ข้อดี ข้อเสีย ของการฉีดผิว, ขั้นตอนการฉีดผิว และข้อควรระวังเช็คก่อนฉีด
พูดถึงเทรนด์การฉีดผิวในปัจจุบันมีความนิยมมาก และเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ของผู้ที่อยากมีผิวขาวใส มีออร่า แบบเร่งด่วน ซึ่งสารหลักๆ ที่นิยมเป็นสารตั้งต้นในการนำมาฉีดผิว เช่น วิตามิน C ,ALA,Collagen รวมถึงวิตามินอื่นๆ เราพบได้ในรูปแบบของสารอาหารที่อยู่ในผักผลไม้ แต่ในแต่ละวันเราอาจจะทานไม่เพียงพอตามที่ร่างกายต้องการ
ฉะนั้น จึงมีการสกัดและนำมาผ่านนวัตกรรมความงามในรูปแบบ หัตถการการฉีดผิว เพื่อเป็นการดูแลและฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วน ได้รับทันทีเพราะไม่ต้องผ่านการย่อยจากกระเพาะอาหาร
หากคนไข้ได้เข้ารับบริการฉีดผิวต้องได้รับการฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และปลอดภัย โดยสารที่มาฉีดจะมีคุณสมบัติในการฟื้นฟูหรือปรับสีผิว ผิวคล้ำก็กลับมาขาวใสได้ และยังช่วยให้สุขภาพดี สร้างภูมิคุ้มกันป้องกันโรคหวัดได้อีกด้วย
การตัดสินใจที่จะฉีดผิวก็ต้องศึกษาหาข้อมูลก่อนนะคะ วันนี้ชามี่ก็มีเกร็ดความรู้ข้อดี – ข้อเสียการฉีดผิวมาฝากกันด้วยค่ะ
ข้อดี – ข้อเสียของการฉีดผิว
ข้อดี : ของการฉีดผิว
-
ทำให้ผิวขาวใส เนียน นุ่มขึ้น น่าสัมผัส
-
ออกฤทธิ์เร็ว และร่างกายสามารถเอาวิตามิไปบำรุงซ่อมแซมผิวได้ทันที เพราะไม่ต้องผ่านการย่อยจากกระเพาะอาหาร
-
ฉีดแล้วผิวไม่ลอก ไม่ทำลายเซลล์ผิว
-
วิตามินที่นำมาฉีดจะเป็นวิตามินที่มีความเข้มข้นกว่าวิตามินซีที่อยู่ในอาหาร แต่จะฉีดในปริมาณตามร่างกายต้องการ ถึงแท้จะเกินร่างกายสามารถขับออกได้มีตกค้าง
-
ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของเซลล์ผิว บำรุงเซลล์ผิวที่แข็งแรง
-
แผลเป็น รอยดำ หายเร็วขึ้น
-
ช่วยชะลอริ้วรอยเหี่ยวย่นของผิวได้
-
กระตุ้นให้ผิวเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล จนมีคนทักเลยว่า ผิวดูมีออร่าขึ้น
-
เห็นผลได้ชัดเจนและเร็วกว่าการกิน และการเปลี่ยนแปลงจะเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด
-
ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้กับร่างกายด้วย
ข้อเสีย : ของการฉีดผิว
-
เมื่อฉีดแล้วต้องฉีดต่อเนื่อง ถ้าหยุดฉีดไม่ดูแลตัวเองให้ดีพอผิวก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม เพราะการฉีดผิวต้องเข้ารับบริการสม่ำเสมอและความต่อเนื่อง
-
ถึงแม้ว่าการฉีดผิวจะทำให้ผิวขาวใสขึ้นจริง แต่มันก็จะไม่ขาวเกินไปกว่าสีผิวเดิมของสาวๆ หรอกนะจ๊ะ แต่มันจะไปยับยั้งการผลิตเม็ดสีผิวเมลานิน ซึ่งมีหน้าที่ผลิตเม็ดสีต่างหาก เราจะได้ผิวขาวใส ออร่าในระดับที่สีผิวเรามี บางคนผิวคล้ำมากๆ อยากจะขาวจั๊วเหมือนสำลีก็อาจจะเป็นไปไม่ได้
