ไม่มีความเห็น

ปัญหาการฉีดโบท็อก มีอะไรบ้างที่เกิดขึ้นได้

การฉีดโบท็อก หรือการฉีด Botulinum toxin A เป็นเทรนด์ความงามที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงหลายปีมานี้ เนื่องจากโบท็อกมีคุณสมบัติหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นการช่วยลดกราม ลดแก้ม ยกกระชับกรอบหน้า ทำให้หน้าดูเรียวเล็ก รวมทั้งยังช่วยลดริ้วรอยเหี่ยวย่นบริเวณใต้ตา ตีนกา หน้าผาก ทำให้รูปลักษณ์แลดูอ่อนเยาว์ขึ้นได้ในราคาที่คนทั่วไปเอื้อมถึง แต่อย่างไรก็ตาม การฉีดโบท็อกก็อาจทำให้เกิดปัญหาหรือผลข้างเคียงตามมาได้เช่นกัน เช่น ฉีดแล้วปวดศีรษะ ปากเบี้ยว หรือแก้มห้อยย้วยลง ซึ่งทำให้ใครหลายคนยังคงลังเลว่าควรจะลงทุนกับการฉีดโบท็อกดีหรือเปล่า

 

ปัญหาจากการฉีดโบท็อก เกิดจากอะไร?

ปัญหาจากการฉีดโบท็อก เกิดจากอะไร?
ปัญหาหรือผลข้างเคียงต่าง ๆ จากการฉีดโบท็อก เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ยกตัวอย่างเช่น
  • ใช้โบท็อกปลอม ไม่ได้มาตรฐาน หรือโบท็อกที่ไม่ผ่าน อย. ทำให้สารที่ฉีดเข้าไปอาจตกค้างอยู่ในร่างกายและเป็นอันตราย
  • ผู้ฉีดไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์ที่เชี่ยวชาญหรือมีประสบการณ์ ซึ่งความผิดพลาดจะพบบ่อยในคนไข้ที่เลือกฉีดโบท็อกกับหมอกระเป๋า
  • อุปกรณ์และกรรมวิธีการฉีดไม่สะอาด มีเชื้อโรคปนเปื้อน หรือเทคนิคไม่ได้มาตรฐาน
  • ปริมาณในการฉีดหรือจำนวนยูนิตมากเกินไป
  • คนไข้ละเลยการดูแลตัวเองหลังการฉีด เช่น ฉีดโบท็อกแล้วนอนราบทันที ทำให้ตัวยากระจายออกจากจุดที่ฉีด ปล่อยให้โบท็อกโดนความร้อน หรือนวดคลึงบริเวณที่ฉีดแรงเกินไป
  • คนไข้มีปัญหาสุขภาพอยู่ก่อนแล้ว เช่น มีภาวะแพ้โบท็อก เป็นโรคเลือดหยุดไหลยาก เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือมีโรคประจำตัวอื่นๆ
  • คนไข้ไม่ได้เตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกตามคำแนะนำที่เหมาะสม เช่น ทานยาแอสไพรินมาในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนฉีด ทำให้เมื่อฉีดแล้วเกิดภาวะเลือดหยุดไหลยากหรือแผลบวมช้ำ
ผลข้างเคียงที่เกิดจากโบท็อก
ปัญหาและผลข้างเคียงจากการฉีดโบท็อก มีอะไรบ้าง?
ปัญหาและภาวะข้างเคียงที่พบได้บ่อย ๆ หลังการฉีดโบท็อก มีดังนี้
ปวดศีรษะ
ปวดศีรษะ
มีผู้ป่วยบางคนที่อาจเกิดอาการปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน หลังการฉีดโบท็อกได้ ซึ่งบางครั้งอาการเหล่านี้อาจเกิดจากการแพ้ตัวยาที่ฉีด คนไข้ที่มีอาการจึงควรอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด หรือบางคนที่ฉีดโบท็อกที่กราม ก็อาจเกิดอาการปวดกรามจนลามมาที่ศีรษะได้เหมือนกัน ซึ่งหากภาวะดังกล่าวไม่รุนแรงมากนักอาการก็จะค่อยๆ หายไปเองได้
หน้าไม่สมมาตร
หน้าไม่สมมาตร
หลายคนอาจประสบปัญหาปากเบี้ยว แก้มย้วยห้อย หรือใบหน้าสองข้างไม่เท่ากันหลังฉีดโบท็อก ซึ่งมักพบบ่อยในคนที่ฉีดโบท็อกบริเวณกราม แล้วโบท็อกกระจายไปผิดจุด ทำให้ใบหน้าดูไม่สมดุลหรือมุมปากเบี้ยวเวลายิ้ม ในบางคนที่มีไขมันที่แก้มมากอยู่แล้ว เมื่อโบท็อกเข้าไปทำให้กล้ามเนื้อกรามเล็กลง ก็อาจส่งผลให้แก้มดูย้วยห้อยลงมามากกว่าเดิมได้เช่นกัน
ใบหน้าเป็นอัมพาต
ใบหน้าเป็นอัมพาต
การที่ใบหน้าบางส่วนเป็นอัมพาต ตึง ชา ขยับไม่ได้หลังจากฉีดโบท็อก มักมีสาเหตุมาจาก botulinum toxin เข้าไปยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด ทำให้กล้ามเนื้อมัดนั้นเป็นอัมพาตชั่วคราว ซึ่งโดยปกติจะส่งผลให้ใบหน้าดูตึงกระชับและริ้วรอยลดเลือนลง แต่หากผู้ฉีดขาดความชำนาญหรือกะปริมาณยาผิด ก็อาจทำให้กล้ามเนื้อข้างเคียงได้รับผลกระทบไปด้วยจนขยับเคลื่อนไหวไม่ได้ตามต้องการ แม้อาการดังกล่าวจะค่อยๆ ดีขึ้นได้เอง แต่เราก็ควรเลือกฉีดโบท็อกกับคลินิกที่เชื่อถือได้เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะเหล่านี้ตั้งแต่แรก
ข้อต่อขากรรไกรหลวม
ข้อต่อขากรรไกรหลวม
คนไข้บางคนอาจรู้สึกว่าข้อต่อขากรรไกรหลวมหรือไม่แข็งแรง มีอาการปวดกล้ามเนื้อในขากรรไกร หรือเมื่ออ้าปากกว้างๆ แล้วรู้สึกกึกๆ เหมือนข้อต่อหลุด อาการเหล่านี้เป็นผลมาจากฤทธิ์ของโบท็อกซึ่งทำให้กล้ามเนื้อที่ยึดขากรรไกรหดเล็กลงและไม่แข็งแรงเท่าเดิม ซึ่งหากอาการรบกวนชีวิตประจำวันมากคนไข้ก็ควรปรึกษาแพทย์
หนังตาตก
หนังตาตก
เป็นปัญหาที่พบได้ในคนที่ฉีดโบท็อกบริเวณระหว่างคิ้ว หน้าผาก หรือใกล้กับเปลือกตาบน ซึ่งสารที่ฉีดจะออกฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นอ่อนแรง เราจึงมีความรู้สึกว่าคิ้วและหนังตาตกลง จนบางคนถึงขั้นลืมตาไม่ค่อยขึ้นหรือดูเหมือนง่วงนอนอยู่ตลอดเวลา ปัญหานี้ป้องกันได้โดยการเลือกฉีดโบท็อกกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและกะปริมาณตัวยาที่ฉีดให้เหมาะสม
ร่างกายอ่อนแรง
ร่างกายอ่อนแรง
บางคนฉีดโบท็อกที่ใบหน้า แต่กลับมีอาการแขนขาอ่อนแรงและเคลื่อนไหวลำบากร่วมด้วย ซึ่งอาการดังกล่าวเกิดจากพิษของ Botulinum toxin A ที่ฉีดเข้าไป ไปกดการทำงานของกล้ามเนื้อและระบบประสาททั่วร่างกาย หากสังเกตว่าตัวเองมีอาการรุนแรงถึงขั้นขยับแขนขาไม่ได้ หายใจลำบาก เห็นภาพไม่ชัด หรือไม่สามารถกลั้นปัสสาวะได้ ก็ควรรีบติดต่อแพทย์โดยด่วนที่สุด
บริเวณฉีดที่ติดเชื้อ
บริเวณที่ฉีดติดเชื้อ
การติดเชื้อหลังฉีดโบท็อก อาจเกิดจากอุปกรณ์หรือสถานที่ฉีดนั้นไม่สะอาด เทคนิคการฉีดไม่ได้มาตรฐาน หรือขาดขั้นตอนการฆ่าเชื้อที่เหมาะสม ทำให้คนไข้เกิดอาการติดเชื้อ บวมแดง และอักเสบในบริเวณที่ฉีด ซึ่งปัญหานี้ก็ถือเป็นภาวะอันตรายที่คนไข้ควรรีบไปพบแพทย์เช่นกัน
เพื่อป้องกันปัญหาและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการฉีดโบท็อก เราจึงควรเลือกฉีดโบท็อกกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีแพทย์ผู้มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ และเลือกใช้ตัวยาของแท้ที่มีคุณภาพ ขณะเดียวกันก็ควรหลีกเลี่ยงการฉีดโบท็อกกับแพทย์ปลอมหรือหมอกระเป๋า รวมทั้งเลี่ยงการฉีดตัวยาปลอมที่ไม่ผ่านการรับรองโดย อย. ด้วย

