ไม่มีความเห็น

รักษาสิวที่หลังด้วยเลเซอร์จะเห็นผลได้จริงไหม?

Table of Contents

ปัญหาสิวที่หลังเมื่อเกิดขึ้นแล้วก็มักไม่หายขาด และยังชอบทิ้งรอยแดงรอยดำจากสิวให้เราไม่มั่นใจที่จะแต่งตัวแบบโชว์แผ่นหลังอีกด้วย ส่วนสาเหตุที่ทำให้มีสิวขึ้นที่หลังมักเกิดจากรูขุมขนอุดตันด้วยแบคทีเรีย ความมัน และเซลล์ผิวที่ตายแล้ว หากสิวขึ้นที่หลังไม่กี่เม็ดก็สามารถรักษาได้ด้วยตัวเอง แต่หากเป็นสิวรุนแรงหรือมีปัญหาเรื้อรังไม่หายซักทีล่ะ? 

 

การรักษาสิวที่หลังนั้นทำได้หลายวิธี ตั้งแต่การทาครีม ทานยา ใช้กรด AHA และการทำเลเซอร์เพื่อรักษาสิว ซึ่งการทำเลเซอร์ถือเป็นวิธีรักษาสิวที่หลังที่ดีสุดและเห็นผลลัพธ์อย่างรวดเร็วมากค่ะ แต่หลายคนก็อาจยังลังเลว่าจริงเหรอ? บทความนี้มีคำตอบให้ครบจบทุกเรื่อง ตั้งแต่สาเหตุของการเกิดสิวที่หลัง ชนิดของสิวที่หลัง วิธีรักษาสิวที่หลัง เลือกใช้เลเซอร์แบบไหนดี ต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล ข้อดี-ข้อเสียการทำเลเซอร์สิวที่หลัง และวิธีดูแลตัวเองไม่ให้เกิดสิวที่หลังขึ้นใหม่ 

 

 

สาเหตุของการเกิดสิวที่หลัง

 

สาเหตุของการเกิดสิวที่หลัง คืออะไร?
ในร่างกายของคนเราจะมีต่อมน้ำมันใต้รูขุมขน ซึ่งเจ้าต่อมนี้จะคอยผลิตน้ำมันที่เรียกว่า “ซีบัม (Sebum)” เพื่อสร้างความชุ่มชื้นให้กับเส้นผมและผิวหนัง เมื่อเซลล์ผิวหนังที่ตายหรือเสื่อมสภาพไปรวมกับน้ำมันชนิดนี้ ก็จะทำให้เกิดการอุดตันที่รูขุมขนส่งผลให้เกิดสิวขึ้นได้ แล้วก็ยังมีสาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้เกิดสิวที่หลังอีก ได้แก่  
  • ฮอร์โมน เมื่อฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลงก็มักจะมีสิวชึ้นได้ เช่น มีประจำเดือน ตั้งครรภ์
  • กรรมพันธุ์ หากคนในครอบครัวเคยมีปัญหาเรื่องสิวมาก่อน เราก็อาจจะเป็นได้ เพราะปัญหาสิวสามารถส่งผ่านจากกรรมพันธุ์ของครอบครัวได้ 
  • เหงื่อ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดสิวได้ เมื่อเหงื่อออกในเสื้อก็จะทำให้เกิดการหมักหมมและมีสิวขึ้นที่หลัง
  • อาหาร มีผลวิจัยมากมายที่ยืนยันแล้วว่าการทานอาหารที่มีรสหวาน ของทอด ของมัน รวมไปถึงนมวัว อาจทำให้เป็นสิวได้ เพราะอาหารพวกนี้จะไปเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว
  • ยา ผลข้างเคียงจากยาบางชนิดอาจทำให้เกิดสิวขึ้นได้ เช่น ยารักษาอาการซึมเศร้า 
  • ความเครียด ถือเป็นปัจจัยที่มีส่วนทำให้เกิดสิว แต่ไม่ใช่สาเหตุหลักที่ส่งผลกระทบโดยตรงคลิปอ่านบทความของสาเหตุการเกิดสิวที่หลังเพิ่มเติมได้ที่นี้ค่ะ

