หากพูดถึงการเสริมความงามบนใบหน้าแล้วนั้น คาง คงเป็นหนึ่งในตัวเลือกของใครหลายคน ด้วยความที่ต้องการหน้าสวย เรียว วีเชฟ มองมุมไหนก็เกิด แต่ก็มีคำถามอีกว่าจะเลือกทำแบบไหนดี ระหว่าการผ่าตัดเสริมคางซิลิโคน ที่เจ็บปวดหนักเอาการ กับ ฉีดฟิลเลอร์คาง เจ็บเบา ๆ แป๊ป ๆ เดียวก็สวย คิดแล้วปวดหัว ลองมาดูกันว่าทั้ง 2 แบบนั้น มีจุดเด่น จุดด้อยอะไร แล้วเรานั้นเหมาะกับแบบไหน
เสริมมคางแบบซิลิโคน
เป็นการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมคางโดยการใช้ซิลิโคน เพื่อปรับเปลี่ยนรูปหน้าทำให้ใบหน้าดูเรียวเล็กลง โดยแพทย์จะใส่ซิลิโคนแท่งถือเป็นวิธีที่ปลอดภัย ได้มาตรฐาน เป็นซิลิโคนชนิดเดียวกับที่ใช้ในการเสริมจมูก มีทั้งแบบที่ขึ้นรูปมาแล้วจากโรงงานแล้วนำมาตกแต่งนิดหน่อยก่อนเสริมเข้าไป และชนิดที่แพทย์ต้องเหลารูปขึ้นมาเองให้เหมาะสมกับคนไข้แต่ละคน ขึ้นอยู่กับความถนัดของแพทย์ว่าจะใช้แบบไหน
การ เสริมคาง ด้วยซิลิโคน ทำได้ 2 วิธี คือ
1.การเปิดแผลภายนอก แต่ความนิยมจะน้อยกว่าเพราะมักจะหลงเหลือแผลเป็นเอาไว้ หลังจากที่แผลหายสนิทแล้วโดยแพทย์จะเปิดแผลที่บริเวณใต้คาง
ข้อดี
– มีโอกาสติดเชื้อน้อยกว่าการเปิดแผลในช่องปาก
– กล้ามเนื้อและเส้นประสาทได้รับการกระทบกระเทือนค่อนข้างน้อย เพราะแพทย์สามารถหลีกเลี่ยงกล้ามเนื้อและเส้นประสาทเพื่อเข้าสู่ขอบล่างของกระดูกกรามได้โดยตรง
– เมื่อเกิดปัญหาซิลิโคนเบี้ยวหรือเอียงจะแก้ไขได้ง่ายกว่า เพราะสามารถผ่าตัดซ้ำที่แผลภายนอกได้เลย
สามารถวางตำแหน่งซิลิโคนได้ง่าย
ข้อเสีย
– มีแผลเป็นเล็กน้อย ยาวประมาณ 2-3 เซนติเมตร
– การเปิดแผลภายนอกไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นแผลเป็นนูนหรือคีลอยด์ (Keloid)
2.การเปิดแผลในปาก โดยเปิดแผลที่ด้านในของปาก ตรงซอกเหงือกกับริมฝีปากล่าง ความยาวของแผลราว 2-3 ซม. ตรงบริเวณของเหงือก กับริมฝีปากล่างซึ่งถือว่าเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมสูง เพราะจะทำให้ไม่เห็นแผลเป็นที่เกิดขึ้นจากการผ่าตัด เพราะการทำผ่าตัดในช่องปาก
ข้อดี
ไม่มีแผลเป็น เพราะมองไม่เห็นแผลจากภายนอก
ข้อเสีย
– แม้มองไม่เห็นแผลภายนอก แต่แผลในปากที่อยู่ติดกับร่องเหงือกจะไม่ค่อยสวยและเห็นชัด
– มีโอกาสติดเชื้อสูง เพราะในช่องปากมีน้ำลายตลอดเวลา และตอนทานอาหาร เศษอาหารอาจตกลงไปตามขอบแผลได้
– การวางซิลิโคนไว้ให้ติดกับกระดูกกรามล่างนั้น มีโอกาสเคลื่อนที่และไม่ตรงกับตำแหน่งที่ต้องการได้
– อาจเกิดปัญหากับกล้ามเนื้อคางและเส้นประสาทที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อได้ ส่งผลให้มีการหดตัวของกล้ามเนื้อคาง เมื่อมองจาก ภายนอก ผิวหนังอาจดูไม่เรียบเนียนได้
– มีพื้นที่ในการผ่าตัดค่อนข้างจำกัด ต้องกรีดเปิดแผลในปากค่อนข้างยาวเพื่อวางซิลิโคน ทำให้เนื้อเยื่อช้ำและมีเลือดออกมาก การเย็บปิดแผลก็ค่อนข้างยุ่งยาก
– เมื่อเกิดปัญหาซิลิโคนเบี้ยวหรือเอียงจะแก้ไขได้ยากเพราะแผลเย็บในปากมีมากแล้ว การผ่าตัดซ้ำอีกก็จะยิ่งเป็นการเพิ่มแผลมากขึ้น
