/3HGu9jV

• ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน เกิดจากอะไร แก้ไขอย่างไรได้บ้าง bit.ly/3HGu9jV

• คลิกอ่านบทความ โบท๊อกซ์กับฟิลเลอร์แตกต่างกันอย่างไร https://bit.ly/31rIoCt

• 10 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา bit.ly/3RhUyaT

• ฉีดฟิลเลอร์ Restylane เติมเต็มทุกปัญหาใต้ตา แก้ร่องใต้ตาลึก https://shorturl.asia/GwWpu

ฝากกดติดตามสาระดีๆเกี่ยวกับความงาม

กดติดตามเพจ FB https://www.facebook.com/charmerclinic2you/

กดติดตาม Tiktok https://www.tiktok.com/@charmerclinic

กดติตตามช่อง Youtube https://bit.ly/2PZiVeR

กดติดตาม IG https://bit.ly/2PYXTwY

กดติดตาม Twitter https://twitter.com/CharmerClinic

กดอ่านบทความดีๆอัพเดท https://charmerclinic2you.com/