 

สิวที่หลังมีกี่ชนิด ,สิวหัวดำ ,สิวหัวแดง
สิวที่หลังมีกี่ชนิด ,สิวหัวดำ ,สิวหัวแดง

 

สิวที่หลังมีกี่ชนิด
  • สิวอุดตันหรือสิวหัวขาว (Whitehead) เป็นสิวที่เกิดจากหัวสิวที่อุดตันอยู่ในรูขุมขนจนเติบโตเป็นหัวสิวสีขาว
  • สิวหัวดำ (Blackhead)  เป็นสิวที่เกิดจากการอุดตันของรูขุมขนที่เปิดอยู่บริเวณผิวหนัง สิวหัวดำไม่ได้เกิดจากสิ่งสกปรกไปอุดตันรูขุมขน แต่เกิดจากปฏิกิริยาของไขมันและอากาศ
  • สิวอักเสบแบบตุ่มนูนแดง (Papule) เป็นสิวที่มีสีชมพูขนาดเล็ก เกิดจากการอักเสบของสิวอุดตัน เป็นสิวชนิดที่ไวต่อการสัมผัส อาจติดเชื้อรุนแรงขึ้นหรือเป็นแผลเป็นได้หากไปแงะ แกะ หรือบีบ
  • สิวอักเสบแบบหัวหนอง (Pustule) เป็นสิวอักเสบชนิดหนึ่ง อาจมีหัวสิวเป็นหนองสีขาวหรือสีเหลือง สิวชนิดนี้เกิดจากการรวมตัวของสิวหัวขาวและอาการแดงบริเวณรอบๆ หัวสิว ไม่ควรไปบีบหรือแงะเพราะจะทำให้เป็นจุดด่างดำหรือแผลเป็นได้
  • สิวอักเสบแดงแบบก้อนลึก (Nodule) เป็นสิวที่เติบโตอยู่ภายใต้ผิวหนัง มีขนาดใหญ่ แข็ง อักเสบ และมักจะมีอาการเจ็บหรือปวดร่วมด้วย
  • สิวหัวช้างหรือสิวซีสต์ (Cystic) เป็นสิวที่มีขนาดใหญ่ มีหนอง มีอาการเจ็บหรือปวดร่วมด้วย สิวชนิดนี้มักจะทิ้งแผลเป็นไว้ให้ เพราะถือเป็นสิวระดับรุนแรง
วิธีรักษาสิวที่หลังมีกี่แบบ ทำอย่างไรได้บ้าง?
  1. การรักษาด้วยครีม
    มีครีมหรือยารักษาสิวที่ใช้รักษาสิวที่หลังหลายกลุ่ม เช่น ยาทาที่เป็นยาปฏิชีวนะ มีทั้งแบบครีม โลชั่น และเจล มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว แต่ข้อเสียคือถ้าใช้แค่ตัวเดียวอาจทำให้เกิดการดื้อยาได้ จึงควรใช้ร่วมกับยาทาในกลุ่มอื่นๆ เช่น ยากลุ่ม Benzoyl Peroxide ที่มีคุณสมบัติช่วยลดการอุดตันของสิว แต่อาจมีผลข้างเคียงคือเกิดการระคายเคืองที่ผิวหนัง ทำให้เกิดรอยแดงหรือผิวแห้งแสบลอกได้ 
หรืออีกหนึ่งทางเลือกคือผลิตภัณฑ์ ที่พัฒนามาเพื่อดูแล สิวที่หลังโดยเฉพาะ แต่ก็อาจจะต้องใช้ระยะเวลาและขึ้นอยู่กับว่า สิวแบบไหน ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ประหยัด

 

เจลอาบน้ำรักษาสิวหลัง
สเปรย์ลดสิวหลัง
เซรั่มลดรอยสิวที่หลัง
สั่งซื้อได้ที่ https://tinyurl.com/2b4xnfjm
    

 