 

 

Charmerclinic

ฝากกดติตตามความงามสาระดีๆ
กดติดตามเพจ FB https://www.facebook.com/charmerclinic2you/
กดติดตาม Tiktok https://www.tiktok.com/@charmerclinic
กดติตตามช่อง Youtube https://bit.ly/2PZiVeR
กดติดตาม IG https://bit.ly/2PYXTwY
กดติดตาม Twitter https://twitter.com/CharmerClinic
กดอ่านบทความดีๆอัพเดท https://charmerclinic2you.com/
Click to rate this post!
[Total: 2 Average: 3]
Share this

“ความสวยของคุณ คือเป้าหมายของเรา”

จองคิวที่ call center 085-9192768

สาขารัชดา โทร 094-5598748
สาขาอุดมสุข(บางนา) โทร 095-521-0666
สาขาเพชรเกษม 69 โทร 095-058-3666
สาขารังสิต โทร 094-696-5322
สาขาอโศก-สุขุมวิท โทร 093-241-4969
สาขาพรอมานาด โทร 098-154-4454
สาขาเมเจอร์ปิ่นเกล้า โทร 083-978-0666
สาขาราชพฤกษ์ โทร 096-016-1666 

ท่านสามารถแสดงความคิดเห็นที่ข้อสงสัยได้ที่ด้านล่างนี้

บทความที่น่าสนใจ