-
ฉีดในปริมาณที่มากเกินไปหรือโอเวอร์โดสนั้น อาจทำให้เสี่ยงอันตรายได้ ทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์ที่เชี่ยวชาญก่อนฉีดนะคะ
-
ต้องระวังแสงแดด เพราะผิวจะไวต่อแสงมาก หลีกเลี่ยงแสงแดด และควรทาครีมกันแดดที่มี SPF50+ ขึ้นไปทุกวัน ถ้าเกิดผิวไหม้ง่ายๆ ควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทันที
ขั้นตอนการฉีดผิว
หลาย ๆ คนอาจจะอยากฉีดผิว แต่ก็ยังไม่รู้ว่าขั้นตอนการฉีดผิวมันเป็นอย่างไร? เราจึงขอมาเล่าให้ฟังกันจ้า ซึ่งการกินวิตามินซีมันก็ช่วยทำให้ผิวใสได้นะ แต่กินเข้าไปเมื่อถึงจุดจุดหนึ่งที่ร่างกายเราจะรับได้ประมาณหนึ่ง ส่วนที่เกินนั้นร่างกายจะขับออกมาเอง ส่วนแบบฉีดวิตามินผิวนั้นจะเห็นผลได้ชัดเจนกว่าการกิน เพราะการฉีดวิตามินจะฉีดเข้าทางเส้นเลือดที่ข้อพับแขน โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ในขณะที่ฉีดจะออกฤทธิ์ได้ทันทีทั่วร่างกาย การฉีดแต่ละครั้ง ไม่ควรเกิน 2-5 กรัม/สัปดาห์และหากมีอาการผิดปกติขึ้นระหว่างการฉีด เช่น แสบคัน ควรแจ้งผู้ฉีดให้หยุดฉีดทันที เนื่องจากอาจจะไม่ได้ฉีดเข้าไปในเส้นเลือด แต่อาจเข้าไปที่บริเวณกล้ามเนื้อหรือผิวหนังแทน ซึ่งการฉีดผิวใช้เวลาไม่นานเพียง 15-30 นาที เท่านั้น
หลังจากที่คุณได้ทำการฉีดแล้ว แนะนำว่าให้ดื่มน้ำปริมาณมากๆ เพื่อน้ำจะช่วยให้เลือดใสไม่หนืดเกินไป ช่วยปรับสภาพผิวไปในตัว และป้องกันไม่ให้วิตามินที่เข้มข้นมากนั้น เข้าไปขัดขวางกระบวนการทำงานของระบบดูดซึมอาหารประเภทอื่นได้ และที่สำคัญควรทากันแดดที่มี SPF50+ ขึ้นไปทุกวันไม่ว่าจะเป็นที่ร่ม หรือกลางแจ้งเพื่อปกป้องผิวสวยๆ ของเรา
ข้อควรระวังเช็คก่อนฉีด
-
การฉีดวิตามินผิวด้วยสูตรวิตามินเข้มข้น ยังไม่พบว่าเป็นอันตราย เพราะเป็นสารอาหารที่ร่างกายต้องการ ไม่ใช่สารแปลกปลอม ร่างกายจะไม่มีการต่อต้านเกิดขึ้น แต่ต้องได้รับบริการจากคลินิกที่ได้มารตฐาน และให้บริการโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
-
เช็คประวัติคลินิกที่ต้องการฉีดว่ามีมาตรฐานหรือเปล่า ต้องศึกษาข้อมูลและเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ มีใบอนุญาตอย่างถูกต้อง ซึ่งสถานที่และอุปกรณ์ต่างๆ ในที่นำมาใช้ในการฉีดผิวขาว เราต้องมั่นใจได้ว่าสะอาดปลอดเชื้อ และได้รับการฉีดแบบถูกวิธี เพราะถ้าเกิดติดเชื้อขึ้นมาผลที่ตามมามันน่ากลัวกว่าที่คิดนะคะ
-
ฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือพยาบาล ให้คำแนะนำอย่างละเอียดเกี่ยวกับตัวยาที่ใช้ ซึ่งการซื้อวิตามินผิวมาฉีดเอง หรือฉีดกับหมอกระเป๋าถือว่าเสี่ยงอันตรายอย่างมาก