  1. การรักษาด้วยเลเซอร์ 
ถือเป็นวิธีรักษาสิวที่เหมาะกับคนที่ต้องการรักษาสิวที่หลังอย่างเร่งด่วน หรือคนที่มีปัญหาสิวที่หลังมาอย่างยาวนานเพราะเห็นผลเร็วและดีที่สุดค่ะ 
  • IPL Laser เป็นลำแสงที่มีลักษณะคลื่นเหมือนแสงแฟลช สามารถช่วยฆ่าเชื้อสิวได้ดี ช่วยลดการอักเสบของผิวได้ และยังช่วยลดรอยดำ รอยแดงที่เกิดจากสิวได้ด้วย เหมาะกับคนที่เป็นสิวอักเสบที่หลังเยอะๆ เพราะจะช่วยบรรเทาอาการเจ็บได้ดี คลิกอ่าน IPL Laser คืออะไร?
  • Q-Switch Laser เป็นเลเซอร์ที่มีความเข้มข้นและความหนาแน่นสูง สามารถช่วยลดการสร้างเม็ดสีและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนังแท้ได้ดี จึงช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสและเรียบเนียนมากขึ้น ช่วยลดรอยสิวได้ดีมาก เหมาะสำหรับคนที่มีรอยสิวที่หลังเยอะๆ 
  • Diode (ไดโอด) เป็นเทคโนโลยีเลเซอร์ที่ทันสมัย เพราะเป็นหัวเย็น ผิวไม่เบิร์น และไม่เจ็บ โดยเป็นเลเซอร์ที่มีหลายความยาวคลื่นความยาวแสงสามารถเข้าไปทำลายโดยไม่ทำลายเม็ดสีเมลานินในผิวหนัง คลิกอ่านกําจัดขน Diode laserดีไหม
  • PICO Laser เป็นเลเซอร์สุดล้ำที่เหมาะสำหรับใช้รักษาปัญหาผิวต่างๆ โดยเฉพาะปัญหาฝ้ากระและจุดด่างดำ เพราะเป็นเลเซอร์ที่ใช้พลังงานสูง คลิกอ่านPico laser  ทำที่ไหนดี

 

  1. การรักษาด้วยกรด AHA
กรดผลไม้ AHA หรือกรดอัลฟาไฮดรอกซี (Alpha Hydroxy Acids) คือ สารสกัดจากธรรมชาติที่มีฤทธิ์เป็นกรด เช่น กรดซีตริกจากมะนาวหรือส้ม กรดแลคติกจากนมเปรี้ยว เป็นต้น กรด AHA มีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิว และกระตุ้นให้เกิดเซลล์ผิวใหม่บริเวณหนังกำพร้า จึงช่วยรักษารอยดำรอยแดงและทำให้หลุมสิวดูตื้นขึ้น ในขณะที่ทากรด AHA อาจรู้สึกแสบยิบๆ และอาจเกิดการระคายเคือง บวม แดง คัน หรือผิวแห้งลอกได้หากมีผิวแพ้ง่าย และหลังทำผิวจะไวต่อแดดมากๆ จึงควรเลี่ยงการโดนแสงแดดและควรทาครีมกันแดดเสมอ
  1. การทานยา
การทานยาเพื่อรักษาสิวที่หลังจะต้องให้แพทย์ทำการประเมินก่อน ซึ่งมักใช้ในกรณีที่มีสิวอักเสบแบบรุนแรง โดยจะให้ทานยาปฏิชีวนะและยาในกลุ่มอนุพันธ์ของวิตามินเอ ซึ่งจะให้ผลดีในการรักษาสิว แต่มีผลข้างเคียงคือทำให้ริมฝีปากแห้ง ผิวแห้ง ตาแห้ง และอาจทำให้ระดับไขมันในร่างกายหรือการทำงานของตับผิดปกติ ทั้งนี้การรักษาด้วยการทานยาจำเป็นต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์เสมอ 

 

 

การเลเซอร์สิวที่หลังที่ Charmer Clinic มีกี่ขั้นตอน
Charmer Clinic มีโปรแกรมรักษาสิวที่หลังโดยเฉพาะ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวที่หลังมาอย่างยาวนานและเรื้อรัง โดยจะใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูงในการรักษาสิวพร้อมกับรักษารอยสิวให้ดูจางลงไปด้วย โปรแกรมนี้จะมีทั้งหมด 3 ขั้นตอน ได้แก่
IPL Laser
IPL Laser เลเซอร์ IPL