เสริมคางฉีดฟิลเลอร์
เป็นวิธีการเสริมคางให้เรียวสวย โดยที่ไม่ต้องทำศัลยกรรมและใช้เวลาในการทำไม่นานซึ่งการฉีดฟิลเลอร์นี้ก็เพื่อที่จะปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้นคางยาวขึ้นโดยการเติมสารเติมเต็ม ไฮยาลูโรนิคแอซิดซึ่งเป็นที่นิยมใช้กันมากที่สุดในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นสารที่มีคุณสมบัติเฉื่อยไม่ทำให้เกิดการแพ้และมีความคงตัวอยู่ในร่างกายได้เป็นระยะเวลานาน ที่สำคัญคือสามารถเสื่อมสลายไปเอง ได้อีกด้วยนอกจากนี้ยังเป็นสารที่จะช่วยสร้างความตึงให้กับผิวดูอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น
ข้อดี เสริมคางฉีดฟิลเลอร์
– ไม่ต้องพักฟื้นหลังจากฉีดเสร็จกลับบ้านและใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
– ให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว รู้สึกได้ทันทีหลังจากการฉีดว่าใบหน้าดูเรียวขึ้นอย่างทันตาเห็น
ข้อเสีย เสริมคางฉีดฟิลเลอร์
– ไม่สามารถทำให้คางยาวได้มากเกิน 1 ซ.ม. ซึ่งถ้าหากกระทำการเกินกว่านี้ก็อาจจะทำให้เกิดคางผิดรูป ไม่เป็นธรรมชาติ
ก็หวังว่าจะเป็นตัวช่วยให้กับใครที่มีข้อสงสัยเลือกไม่ถูกจะทำแบบไหนช่วยให้ตัดสินใจง่ายขึ้นนะ แต่ถ้าหากยังมีข้อสงสัยลองเข้ามาปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ Charmer Clinic ของเราได้นะ
คลิกอ่าน บทความฟิลเลอร์
🔷 คลิกอ่านบทความ ฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดีสุด ปี2020 ผ่านอยไทย https://bit.ly/2TxPbrp
🔷FAT TRANSFER VS FILLER ฉีดไขมัน หรือ ฟิลเลอร์ แบบไหนดีกว่ากัน? https://bit.ly/2Xk8mGg
🔷 คลิกอ่านบทความ เช็คก่อนฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี https://bit.ly/3c1T4v8
🔷 คลิกดู VDO รีวิว ฟิลเลอร์เติมคางสวยละมุน https://bit.ly/2Dd6wBn
🔷 คลิกดูรีวิว filler ใต้ตา https://bit.ly/3kcsbKi
🔷 คลิกอ่านรีวิว filler ปาก https://bit.ly/33QtN6G
ฝากกดติตตามความงามสาระดีๆ
กดติดตามเพจ FB https://www.facebook.com/charmerclinic2you/
กดติดตาม Tiktok https://www.tiktok.com/@charmerclinic
กดติตตามช่อง Youtube https://bit.ly/2PZiVeR
กดติดตาม IG https://bit.ly/2PYXTwY
กดติดตาม Twitter https://twitter.com/CharmerClinic
กดอ่านบทความดีๆอัพเดท https://charmerclinic2you.com/
สนใจสอบถามปรึกษาแพทย์/นัดคิว
จองคิวที่📲 call center 085-919-2768
-
สาขารัชดา (MRTรัชดาภิเษก) โทร 094-559-8748
-
สาขาอุดมสุข(บางนา) โทร 095-521-0666
-
สาขาเพชรเกษม 69 (victoria garden) โทร 095-058-3666
-
สาขารังสิต (ตรงข้ามฟิวเจอร์พาร์ค) โทร 094-696-5322
-
สาขาสุขุมวิท39 (ตึก Bio House) โทร 093-241-4969
-
สาขาราชพฤกษ์ (The Walk ) โทร 081-444-6395
-
สาขาวัชรพล (the platinum place) โทร 098-154-4454
Click to rate this post!
[Total: 0 Average: 0]