-
เช็คตัวเองว่ามีประวัติแพ้ยา หรืออยู่ระหว่างการผ่าตัดหรือเปล่า เพราะอาจเกิดความเสี่ยงต่อการฉีด หรืออาจติดเชื้อในกระแสเลือดได้ อีกทั้งการที่ร่างกายไม่แข็งแรงอาจส่งผลไปถึงภูมิคุ้มกันด้วย
-
การฉีดผิวจะเห็นผลอยู่ที่ประมาณ 3-5 ครั้ง แต่บางคนก็ 7-8 ครั้ง แต่ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและความถี่ในการฉีด ในช่วงแรกอาจจะฉีดสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เมื่อผิวเริ่มมีสุขภาพดีขึ้น ประมาณ 3 สัปดาห์ แล้วก็สามารถทิ้งช่วงได้เป็นเดือนละ 1 ครั้งก็ได้ แต่หากอยากรักษาผลลัพธ์ไว้ ควรมาฉีดอย่างต่อเนื่อง ประมาณ 3 เดือน จะเห็นผลลัพธ์ที่ขาวใสขึ้น และอยู่ได้นานขึ้นค่า
การฉีดผิวขาวใส ต้องเตรียมตัวให้พร้อมทั้งร่างกาย และศึกษาหาข้อมูลให้ดีก่อนทำ เลือกคลินิกที่มีมาตรฐาน ปลอดภัย ใช้ของแท้เท่านั้น เพื่อสาวๆ จะได้มีผิวที่สวยสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก
สำหรับผู้ที่สนใจฉีดผิวสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ ชาเมอร์คลินิกทุกสาขา ขอให้มั่นใจได้เลยถึงมาตรฐาน และปลอดภัย ชาเมอร์คลินิกเราเปิดให้บริการมานานถึง 7 ปี เรามีรีวิวลูกค้ามากมายที่มาใช้บริการ เรามีทีมแพทย์พร้อมให้คำปรึกษา หรือสอบถามได้ที่ ราคาโปรโมชั่นและรายการฉีดผิวที่นี่
#charmerclinic #ความสวยของคุณคือเป้าหมายของเรา #ชาเมอร์คลินิก #ฉีดผิวใส #วิตามินผิวใส
คลิกอ่านบทความ ฉีดผิวขาวที่ไหนดี
คลิกอ่านบทความ 9 คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับมาเด้ คอลลาเจน
คลิกอ่านบทความ แก้ปัญหาใต้ตาดำเป็นแพนด้า ด้วยบาบี้อาย
คลิกอ่านบทความรวมคำถามสุดฮิตเกี่ยวกับการร้อยไหม
ฝากกดติตตามความงามสาระดีๆ
กดติดตามเพจ FB https://www.facebook.com/charmerclinic2you/
กดติดตาม Tiktok https://www.tiktok.com/@charmerclinic
กดติตตามช่อง Youtube https://bit.ly/2PZiVeR
กดติดตาม IG https://bit.ly/2PYXTwY
กดติดตาม Twitter https://twitter.com/CharmerClinic
กดอ่านบทความดีๆอัพเดท https://charmerclinic2you.com/
สนใจสอบถามปรึกษาแพทย์/นัดคิว
จองคิวที่📲 call center 085-919-2768
-
สาขารัชดา (MRTรัชดาภิเษก) โทร 094-559-8748
-
สาขาอุดมสุข(บางนา) โทร 095-521-0666
-
สาขาเพชรเกษม 69 (victoria garden) โทร 095-058-3666
-
สาขารังสิต (ตรงข้ามฟิวเจอร์พาร์ค) โทร 094-696-5322
-
สาขาสุขุมวิท39 (ตึก Bio House) โทร 093-241-4969
-
สาขาราชพฤกษ์ (The Walk ) โทร 081-444-6395
-
สาขาวัชรพล (the platinum place) โทร 098-154-4454