 

  1. IPL Laser
การทำเลเซอร์ด้วยระบบลำแสงฟลูออเรสเซนต์ที่มีความเข้มข้นสูงผ่านสารกรองพิเศษเพื่อตัดแสง UV โดยจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของลำแสงด้วยระบบพลาสมาไลท์ (Plasmalite) จึงช่วยรักษาปัญหาสิว รอยแดง รอยดำจากสิวได้ดี ทำให้ผิวดูกระจ่างใส ช่วยกระชับรูขุมขนทำให้ผิวผลิตน้ำมันได้น้อยลง และยังช่วยฆ่าเชื้อสิวที่หลัง พร้อมลดสิวที่หลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่ทำจะไม่รู้สึกเจ็บหรือแสบใดๆ เลยค่ะ
Mask , Mask สิวหลัง
Mask , Mask สิวหลัง

 

  1. Mask
เมื่อทำ IPL เสร็จแล้ว ขั้นตอนต่อมาจะทำการมาส์กหลังเพื่อลดสิว โดยจะเป็นมาส์กสูตรพิเศษที่ทาง Charmer Clinic คิดค้นขึ้นมาเพื่อใช้รักษาสิวที่หลังโดยเฉพาะ ซึ่งจะมีส่วนผสมของวิตามินต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อผิว ช่วยลดการอักเสบของสิว ลดรอยแดง รอยดำที่เกิดจากสิวให้ดูจางลง การมาส์กหลังเพื่อรักษาสิวจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาให้เห็นผลที่ดียิ่งขึ้น ในขณะที่ทำจะรู้สึกเย็นๆ และผ่อนคลายผิวสุดๆ เลยค่ะ

 

LED ,ฉายแสงฆ่าเชื้อสิว

 

  1. LED
ขั้นตอนที่ 3 คือการทำ LED Light หรือการรักษาด้วยการฉายแสง LED ที่มีหลายสี ได้แก่ แสงสีฟ้า (Blue light) แสงสีเขียว (Green light) แสงสีเหลือง (Yellow light) และแสงสีแดง (Red light) ซึ่งแสงแต่ละสีก็จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันและช่วยรักษาปัญหาผิวที่แตกต่างกันไป จุดเด่นของ LED Light คือสามารถช่วยลดการอักเสบของผิว ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียหรือ P.Acne ที่ทำให้เกิดสิวได้ ช่วยรักษาสิวอุดตัน สิวอักเสบให้ยุบหรือแห้งเร็วขึ้น และยังช่วยกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนมากขึ้น จึงช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนและกระจ่างใสทันทีหลังทำเสร็จ 
ในขณะที่ทำ LED จะไม่รู้เจ็บหรือแสบร้อนใดๆ สามารถนอนทำได้ชิลล์ๆ เลยค่ะ แถมยังมีงานวิจัยยืนยันด้วยว่าแสง LED มีผลกับผิวถึงในระดับเซลล์ โดยจะช่วยลดการอักเสบของผิว พร้อมกับช่วยฟื้นฟูให้ผิวมีการสร้างคอลลาเจน ทำให้แผลเป็นจากสิวหายได้เร็วขึ้น ถือเป็นวิธีรักษาสิวที่หลังที่เห็นผลเร็ว ไม่มีผลข้างเคียง และไม่ต้องพักฟื้นด้วยค่ะ

 

 

เครื่องเลเซอร์สิวที่หลังแบบไหนดี
เครื่องเลเซอร์สิวที่หลังแบบไหนดี

 

 

เครื่องเลเซอร์สิวที่หลังมีกี่แบบ เลือกแบบไหนดี
Q-Switch Laser เป็นเลเซอร์ที่ใช้คลื่นแสงที่มีความเข้มข้นและความหนาแน่นสูง โดยจะปล่อยพลังงานแสงออกมาเพื่อทำให้เซลล์เม็ดสีแตกตัว ส่งผลให้เม็ดเลือดขาวดูดซึมหรือย่อยสลายเม็ดสีที่ผิดปกติ ซึ่งจะช่วยลดการสร้างเม็ดสีและยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินในชั้นผิวหนังแท้อีกด้วย 
  • จุดเด่นของการทำ Q-Switch Laser คือ ผิวที่สร้างใหม่จะดูกระจ่างใสและเรียบเนียนขึ้น โดยที่ไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงใด ๆ จึงเหมาะสำหรับใช้ในการรักษารอยสิว รอยแดง และรอยแผลเป็นมากๆ แต่ถ้ามีสิวอักเสบรุนแรงเยอะๆ ก็อาจจะไม่เหมาะกับการใช้เลเซอร์ชนิดนี้
IPL Laser หรือ Intense Pulsed Light เป็นเทคโนโลยีที่นำพลังงานแสงความเข้มข้นสูงที่มีความถี่คลื่นแสงหลายช่วงคลื่น ซึ่งจะมีลักษณะคลื่นเหมือนแสงแฟลชเวลาถ่ายรูป เมื่อยิง IPL ลงไปบนผิว เซลล์เม็ดสีในผิวจะดูดซึมพลังงานแสงและเปลี่ยนเป็นความร้อน ส่งผลให้เม็ดสีที่เป็นสาเหตุของจุดด่างดำและริ้วรอยถูกทำลาย IPL จะกระจายตัวได้ดีและมากกว่าแสงเลเซอร์  จึงช่วยปรับให้ผิวดูเรียบเนียน ช่วยลดรอยสิวและจุดด่างดำได้ดีมาก 
  • จุดเด่นของการทำ IPL คือ คลื่นแสง IPL จะกระจายตัวและซึมเข้าไปยังชั้นผิวหนังแท้โดยไม่ทำลายหนังกำพร้าหรือผิวหนังชั้นนอก หลังทำเสร็จก็สามารถใช้ชีวิตและทำกิจกรรมได้ตามปกติ โดยที่ไม่ต้องพักฟื้น และยังช่วยฆ่าเชื้อสิวได้ดี ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวดูเนียน กระจ่างใส และสุขภาพดีขึ้น  

 

 

Diode (ไดโอด) เป็นเทคโนโลยีเลเซอร์ที่ทันสมัย เพราะเป็นหัวเย็น ผิวไม่เบิร์น และไม่เจ็บ โดยเป็นเลเซอร์ที่มีหลายความยาวคลื่นความยาวแสงสามารถเข้าไปทำลายโดยไม่ทำลายเม็ดสีเมลานินในผิวหนัง ที่สำคัญยังสามารถช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิว และช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น

 

  • จุดเด่นของDiode (ไดโอด) คือ มีความอ่อนโยนต่อผิวมากๆ ไม่เบิร์นผิว และเป็นเลเซอร์ที่มีความปลอดภัยสูง เลเซอร์ไม่ทำลายเม็ดสีเมลานินในผิวหนัง ทำให้ผิวไม่ไหม้หรือแสบร้อนหลังทำ มีระบบทำความเย็น ช่วยให้ไม่รู้สึกเจ็บ และช่วยให้ระหว่างที่ทำไม่เกิดการบาดเจ็บของผิวหนัง

 

 

PICO Laser หรือ Picosecond Laser เป็นเลเซอร์สุดล้ำที่เหมาะสำหรับใช้รักษาปัญหาผิวต่างๆ โดยเฉพาะปัญหาฝ้ากระและจุดด่างดำ เพราะเป็นเลเซอร์ที่ใช้พลังงานสูง โดยสามารถส่งผ่านพลังงานได้ในระดับ 1 ต่อล้านล้านวินาที จึงถือเป็นเลเซอร์ที่มีพลังงานแรงกว่าเลเซอร์แบบอื่นๆ เมื่อยิงเข้าไปที่ผิวจะทำให้เม็ดสีแตกตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
  • ข้อดี ของการทำ Pico Laser คือ ใช้เวลาในการรักษาปัญหาผิวน้อยกว่าเลเซอร์แบบอื่น โดยจะเห็นถึงผลลัพธ์ที่แตกต่างหลังทำทันที และไม่ก่อให้เกิดความร้อนสะสมบริเวณใต้ผิว แถมเลเซอร์ยังช่วยไปกระตุ้นให้ผิวหนังสร้างอิลาสตินและคอลลาเจนใหม่อีกด้วย
  • ข้อเสีย ราคาค่อนข้างสูง และหลังใช้จำนวนช๊อตเยอะมาก ทำให้ค่าใช้จ่ายในการรักษาแต่ละครั้งนั้นสูง และหากยังมีสิวอยู่ไม่แนะนำอาจจะทำให้สิวเห่อขึ้นมาได้ เหมาะกับการ รักษารอยดำจากสิว
รีวิวรักษาสิวหลัง , รีวิวเลเซอร์สิวหลัง , รักษาสิวหลัง
รีวิวรักษาสิวหลัง , รีวิวเลเซอร์สิวหลัง , รักษาสิวหลัง

 

รีวิวรักษาสิวหลัง , รีวิวเลเซอร์สิวหลัง , รักษาสิวหลัง
รีวิวรักษาสิวหลัง , รีวิวเลเซอร์สิวหลัง , รักษาสิวหลัง

 

รีวิวรักษาสิวหลัง , รีวิวเลเซอร์สิวหลัง , รักษาสิวหลัง
รีวิวรักษาสิวหลัง , รีวิวเลเซอร์สิวหลัง , รักษาสิวหลัง
ต้องทำเลเซอร์กี่ครั้งถึงจะเห็นผล
หลังจากทำการรักษาครั้งแรกก็จะเห็นถึงผลลัพธ์ทันที 10-30% ว่าสิวที่หลังดูลดลงและผิวดูเรียบเนียนมากขึ้น โดยควรทำต่อเนื่องอย่างน้อย 3-6 ครั้ง เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและความรุนแรงของสิวในแต่ละคน รวมถึงการดูแลตัวเองหลังทำด้วย หากสนใจก็สามารถเข้ามาปรึกษาเพื่อให้แพทย์ประเมินการรักษาก่อนได้ค่ะ 
ข้อดีข้อเสียของการเลเซอร์สิวหลัง
ข้อดีข้อเสียของการเลเซอร์สิวหลัง

 

ข้อดี-ข้อเสียของการเลเซอร์สิวที่หลัง
ข้อดี
  • ช่วยรักษาสิวให้หายได้ไวกว่าการรักษาด้วยวิธีอื่น
  • เห็นผลเร็ว และสามารถช่วยรักษารอยดำรอยแดงของสิวได้ด้วย
  • ช่วยลดการสร้างเม็ดสี และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนังให้มากขึ้น
  • หลังการรักษาไม่ต้องนอนพักฟื้น สามารถกลับบ้านและทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติ
  • เป็นวิธีรักษาสิวที่หลังที่เหมาะสำหรับคนที่ไม่สะดวกทาครีมบนแผ่นหลัง
ข้อเสีย
  • ค่าใช้จ่ายในการรักษาสูง 
  • ต้องเข้ารับการรักษาหลายครั้งและต่อเนื่อง 
  • ช่วงแรกๆ หลังการรักษาผิวบริเวณแผ่นหลังอาจระคายเคืองง่าย ควรหลีกเลี่ยงการออกแดดหรือทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานาน
วิธีการดูแลไม่ให้เกิดสิวหลัง
วิธีดูแลไม่ให้เกิดสิวที่หลังขึ้นใหม่
การดูแลรักษาความสะอาดคือคีย์หลักที่จะช่วยไม่ให้เกิดสิวที่หลังได้ และเวลาที่มีสิวขึ้นก็ไม่ควรไปแคะ แกะ เกา หรือบีบสิวที่หลัง เพราะจะทำให้เกิดแผลเป็นและสิวอาจลุกลามหรืออักเสบมากขึ้นได้ นอกจากการรักษาความสะอาดแล้วก็ต้องคอยดูแลตัวเองตามนี้ควบคู่ไปด้วยค่ะ
  • เลี่ยงการใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นเกินไป เพื่อลดการหมักหมมและอับชื้น 
  • ใส่เสื้อผ้าที่พอดีกับตัว เพราะจะช่วยให้ระบายเหงื่อได้ดีและยังทำให้ผิวที่หลังรู้สึกผ่อนคลายอีกด้วย
  • เลือกผ้าที่เบาสบาย อย่างผ้าฝ้ายหรือผ้าลินิน ที่มีคุณสมบัติไม่อับชื้น ช่วยระบายอากาศและเหงื่อได้ดี
  • ควรอาบน้ำทุกวัน วันละ 2 ครั้ง และควรทำความสะอาดผิวบริเวณหลังอย่างเบามือ 
  • ไม่ควรแคะ แกะ เกา และขัดผิวหนังอย่างรุนแรง เพราะจะทำให้ผิวอักเสบมากกว่าเดิม
  • สครับผิวสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อขจัดสิ่งสกปรกที่อุดตันในรูขุมขน โดยควรทำอย่างเบามือ
  • ควรใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน (Oil free) เพราะจะช่วยลดการอุดตันของรูขุมขนได้
  • แชมพูและครีมนวดผมควรเลือกใช้แบบ Silicone free หรือ Sulfate free เพื่อลดการระคายเคืองของผิว
  • เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ธััญพืช ผักผลไม้ และควรลดการทานของหวาน ของมัน ของทอด
  • หลังออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมที่มีเหงื่อออกเยอะๆ เมื่อพักจนหายเหนื่อยแล้วควรรีบไปอาบน้ำ เพื่อลดเหงื่อที่สะสมและป้องกันไม่ให้เกิดสิว
สำหรับคนที่สงสัยว่ารักษาสิวที่หลังด้วยเลเซอร์แล้วจะเห็นผลจริงไหม ขอสรุปให้สั้นๆ ปิดท้ายว่า เห็นผลจริงค่ะ เพราะการทำเลเซอร์ถือเป็นวิธีรักษาสิวที่หลังที่ดีและเห็นผลเร็วที่สุด นอกจากจะช่วยลดการอักเสบของผิวได้แล้ว ยังช่วยลดการสร้างเม็ดสี ช่วยลดรอยแดงรอยดำของสิวได้ดีมาก และยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวให้มากขึ้นอีกด้วย มาบอกลาปัญหาสิวที่หลังด้วยโปรแกรมรักษาสิวที่ Charmer Clinic ซึ่งจะช่วยให้ทุกคนได้มีผิวที่เรียบเนียนไร้สิว และมั่นใจมากขึ้นแบบเต็มสิบไม่หักค่ะ!

 

 

 

Charmer clinic รักษาสิวที่หลัง
Charmer clinic , รักษาสิวที่หลัง

 

Charmerclinic

คลิกอ่านเกี่ยวข้องเพิ่มเติมได้ที่

 

ฝากกดติดตามสาระดีๆเกี่ยวกับความงาม
กดติดตามเพจ FB https://www.facebook.com/charmerclinic2you/
กดติดตาม Tiktok https://www.tiktok.com/@charmerclinic
กดติตตามช่อง Youtube https://bit.ly/2PZiVeR
กดติดตาม IG https://bit.ly/2PYXTwY
กดติดตาม Twitter https://twitter.com/CharmerClinic
กดอ่านบทความดีๆอัพเดท https://charmerclinic2you.com/
Click to rate this post!
[Total: 66 Average: 1.1]
Share this

“ความสวยของคุณ คือเป้าหมายของเรา”

จองคิวที่ call center 085-9192768

สาขารัชดา โทร 094-5598748
สาขาอุดมสุข(บางนา) โทร 095-521-0666
สาขาเพชรเกษม 69 โทร 095-058-3666
สาขารังสิต โทร 094-696-5322
สาขาอโศก-สุขุมวิท โทร 093-241-4969
สาขาพรอมานาด โทร 098-154-4454
สาขาเมเจอร์ปิ่นเกล้า โทร 083-978-0666
สาขาราชพฤกษ์ โทร 096-016-1666 

ท่านสามารถแสดงความคิดเห็นที่ข้อสงสัยได้ที่ด้านล่างนี้

บทความที่น่าสนใจ